[RE: ประชาธิปไตยไม่ใช่รับฟังความเห็นทุกฝ่าย แต่รับฟังความเห็นคนที่ยืนอยู่บนหลักการประธิปไตยและหลักสากล]
seaborgium พิมพ์ว่า:
lethalgunman99 พิมพ์ว่า:
คุณถูกในแง่เจตนารมย์ในการรักษาประชาธิปไตย ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นสิ่งหลักที่ต้องการจะสื่อ ยกเว้นแค่ "กำจัด" นี่แหละ ที่มันดูparadoxical เพราะมันฟังดูฟาสซิสต์เผด็จการซะเอง
ใช่ครับ มันต้องมีการกําจัดถ้าพวกที่ไม่อยู่ในหลักการประชาธิปไตยและหลักสากลแต่มีอํานาจในการบริหารบ้านเมือง ตัวอย่างปฏิวัติคุกบาสตินในฝรั่งเศสจนถึงประท้วงในเนปาล ผมถึงเคยบอกไง อยากได้ประชาธิปไตยเต็มใบถ้าไม่นองเลือดมันไม่มีทางได้ ฝ่ายมีอํานาจถ้าไม่ถูกต้อนให้ต้องยอมรับอํานาจอธิปไตยเป็นของประชาชนหรือถูกกําจัด ไม่มีทางยอมให้มี มันเป็นความจริงอันเจ็บปวดที่ต้องยอมรับให้ได้ ถ้าประชาชนไทยยังรับไม่ได้ก็ไม่ทีทางไปถึงระดับต่างประเทศที่เราอยากให้เป็น
ผมว่าการจะบอกว่าต้องแลกด้วยเลือดถึงจะได้ประชาธิปไตย ก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว To be fair อาจจะจริงในหลายประเทศ แต่ก็ไม่เสมอไปมีหลายประเทศแลกด้วยเลือดมาไม่รู้กี่รอบแล้วก็ยังไม่ได้มาซึ่งประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน ประเทศที่ได้มาซึ่งประชาธิปไตยลงท้ายมันต้องมีฐานความคิดร่วมการของประชาชนก่อน
เนปาลที่ท่านว่ามา ก่อนหน้านี้ก็ตายกันเป็นหมื่นคนเพื่อโค่นล้มกษัตริย์มาเมื่อ20ปีก่อนแล้ว แต่สิ่งที่ได้คือความไม่เสถียรและการเมืองวนลูป ไม่ใช่ประชาธิปไตยมั่นคง
ส่วนฝรั่งเศสยุคหลุยส์16หลังจากยุคนั้นก็วนลูปมาเป็นเผด็จการใหม่เช่นนโปเลียนแทนระบอบกษัตริย์อยู่ดี ที่ประชาธิปไตยจริงๆมันเกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นเกือบร้อยปีซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับปฏิวัติพระเจ้าหลุยส์เลย
จริงๆมีตัวอย่างที่ไม่เวิร์กอีกเพียบเลย ปฏิวัติกษัตริย์ซาร์ตายhaกันเพียบลงท้ายได้โซเวียต, ปฏิวัติกษัตริย์อิหร่านลงท้ายได้รัฐเผด็จการอิสลาม, สงครามกลางเมืองจีนลงท้ายได้พรรคคอมมิวนิสต์, หรือใกล้ๆตัวอย่างพม่านี่แลกมาไม่รู้กี่ศพมาหลายสิบปีแล้วก็ยังไม่ไปไหน
ในขณะที่ประเทศที่เปลี่ยนผ่านแบบค่อยเป็นค่อยไปมีอีกเยอะแยะ และยั่งยืนกว่าด้วย classic case คือสเปนที่ประชาชนล้มตระกูลเผด็จการตั้งแต่รุ่นพ่อของJuan Carlosได้โดยเริ่มจากค่อยๆรณรงค์แก้กฎหมายทีละนิดเนี่ยแหละ, ไต้หวันก็ได้ประชาธิปไตยมาอย่างค่อยเป็นค่อยไปและยั่งยืนจากก๊กมินตั๋งโดยไม่ได้แลกมาด้วยฆ่ากัน
ในบริบทประเทศไทย ผมว่าเราก็ผ่านเลือดมาเยอะแล้วเหมือนกันเพื่อประชาธิปไตยเต็มใบตั้งแต่2516, บวกลบ2519, 2535, 2553 ซึ่งมันพิสูจน์แล้วว่าตายกันกระจุยขนาดนั้น ก็ไม่ได้แลกมาซึ่งประชาธิปไตยเลย ตราบใดที่คนไทยยังมีคนจำนวนไม่น้อยให้ท้ายการรัฐประหารที่ถูกสนับสนุนโดยตรงจากท่านอิม ในบริบทประเทศไทยผมว่าที่ส้มทำอยู่นี่แหละคือถูกต้องแล้ว โดยการรณรงค์ทางความคิดให้คนยอมรับกติกาของทุกฝ่าย และ การสื่อสารแก่นของปัญหาที่เป็นแบบเฉพาะประเทศไทยจริงๆ(ที่ทหารแทรกแซงการเมืองผ่านการสนับสนุนของท่านอิม) ซึ่งถึงจะไม่ได้สื่อสารโดยชนกับท่านอิมโดยตรง แต่การรณรงค์ผ่านนโยบายที่เปิดความเชี่ยของอำนาจซ้ายขวาของท่านอิมที่เป็นรากเหง้าปัญหาของประเทศไทย(ปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปทหาร ยุบองค์กรอิสระที่ขึ้นตรงกับคสช แก้112)นี่แหละที่ผมเชื่อว่าจะเปลี่ยนผ่านประเทศไทยได้อย่างยั่งยืนครับ