เคยอ่านมังงะจบมานานมากแล้ว และเคยดูanimeถึงภาคย่านเริงรมย์นานมากแล้ว สรุปบิ้วใหม่เลย ย้อนความจำ ไล่ดูตั้งแต่ ภาคย่านเริงรมย์ มาหมู่บ้านช่างตีดาบ แล้วมาภาคการสั่งสอนของเสาหลัก

วันนี้จึงไปดูในโรงหนัง ปราสาทไร้ขอบเขต ระยะเวลา2ชั่วโมงครึ่งรู้สึกไวเหมือนโกหกเลย ดูเพลินมากไม่มีเบื่อเลย สู้กันมันส์มากๆ แต่เห็นมีแฟนๆบ่นเรื่องการย้อนอดีตโดยเฉพาะของอาคาสะว่าดูยืดเยื้อ เอาตามมังงะมากไป ประกอบกับ

แต่ผมกลับชอบแฮะ เพราะมันช่วงท้ายการต่อสู้แล้ว ถ้าคนไม่เคยอ่านมังงะแล้วลดทอนฉากย้อนอดีตผมว่าพลาดเลยหละ เพราะปูมหลังอาคาสะน่าสนใจทำให้รู้ตัวตนของอาคาสะจริงๆว่าเป็นคนยังไง



อีกอย่าง บางคนอาจคิดว่าอาคาสะมันบทเยอะเกินตัวอื่น แต่ผมคิดว่าชื่อภาคเขาก็โปรยมาแล้วว่า การกลับมาของอาคาสะ อาคาสะมีบทเยอะผมไม่แปลกใจนะ จุใจด้วยซ้ำ เซอร์วิสแฟนแบบฉ่ำๆเลย


ทุกท่านคิดว่าไงครับ ชอบหรือไม่ชอบ ที่ย้อนอดีตตัวละครอาคาสะเยอะแบบนี้

ใน 3 คู่ ชอบ ชิโนบุ vs โดมะที่สุด

กลมกล่อม เพลงดี สู้สนุก บทสนทนาไม่ง่วง

ดูแบ้วทำผมขนลุกได้

คู่อาคาสะ ในฐานะที่เป็นคู่จบ ถือว่าน่าผิดหวัง ยิ่งพอมีคู่เทียบจากภาคก่อนๆ คือ ทันจิโร่ vs ฮังเทนงูยังสนุกกว่า

จำได้ว่าตอนอ่านมังงะ ผมอินมากนะ แต่พอดูเมะมันรู้สึกเนือย
อาจจะเพราะท่าฟันคอขิงทันจิโร่มันธรรมดาก็ได้มั้ง

ผมชอบคู่อาคาสะมากสุดแฮะบู๊ดุเดือดดีประมาณสู้กับเทพสงครามต้องรุม รองลงมาคู่โดมะออกแนวพลอตสยองขวัญดี คู่เซนอิตสึอันดับสุดท้ายออกแนวตบเกรียน

ผมเห็นด้วยนะว่ามันย้อนบ่อยไป บางฉากมันรวมเป็นฉากเดียวได้ แต่นี้บางฉากมันปล่อยมาตัดอารมณ์ไม่พอ ดันย้อนแค่ ไม่กี่วิหรือกี่นาทีก็มี

เรื่องย้อนอดีตยังไงมันก็ต้องย้อนเพราะถ้าไม่ย้อนคนดูก็จะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

ดาบพิฆาตอสูรถ้าอาจารย์เข้เขียนเพิ่มจากเดิมสัก 5-6 เล่มเนื้อเรื่องช่วงท้าย ๆ มันจะไม่บีบขนาดนี้หรอก อาจารย์เข้แกเร่งเนื้อเรื่องช่วงท้าย ๆ เหมือนเขียนฟรีแล้ว บก. ไม่จ่ายเงิน

ตัดย้อนบ่อยไปหน่อยมันรวมเป็นก้อนเดียวกันได้ ฉากในอดีต

ถ้าตามที่ลือคือแกรีบจบเองครับ ที่บ้านเรียกตัว

ช่วงอดีตชิโนบุ กับ เซ็นอิตสึ รู้สึกขัดใจเบาๆ

แต่ช่วงอดีตอาคาสะนี่ยกให้เลย ดูแล้วอินจัด ดูแบบภาพเคลื่อนไหวประกอบดนตรีเศร้าๆมันไปสุดกว่าในมังงะมาก

ทีมงานคงไม่อยากไปแตะแหละครับ มันสู้หลายคู่ด้วย ถ้าจบละย้อนทีเดียวอารมณ์มันน่าจะปนกันเกินไป

ในวัย 30+ ผมชอบนะ ระหว่างสู้มีตัดฉากรำลึกความหลัง เพราะตัวละครมันจะมีจุดยิ่งสู้ ยิ่งนึกถึงอะไรบางอย่าง พัฒนาอะไรบางอย่าง เพราะก่อนมาเป็นอสูร ก็เป็นมนุษย์มาก่อน แล้วเสียตัวตนไป จนจำเรื่องราวอะไรไม่ได้ มันทำให้รู้เรื่องราวความรู้สึกขณะสู้ของตัวละครไปด้วย

ถ้าในวัยเด็กๆมาดูก็คงเบื่อกับฉากย้อนแบบนี้

ความรู้สึกน่าจะเปิดฉากอาคาสะมาให้เห็นตอนต้นเรื่อง แล้วมีแว่บๆย้อนอดีตช่วงต้นแบบปลายเปิดทิ้งไว้ก่อน พอไปถึงช่วงซัดกันแล้วจบด้วยปลายปิดอีกหน่อย มันจะไม่รู้สึกขัดมู๊ดแอ๊คชั่นขนาดนี้

อันนี้คือเอามังงะมาทั้งดุ้นเลย แต่ด้วยความเป็นหนังแล้วมันน่าจะทำอะไรให้มันรู้สึกสมูธได้มากกว่านี้อีกหน่อย ถ้าเป็นตอนๆแบบเดิมๆจะไม่ติดเลย

เพื่อนผมไปดูทุกคนก็บอกว่าฉากย้อนอดีตทำขัดอารมณ์

ต้องบอกว่าจุดขายของเรื่องนี้(อนิเมะ)คือเรื่องเดินไว ใส่กันตลอดไม่ต้องพูดเยอะเน้นเสพงานภาพ คนส่วนใหญ่เลยคาดหวังแบบนั้น

ยิ่งส่วนตัวผมนะ ไม่อินกับพวกอสูรในเรื่องสักตัวอยู่แล้ว + อ่านมังงะเลยรู้เนื้อเรื่องมาก่อน ย้อนอดีตทำหลับได้เลย

ไม่ชอบเพราะสตอรี่มันไม่มีอะไรเลย ตามสูตรหมด แล้วดูจงใจยืดชัดเจน ถ้าเรื่องอดีตมันสนุกกว่านี้อะไม่ขัดหรอก

ผมโคตรไม่ชอบเลย บอกตรงผมเข้าไปหลับจริงๆ พวกฉากย้อนนานๆ ผมพักตาเลย พอได้ยินดนตรีบิ้วๆก็ลืมตามาดู แม่งเอ้ย ลืมตามาได้แปปนึง เอาอีกละ


ผมไม่อินอะ ย้อนเลอะเทอะเกินไป ขึ้นว่าเป็น มูฟวี่เข้าโรง มันก็ควรจะเรียบเรียง ทำอะไรให้มันเหมาะสมกับมูฟวี่ ไม่ใช่ ctrl+c ctrl+v มาแบบนี้

จบจากฉากระเบิดบ้านภาคหมู่บ้านตีดาบ ผมแม่งไฮป์แบบข้ามปีเลย

พอดูจบมาผมแม่งพอเลย ผมดูสปอยมังงะทุกอย่างเลย ภาคหน้าคงไม่ได้ดูอะ เพราะมันไม่เปลี่ยนไปจากนี้หรอก


แต่คือใครชอบก็ดีแล้วครับ แต่ผมไม่ไหวจริง แทบไม่เคยดูหนังโรงแล้วหลับเลยอะ เจอไอ้นี่ไปกาแฟก็เอาไม่อยู่

ผมไม่ชอบย้อนอดีตเท่าไหร่ แต่ ถ้าไม่ย้อน

หนังมันก็น่าจะ ทำได้ แค่ 2 ภาค

เข้าใจแหละ