คือสถานะการเงินครับ
ลิเวอร์พูลหลังจากเริ่มไมไ่ด้แชมป์ช่วงยุค90ไป สถานะการเงินก็ไม่ได้โหดเท่าไหร่

แต่แมนยูจนถึงตอนนี้ไม่ได้แชมป์เกือบ15ปี ยังฟันรายได้ติดอันดับTOP5(ุถ้าจำผิดขอภัย)
แต่ที่แน่ๆไม่เกินTOP10ของโลกแน่นอน

ผมว่าสายป่านแมนยูยาวกว่าลิเวอร์พูลนะครับ มีโอกาสกลับมาได้เสมอ
เพราะรายได้ความนิยมยังมีอยู่ทั่วโลก แม้ไม่ได้แชมป์ลีคเกือบ15ปีแต่ก็มีแชมป์อื่นเรื่อยๆ

ต่อให้ตกต่ำเพิ่มอีก10ปี20ปี แมนยูก็จะมีรายได้สูงเงินทุนให้มาแก้ตัวเรื่อยๆได้หรือเปล่า

รายได้มาจากสปอนเซอร์และแฟนๆ แต่ถ้ามันเสื่อมลงตลอดก็ไม่แน่ครับ

ไม่ได้แชมป์คืออีกเรื่องนะครับ

แต่ฟอร์มมันควรดีกว่านี้ การใช้เงินแก้ปัญหาเป็นอะไรที่ง่ายสุดละ และแมนยูสามารถใช้ได้เป็นสิบปี

สิ่งที่สำคัญกว่าการเงินคือแผนการเล่น และโครงสร้างองค์กรครับ ตอนที่เชลซี/แมนซิ กลายมาเป็นทีมลุ้นแชมป์ ก็ได้ ผจก./แผน ที่ดี + มีเงินซื้อนักเตะ เจ้าของทีมมีนโยบายคว้าแชมป์ชัดเจน

ตอนลิเวอร์พูลก็รื้อโครงสร้างองค์กรใหม่ ค่อยๆ ซื้อผู้เล่นดีๆ มาจนเป็นดรีมทีม

แต่ตอนนี้ผมว่าแมนยูมีแค่เงินทุน นอกนั้นไม่มีอะไรลงตัวเลยสักอย่าง

คำถามคือถ้าแมนยูตกต่ำต่อไปอีกสัก10ปี-20ปี ก็ยังมีทุนให้มาลองผิดลองถูกแบบปัจจุบันได้อีกเรื่อยๆใช่ไหมครับ

แสดงว่าต่อให้ไม่ได้แชมป์ลีคอีก10ปี-20ปีในความคิดท่านแมนยูก็ยังมีทุนให้ลองผิดลองถูกอีกเรื่อยๆใช่ไหมครับ

ถ้ายังเป็นยังงี้ มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ

เอาตรงๆแบรนแมนยูแข็งมากๆน่ะครับก็ตามนั้น

ต่อให้ไม่ได้แชมป์ลีค แต่ถ้ายังเป็นทีมระดับท๊อปไป UCL แทบทุกปี ก็ไม่มีทางตกต่ำหรอกครับ เอาแค่ไม่ตกชั้นจนไม่ขึ้นมาอีกเลย ยังไงก็หากินชื่อเสียงไปได้อีก ยาวๆ

ปกติช่วงที่ผีรุ่งเรือง มันเป็นช่วงที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกได้ทั้งสปอนเซอร์เเละเเฟนบอล

ถ้าหงส์เครื่องติดยาวๆจากยุค70-80จนถึงปัจุบันนะคงสู้มาดริด บาซ่าได้

ที่แบรนด์มันแข็งได้ก็มาจากผลงานบุญเก่าในสนามยุค90ต่อเนื่องมา2010 ตลอด20ปีที่ว่าสร้างฐานแฟนบอลไปทั่วโลก พอมีฐานแฟนบอลเยอะ สปอนเซอร์ต่างๆก็วิ่งเข้าหาแย่งกันสนับสนุน
ต้องถามกลับกันทุกวันนี้มีแฟนรุ่นใหม่เชียร์แมนยูมั้ยบอกเลยน้อยมากๆถ้าไม่ใช่ลูกเชียรืตามพ่อ เด็กที่ไหนจะตามเชียร์ทีมที่ฟอร์มกากได้ขนาดแฟนเดิมๆยังเอือมกับการเล่น สปอนเซอร์หดไปด้วยไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดเงินรางวัลจากแชมเปี้ยนลีคก็ไม่มี
ที่มีอยู่คือแฟนรุ่นเดิมๆอย่างเราๆเพราะทีมฟุตบอลมันเปลี่ยนทีมเชียร์กันไม่ใช่ได้ง่ายๆ เรียกว่าทุกวันนี้กินบุญเก่าจากยุคป๋าก็ว่าได้เลย
คนชอบบอกแมนยูการตลาดดี แบรนด์แข็ง บลาๆ คือถ้ามันไม่มีปลาให้จับจะทำตลาดยังไงก็สูญเปล่า
แมนยูต้องเปลี่ยนแนวคิดเรื่องให้เวลาโค้ชที่ไม่ได้เรื่องแล้วยังให้โอกาสทำไปเรื่อยๆจนพัง ผมจำได้ลิเวอร์พูลช่วงตกต่ำไม่เคยรอให้เวลาผู้จัดการทีมขนาดแมนยูแน่นอน ตั้งแต่ราฟาขนาดพาหงส์ได้แชมเปี้ยนลีคอันดับในลีคไม่ได้แย่แต่ไม่ได้แชมป์ก็ไล่ออก จนมารอย ฮ็อดสัน ทำทีมไม่ถึงปีก็ไล่ออก(รอย ฮ็อดสันที่แฟนหงส์ว่าแย่ จริงๆผลงานดีกว่าอโมริมด้วยซ้ำ) คิงเคนนี่ทำทีมได้ปีเดียวผลงานไม่ได้เป็นตำนานยังไล่ออก ร็อดเจอร์ทำทีมได้ที่2ใกล้เคียงแชมป์มากคุมได้2ปีกว่าก็ไล่ออก เปลี่ยนจนมาเจอคล็อปนั่นแหละ
มองกลับมาที่ผีเงินก็ให้ช็อปมากกว่าหงส์อย่างที่ว่า ให้เวลาทำทีมจนดำดิ่งยังไม่ไล่ออก นี่คือข้อแตกต่างแล้วหละครับ

เงินล่วงหน้า + ละลายแม่น้ำ

คือหนี้แมนยูตอนนี้ ถ้าปีหน้ายึด top4 หรืออย่างน้อยๆ top6 ไปบอลยุโรปไม่ได้ คือจะลำบากมากครับ

พูดกันตามจริงคือล้มได้ทุกเมื่อถ้าใช้จ่ายไม่ระวัง ถ้ายังเป็นแบบนี้อีก พอขายหุ้นใช้หนี้จริงๆแล้ว

ถ้าถามผม อาการตอนนี้อยู่ได้ด้วยน้ำมนต์ ไม่ได้ดีกว่าลิเงอร์ยุคตกต่ำหรอก นั่นคือไม่มีคือไม่มี แต่ตอนนี้คือ ไม่มีก็จะทำให้มีมันต่างกัน

ช่วงที่ผ่านมาคือกินบุญเก่า แต่จากนี้ไม่ใช่แล้ว สถานะการเงินแมนยูแย่มากจน sjr ต้องตัดรายจ่ายเยอะแยะจนโดนด่า แต่ cfo แมนยูคงรู้อยู่แก่ใจว่ากลวงเต็มทีแล้ว ปีนี้ที่ซื้อเยอะผมว่ากัดฟันเสี่ยงดวงเต็มที่เลยนะ แต่ดูท่าแล้วเป็นการเสี่ยงที่อาการน่าเป็นห่วง

สถานะ Bankruptcy จะใช้คำว่า “ไม่โหดเท่าไหร่..ไม่ได้”

มันคือสถานะ จ่อโดนแบงค์ยึด และแยกชิ้นส่วนขาย555

แมนยูเป็น สโมสรที่อยู่ในช่วง กำลังพัฒนา ครับ