จากเพจ asean มอง ไทย

https://www.facebook.com/share/p/179DR7nKTg/?mibextid=wwXIfr

สรุปแบบย่อนะ

1. เด็กกัมพูชาที่เข้ามาเรียนในไทยบอกพูดภาษาเขมรไม่ได้ แต่ผู้ใหญ่บ้านบอกพูดได้ เพราะกลับบ้านไปพูดกับแม่ (พ่อแม่เป็นคนกัมพูชา พ่อแม่เลิกกัน แม่มีสามีใหม่คนไทย)

2. แม่บอกว่าพาลูกเข้าไทยมาตั้งแต่เด็ก ลูกพูดภาษาเขมรไม่ได้ (แล้วพูดภาษาอะไรในเมื่อลูกอยู่กับแม่) สรุปแม่พาลูกเข้าไทยมาตอน 7 ขวบ ไม่ใช่เข้ามาตั้งแต่เด็กทารก

3. แม่บอกไม่มีญาติอยู่ฝั่งกัมพูชา แต่พ่อเลี้ยงคนไทยบอกทุก ๆ ปิดเทอม แม่จะพาลูกกลับไปกัมพูชา

4. อ้างว่าเด็กเรียนเก่ง น่าสงสาร แต่เด็กไทยหลายคนก็เรียนเก่ง ความเรียนเก่งคนละส่วนกับความดีและความถูกต้อง

5. ไม่มีหลักฐานเข้ามาโดยถูกต้อง จึงได้ดำเนินการแจ้งข้อหาในเรื่องของหลบหนีเข้าเมือง แต่เจ้าหน้าที่ได้แนะนำ 2 แม่ลูก ให้กลับไปทำเรื่องให้ถูกต้องก่อนเข้ามาประเทศไทย ซึ่งทางตำรวจก็เห็นใจเด็ก แต่ก็ต้องทำให้ถูกต้อง ซึ่งในอนาคตก็มีโอกาสกลับเข้ามาเรียนได้ (ก็แล้วแต่ฝั่งแม่จะตัดสินใจ)

6. ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านพยายามสอบถามแม่และลูกว่ามีเอกสารถูกต้องหรือไม่ แม่ของเด็กก็บอกว่ามีพาสปอร์ต ต่อตลอด แต่ตอนหลังถูกจับได้ว่าพาสปอร์ตขาดไป 4-5 ปีแล้ว ส่วนเอกสารพาสปอร์ตตัวจริงมีหรือไม่ ก็ไม่เคยเห็นเอาให้ดู

ตามหลักมนุษยธรรม แค่ไปทำเรื่องให้ถูกกฎหมายก็จบละ เอาดี ๆ ก็เห็นใจเด็ก แต่หวังว่าจะไม่โตมาแล้วเป็นแบบคนที่เรียนราชภัฏสุรินทร์แล้วกลับไปเป็นทหารกัมพูชาแนวหน้ารบกับไทย คือไม่ได้อยากจะว่าน้องอายุ 13 เป็นคนไม่ดีนะ แต่พูดกันไว้ก่อน ถ้ารักประเทศไทยจริง ๆ ก็กลับไปทำเรื่องให้ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วจะอยู่ไทยกับครอบครัวก็คงไม่ห้าม ทางเลือกในไทยมีเยอะ แต่เคสน้องคล้ายนักมวยกาก้า 5 เม็ด นั่นก็ไม่รู้ภาษาเขมร (ตัวอักษร) พูดไทยกับพูดเขมรได้ เป็นลูกต่างด้าวที่โตในไทยแบบน้อง 13 แต่กาก้ากลับเขมรไปก็ด่าไทยฉ่ำอยู่ โตมาด้วยค่ายมวยไทย กลับไปเป็นกุนขแมร์ถาวร

Case study มีเยอะ ก็แอบระแวงอยู่เนอะ ✌

ออกตัวไว้ก่อนนะว่าผมไม่อยากว่าเด็ก แต่เคสนี้คือนิสัยเขมรมากๆ ที่ชอบโกหกดื้อๆ หมายถึงตัวแม่นะ โกหกหลายจุดเลย

ผมว่าโตขึ้นไปถ้ามีโอกาสน้องก็น่าจะพร้อมเนรคุณประเทศไทย มันเหมือนอยู่ในสายเลือดที่ปลูกฝังกันมา

อยากให้น้องได้โอกาสนะ แต่แม่กับน้องก็ควรทำให้ถูกกฎหมาย และขอให้น้องโตขึ้นไปแล้วให้การศึกษาประเทศไทยหล่อหลอมให้กลายเป็นคนดี

แม่เด็กไปทำเอกสารให้ถูกต้องก่อน แล้วเด็กค่อยทำเอกสารติดตามครอบครัวเข้ามา

หรือ

เด็กไปทำวีซ่าเรียนหนังสือเข้ามา

ออกตัวไว้ก่อนนะว่าผมไม่อยากว่าเด็ก แต่เคสนี้คือนิสัยเขมรมากๆ ที่ชอบโกหกดื้อๆ หมายถึงตัวแม่นะ โกหกหลายจุดเลย

ผมว่าโตขึ้นไปถ้ามีโอกาสน้องก็น่าจะพร้อมเนรคุณประเทศไทย มันเหมือนอยู่ในสายเลือดที่ปลูกฝังกันมา

อยากให้น้องได้โอกาสนะ แต่แม่กับน้องก็ควรทำให้ถูกกฎหมาย และขอให้น้องโตขึ้นไปแล้วให้การศึกษาประเทศไทยหล่อหลอมให้กลายเป็นคนดี

ก็รู้สึกแบบนั้นแหละ แค่ทำให้ถูกต้อง มันยากหรอ ครูแม่มยังคิดไม่ได้

อันนี้จริงแมร่งเป็นกันทุกคนไม่รู้ปลูกฝังมายังไง นิสัยโกหกเนี่ย

คนงานเขมรเก่าที่ผมเจอก็ชอบโกหกแบบไม่เนียน ไม่รู้เพื่ออะไร

กระดุมเม็ดแรกยังติดผิด แล้วจะมาเรียกร้องอะไร. ทำเรื่องให้ถูกต้องแต่แรกก็จบ จะได้ไม่ต้องมึพวกศีลธรรมสูงส่งมาว่าคนอื่น ว่าไม่มีความเป็นมนูษย์. นี่ก็มีอีกเคส เด็กเรียนทุน สุดท้ายลาออกไปเป็นทหาร หันปากกระบอกปืนใส่ไทย ศีลธรรมมั้ยละมึง.

ด้วยพื้นฐานของชีวิต,Culture,การศึกษา
มันทำให้ชาวขเมรเขาเป็นแบบนี้กันทั้งหมดแหละ
คือเราจะเชื่อคำพูดพวกเขาไม่ได้เลย
ผมเคยอยู่ในพื้นที่ชายแดน เคยทำการค้ากับชาวกัมพูชา
ถ้าเดินมาซื้อของ 100 คน จะมี 99 คนที่พร้อมจะโกหกคุณอ่ะ
เพราะฉะนั้น อะไรที่พวกเขาอ้างมาร้อยแปดพันประการ
ให้ประเมินไว้เลยว่ามันไม่ใช่ความจริง

มีแต่เรื่องที่โกหกทั้งนั้นหาความจริงจากแม่ได้ที่ไหนโกหกตั้งแต่แรกๆเลย ไม่อยากด่าครูนะแต่เรื่องนี้ถ้าผิดกฎหมายก็ควรทำให้ถูกก่อนไม่ใช่พอกระแสมาดีเราก็มองข้ามกฎหมาย

ผมว่าควรติดต่อไปหาพ่อแม่เด็กมากกว่าที่จะพุ่งเป้าไปหาเด็กโดยตรงอ่ะ อันนี้แบบพุ่งไปหาเลย ให้ถอดชุดลูกเสือออกแล้วเอาตัวไปรวมกับชาวกัมพูชาคนอื่นเตรียมส่งกลับ ส่วนแม่ก็นะไม่ควรทำแบบนี้ไม่สงสารลูกตัวเองเลย อาจไม่ได้กลับมาแล้วมั้ง แต่เห็นคุณครูเค้ารวบรวมเงินไว้ให้น้องอยู่นะเอาไว้ติดตัวเผื่อกลับเขมร

โอกาส ควรให้กับคนที่ควรได้รับ

แต่เราเองก็ไม่เข้มงวดเรื่องหลักฐานเอกสารด้วย ใจดีเกินไป

คดีไม่พลิกเท่าไรหรอกครับ เรื่องนี้มันก็เป็นข่าวตั้งแต่วันแรกแล้ว
ที่ว่าโกหก ไม่ใช่ว่าไปโกหกตำรวจ 2-3 วันเพิ่งรู้ แต่เป็นผู้ใหญ่บ้านออกมาพูดว่ามันเป็นแบบนี้ๆ แล้วขัดกับที่สารภาพกับตำรวจ
ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้ลงลึกหรอกว่า ผู้ใหญ่บ้านไปคุยตั้งแต่ตอนไหน หรือยังไง

ตอนนี้ พุ่งไปที่ เห้ย แม่โกหกนี่หว่า ไอ้เด็กนี่ไม่น่าสงสารหรอก
ทั้งที่ความจริง ตำรวจก็เล่นไปจับซะในโรงเรียนเลย ภาพมันออกมาดูไม่ดีหรอก มันต้องปรับปรุงวิธีการ
จะอ้างว่าทำตามกฎหมายอย่างเดียวก็ไม่ได้ อย่างที่ว่ามันมีสนธิสัญญาโน่นนี่นั่น ที่เราก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ไว้อีก

กับ ถ้ามาบอกตอนท้ายว่า แค่เดินเอกสารให้ถูกต้อง เด็กก็กลับมาเรียนได้
ถ้าง่ายแบบนั้น มันก็ไม่น่าเริ่มด้วยการจับเด็กไหม
ตำรวจรับเรื่องมาประสานอำเภอ ให้ผู้ปกครอง ครู นักเรียนมาคุย แล้วก็บอกว่าต้องทำยังไง ต้องเตรียมเอกสารอะไร
ภาพมันจะออกมาดูดีกว่านี้อีก

แล้วเด็กได้เข้าห้องขังมั้ยอ่ะ​ เห็นตอนหลังว่าไม่ได้เข้าไป

ไม่พลิกอะไรทั้งนั้น

เข้ามาผิดทั้งแม่-ลูก

ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง เข้าเรียนยังไง

เด็กไม่ได้เกิดไทย ติดแม่มาจากเขมร พูดเขมรได้



นักสังคมสงเคราะห์ และนักสิทธิ์ มนุษยฯ SS ช่วยน้องหน่อยสิ

เห็นเย้วๆต่อต้านตั้งแต่วันแรกๆละ

ข้อมูลนี้ออกมาตั้งแต่วันแรกๆแล้วครับ มุมมองผม ตัวแม่เด็กอะผิดเต็มๆ แต่ไม่ควรไปลงกับเด็ก
มาตอน7ขวบมันก็เด็กอยู่ดี แม่ให้ทำอะไรมันก็ทำแหละ สุดท้ายในเมื่อกฏหมายมันเปิดช่อง ก็ไปทำให้มันถูกซะ

มันแหม่งๆ