แผนการบิน (Flight Plan) ต้องยื่นล่วงหน้า
แผนการบินคืออะไร?
Flight Plan คือเอกสารหรือข้อมูลที่แสดงรายละเอียดทั้งหมดของเที่ยวบินที่กำลังจะออกเดินทาง โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อให้หน่วยงานควบคุมการจราจรทางอากาศ (ATC) สามารถ ติดตาม ควบคุม และช่วยเหลือ เครื่องบินตลอดเส้นทางได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
________________________________________
ข้อมูลสำคัญในแผนการบินประกอบด้วย:
1. รหัสเที่ยวบิน (Call sign)
2. จุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทาง (Departure & Arrival Aerodromes)
3. เส้นทางบินที่ใช้ (Route)
4. ความสูงบิน (Cruising Level)
5. ความเร็วการบิน (True Air Speed – TAS)
6. ประเภทเครื่องบินและอุปกรณ์บนเครื่อง
7. ปริมาณเชื้อเพลิง / เวลาเดินทาง
8. สนามบินสำรอง (Alternate Airport)
9. ข้อมูลสำหรับค้นหาและกู้ภัย (SAR – Search and Rescue) เช่น จำนวนผู้โดยสาร ชื่อกัปตัน
________________________________________
⏱️ ยื่นล่วงหน้ากี่ชั่วโมง?
ตามมาตรฐานของ ICAO (International Civil Aviation Organization)
• แผนการบินจะต้องยื่นอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง (ETD – Estimated Time of Departure) สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ
• สำหรับ เที่ยวบินระหว่างประเทศหรือเที่ยวบินที่ต้องขออนุญาตพิเศษ อาจต้องยื่นล่วงหน้ามากกว่านั้น แล้วแต่ข้อกำหนดของแต่ละประเทศ



อย่างแอร์ไลน์ท้่วไปหรือบินฝึกก็ต้องมีแผนการบินด้วยนะ
เห็นเมื่อคืนกระแสการบินมาแรง เลยหามาเป็นความรู้

สรุปคือ มันคือแผนการบินที่ส่งให้หอล่วงหน้า เพื่อให้เค้าจัดการจราจรได้

คำถามคือ ถ้าเขียนว่าไป สคป แล้ววนไปดูไบกลางอากาศได้มั้ย

คำตอบ ได้

แต่เนื่องจากไม่ตรงไฟล์ทแพลนที่เคยส่งมา เพราะฉะนั้นการจัดจราจรทางอากาศจะเป็นแบบ แก้ไขหน้างาน ทุกๆ control zone ที่ผ่าน

เราเลยเห็นว่า เค้าบิน holding หลายรอบ หลายครั้ง หลายจุด นั่นเอง

แต่ทักกี้วางแผนไปดูไบอยู่แล้ว เพราะนักบินวางแผนเรื่องน้ำมันถูกไหมครับ เพราะถ้าไปแค่สิงค์โปร์จริง น้ำมันคงไม่พอไปถึงดูไบหรอกมั้ง

แกจ้างเครื่องบินมาเติมน้ำมันกลางอากาศครับ

ตามนั้นแหละครับ ไม่งั้นต้องลงจอดที่สิงคโปร์ก่อนเพื่อเติมน้ำมัน แล้วถึงจะไปต่อได้

เปลี่ยนเส้นทางบินระหว่างทางทำได้แหละครับ แค่ไม่ใช่มาตรฐานที่จะใช้ทำกันตลอด


ความเพี้ยนของเคสทักษิณที่น่าสงสัยจริงๆสำหรับผมคือแค่สองเรื่องหลักๆ คือเรื่องเชื้อเพลิงสำหรับบิน 2 กับ 6 ชั่วโมง ข้อควรปฏิบัติคือควรจะใส่สำรองไว้แค่ 30-40% เผื่อการบินวน และ turbulance เพื่อป้องกันอะไรหลายๆอย่าง และลดต้นทุนในการ operate เครื่องบินจากน้ำหนักที่เกินจำเป็น ต่อให้เป็นเครื่องบินของตัวเองก็ตาม จะเขื่อมั่นนักบินมันด้วยเชื้อเพลิงเต็มถัง บินไปที่ไหนก็ได้ขนาดนี้ ผิดวิสัยความปลอดภัยของ VVIP ไปเยอะ


และ สองคือ ถ้าสนามบินที่ตั้งใจจะไปคือสิงค์โปร์จริงๆ ควรจะรู้ตั้งแต่ก่อน take off แล้วว่าไม่ทัน ไม่ใช่ไปเปลี่ยนใจกลางอากาศ และต่อให้เปลี่ยนใจกลางอากาศ ไม่มีใครยืดระยะเวลาการบินออกไปเกิน original route กว่าสองเท่าเพื่อลงจอดสนามบิน alternative แน่ๆ เคสนี้คือบินกลับบ้านหรือไปลงมาเลเซียง่ายกว่าเยอะ ทำไมต้องดูไบ


ให้เดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ น่าจะขออนุญาตไปดูไบตั้งแต่ก่อนจะเทคออฟ จากที่จะไปสิงค์โปร์ขอเปลี่ยน destination เพราะต้องเปลี่ยนแผนสิงค์โปร์กะทันหัน เลยเติมเชื้อเพลิงเผื่อไว้แต่แรก แต่ Authorization มาไม่ทัน เลยต้องบินวนตรงนั้นเพื่อรอความชัดเจนเผื่อว่าต้องกลับมาลงที่ไทย (หัวหิน) ที่อ้างไว้แต่แรกน่ะแหละ คือรู้แต่แรกแล้วว่าไปสิงค์โปร์ไม่ทัน ในหัวผมมันเมคเซนส์แค่นี้จริงๆ

ส่วนคำถามที่ว่า แพลนไปดูไบแต่แรกมั้ย

ผมเชื่อว่าใช่

แม้ไม่ได้รู้ส่วนลึกของเคคื่องลำนี้

แต่ถ้าเติมน้ำมันไปดูไบได้ ถ้าเทคออฟจากกรุงเทพแล้วลง สคป จริงๆ น่าจะมีปัญหาเรื่อง Maximum Landing Weight จนลงที่ สคป ไม่ได้อันเนื่องมาจากน้ำมันที่มากเกินไปอยู่ดี