มันต้องมีสไตล์การเล่นที่คนกล่าวถึงด้วย ไม่ใช่การยิงเยอะอย่างเดียว ฮาลันด์ก็คล้ายฟอร์ลัน ตรงที่สถิติการยิง ฝีมือการจบสกอร์ไม่เป็นรองใคร แต่การจะถูกกล่าวถึงมันต้องมีอะไรมากกว่าการยิงเข้าแล้วเฮ

ไม่อย่างนั้น โด้อ้วน ,มาราดอนน่า ไม่ได้รับการยกย่องเป็นตำนานหรอก ถ้าวัดกันเอาแค่จำนวนประตู มันต้องมีช็อตตัดสินเกม(กดดัน) การมีส่วนร่วมจินตนาการสวยๆ เพราะฟุตบอลนอกจากประตูแล้ว มันขายความเอนเตอร์เทรนด์

ตอนนี้ ยามาล ถึงได้ถูกพูดถึงมากกว่าฮาลันด์ ในการจะก้าวขึ้นมาเป็นระดับโลก

ปล.เป้ก็เช่นกัน มีส่วนร่วมกับทีมน้อยลง หลังๆนี่ก็เอาแต่ยิง ไม่มีช็อตมหัศจรรย์เหมือนเมื่อก่อน

รอฮาลันด์ย้ายไปบาซ่า กระแสอาจจะกระเพื่อมนิดนึง

ไม่ได้อยู่ลีคเดียวกัน ทีมไม่ใช่คู่ปรับกัน
ผลงานไม่ได้โดดเด่นเท่าโด้-เมส

ฮาลันด์รอดูไปถึงช่วงอายุเลข 3 ก่อนดีกว่า คือถ้าฟอร์มเป็นแบบปีแรกที่มาแมนซิได้ตลอด คนคงพูดถึงมากกว่านี้ ณ ตอนนี้คือผลงานยังอยู่ในระดับทอปก็จริง แต่มันกลับดรอปลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่อายุประมาณนี้มันควรจะพีคกว่านี้ ด้วยองค์ประกอบทีม หรือแทคติคก็มีส่วน แต่ว่าถ้าจะไปอีกระดับมันต้องแบกทีมได้ด้วยตัวเองไปเลย

ทั้งสองยังไม่มีข้างไข่ครับ

เพราะ 2 คนนั้นไม่เคยอยู่แมนยู

จะเปรียบเทียบมันก็ทำได้แหละ แต่สตอรี่มันไม่เข้มข้นพอจะไปวัดคู่นั้นอะ มีสถิติอัพขึ้นมาแทบจะทุกซีซั่น ปั๊มStatกันในลาลีก้าวัดกันไปเลย วัดกันไปเลยตรงๆยกตัวอย่างเช่น Weekนี้รีลบุกไปเจอทีมโอซาซูน่า โด้ยิง3 Weekต่อไป บาซ่าเปิดบ้านเจอโอซาซูน่าเหมือนกัน เมสยิงไม่ได้แต่แอสซิสล่อไป3 ไรงี้ ไหนจะเอลกลาซิโก้มีสิทธิ์เจอกันเกิน2แมทอีก ถ้าต่างคนไม่เผลอตกบอลถ้วยนะ นี่ยังไม่นับUCLอีกนะ

ผมว่าน่าจะได้สักครั้งแหละ ผลงานอยู่ในระดับสูงกว่านักเตะคนอื่นทั่วไปมาหลายปี

เบนเซม่า โมดริช ยังได้ตอน 30 กว่าๆ

และก่อนหน้านี้จังหวะอาจไม่ดี เช่น โด้เมสยังเทพอยู่ หรือ PSG ยังไม่ได้ UCL

และมันไม่น่าจะซวยแบบเนย์มาร์ ชไนเดอร์ ริเบรี่ VVD ที่อยู่ในช่วงโด้เมสตอนพีคพอดี

มันไม่สุดทั้งคู่ เป้มันก็เหมืนอจะพีคแต่ไม่พีค ฮาลันด์ถ้าตัดแรงอวยก็พอกันคือเหมือนจะพีคแต่พีคไม่สุด ตอนนี้ทั้งคู่มันก็อยู่ในช่วงพัฒนาตัวเองไปให้สุดกว่านี้มั้ง

เป้ก็เจอปัญหาย้ายไปตำแหน่งทับกับวินิ ก็เหมือนต้องไปเล่นกองหน้ากลายๆ ไม่ค่อยได้เล่นปีกที่ถนัด ส่วนฮาลันด์สไตล์มันคือกองหน้าจ๋าอ่ะ ฟอร์มการยิงประตูมันโหดจริง แต่ฟอร์มมันไม่ถึงขั้นเดอะแบก match winner ขนาดนั้น นัดที่หายก็หายจริง

โดยรวมก็ยังโหดทั้งคู่นะ เป้เห็นคนแซวๆกัน ฤดูกาลที่แล้วมันกดไป 44 ประตูรวมทุกรายการนะ ส่วนฮาลันด์ถึงจะหายบ้าง แต่โดยรวมก็ยังอยู่ในระดับเกือบ 40 ประตูรวมทุกรายการอยู่ในช่วงสองปีหลัง


แต่โด้ช่วงฟอร์มที่คนแซวกันว่าอยู่หน้ารอแทปอินอย่างเดียว ก็กดปีละ 50-60 ลูกยาวๆนะ ถ้าจะไปให้ถึงระดับกองหน้าจอมถล่มประตูก็ต้องขนาดนั้นแหละ เพราะถ้าระดับแถวๆ 30-40 ประตูต่อฤดูกาล มันมีผู้ท้าชิงหลายคน หรือถ้านับเฉพาะในลีก ฤดูกาลที่แล้วฮาลันด์กดไป 22 ลูกเอง ซาล่า เคน เลวาน บับเป้ พวกนี้ถ้านับเฉพาะในลีกยังยิงเยอะกว่าฮาลันด์ฤดูกาลที่แล้วอีก

ผมว่า 2 คนนี้มันเด่นแหละ แต่มันยังไม่ได้แบบเวอร์ขนาด พี่ 2 คนนั้นเขาอะ

ฮาลันด์พอขาดตัวป้อนดีๆก็แอบเงียบนะ (แต่ถ้าฟอร์มแบบนี้คือไม่เงียบหรอก แต่ถ้าเทียบกับ 2 ปีก่อนถือว่าเงียบ)

ส่วนเป้ ก็เก่งนะ แต่ตอนฟอร์มตอนที่มันว้าวกว่านี้คือพี่ 2 คนนั้นเขาก็ยังวัดกันอยู่ ยังแมสอยู่

ปล.อีก Factor นึงที่ผมคิดนะ อาจจะคิดไปเองคือ พี่โด้ แกเคยอยู่แมนยู และเด็กแมนยูเยอะและก็อวยแกช่วงแรก

พอย้ายไปมาดริด แฟนมาดริดก็พอสมควรก็อวยแก ทีนี้ บวกกับแฟนที่หมั่นไส้แมนยูรวมถึงบาซ่าที่หมั่นไส้มาดริด

ก็ยกเมสซี่มาข่ม ทีนี้ติ่งพี่โด้ก็ไม่ยอมบวกกับมีจำนวนเยอะเหมือนกันจากทีมที่พี่โด้อยู่

ดังนั้น แฟนด้อมเมสซี่ กับ แฟนด้อมพี่โด้ เลยกลายเป็นเยอะโดยปริยาย บวกกับบาซ่ากับมาดริดเป็นอริกันโดยตรงอีก

รวมถึงแฟนแมนยูเยอะและแฟนที่หมั่นไส้เยอะอีก นั่นแหละ วัดกันไปยาวๆ555555

ปล.แฟนแมนยูบางคนก็ชอบเมสซี่นะครับ

ฟอร์ม2คนนี้ไม่ได้ทิ้งห่างคนอื่นแบบโด้เมสก็ส่วนนึง แต่ส่วนสำคัญคือโด้เมสเป็นเหมือนขั้วตรงข้ามด้วย สตอรี่มันขายได้

จากจอมมารบู สู่ท่อนไม้

ฟอร์มชอตไป ปีกว่าแล้ว ไม่ยิงระเบิดแบบเมื่อก่อน ต้องรอกลับมา