ถ้าเราเป็นบอร์ดบริหาร เป็นผู้จัดการ เราจะจัดการยังไงกับความกดดันดีครับ คือก็เข้าใจแหละ ว่านักเตะระดับนี้มันควรจะรับมือกับความกดดันได้ แต่บางความกดดันมันก็อาจจะยากจริงๆ อย่างบังโม่ แกเคยสัมว่า แกไม่ชินกับการเป็นนักเตะแมนยูเลย แค่จะไปกินข้าว ยังมีแฟนๆรอถ่ายรูปมากมาย แกบอกไม่เคยเจอ

ถ้ามองเป็นปัญหา ผมว่ามันก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อนักเตะจริงๆนะ ขยับอะไรก็เป็นข่าว ทำอะไรสื่อก็จับจ้อง ฟอร์มดีนัดหนึ่งสื่อก็พร้อมอวยยับๆ พอพลาดสื่อก็พร้อมรุมทึ้งเหมือนกัน หลักๆผมอยากให้สโมสรลดการออกสื่อ หรือการเกี่ยวข้องกับสื่อไปก่อน ผมว่าตอนนี้สโมสรอยู่บนหน้าสื่อเยอะมาก มากเกินจำเป็น อย่างเรื่องการสัม ผมรู้สึกว่าอโมรวยหัวคิมผมสัมเยอะฉิบหาย ผมอยากให้ลดเรื่องเกี่ยวกับสื่อหน่อย น่าจะลดความกดดันได้ ไว้ผลงานดี ทีมเติบโตเต็มที่ ค่อยมาสนเรื่องพวกนี้

"สื่อ"

สื่อมันจ้องเยอะครับ โทษอโมริมไม่ได้หรอก เรื่องสัมภาษณ์ มีแต่เอาไมค์มาจ่อ ตลอด เหมือนเคยมีข่าวว่า สโมรสรลด พวกสื่อบางจำนวนไปแล้วบ้างนะ แต่ก็ยังเยอะอยู่ดีอะ

ยุคนี้ต้องห้ามเสพสื่อ social เลย พวกรุ่นใหญ่ยังพอรอดนะ ไม่ติดมาก พวกแมคไกว บรุโน่ คาเซ

ถ้าพวกวัยรุ่น มันโตมากะ social ไม่รอด รับเตม ดุซานโช แรช กานาโช่ มันเล่น social ตลอดชัว

สื่อคือขึ่นก้อวยสุด ถ้าล้ม ก้เหยียบจมอ้ะ แฟนผี กะนักข่าว

ผลงานปัจจุบันนี่คือทีมกลางค่อนไปทางท้ายตารางแล้วนะ ยังรู้สึกกดดันกันอีกหรอ

ถ้าเป็นทีมที่ได้แชมป์ ลุ้นแชมป์ทุกปีจะไม่แปลกใจเลย เพราะต้องทำมาตรฐานให้เท่าเดิมในทุกปี

แต่นี่แฟน ๆ แค่หวังติด Top 6 เอง หรือ มีสักถ้วยในแต่ละปีแค่นี้ ความคาดหวังมันลดลงมาจากแต่ก่อนเยอะแล้วนะ

ผมว่าเป็นปัญหาที่นักเตะรับมือความดังที่ได้รับเมื่อมาอยู่แมนยู ไม่ได้มากกว่า

ต้องทำเหมือนป๋าอ่ะ ไม่ให้นักเตะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนอกสนามเยอะเกินไป

ทีมเคยดี แต่กำลังตกต่ำ


แฟนก็คาดหวังว่าให้กลับมาดี

เงินทุนก็ลงไปเยอะธรรมดาที่จะคาดหวัง

แต่ของพวกนี้ไม่ใช่ลงเงินโง่ๆ อย่างเดียว

ระบบต้องมี หลังบ้านต้องดีด้วยในยุคนี้

หมดยุคที่คนๆ เดียวแบบป๋า แบกทุกอย่างแล้ว

ระบที่ดีจะทำให้ไม่ต้องพึ่งคนๆ เดียวในการประสบความสำเร็จ

เท่าที่เห็นก็สัมแต่เพรสคอนนะ

ผมว่าต้องเลิกทำตัวดูดแสงแบบโอนาน่าอะ อย่างนัดกริมบี้ยังไม่เข้าใจตอนคุนย่ายิงโทษจะเดินไปเอาซีนกอดคุนย่าทำไม คุนย่ายิงไม่ดีนั่นเรื่องนึงนะ แต่โอนาน่ามันเหมือนหิวแสงจริงๆ

ส่วนคนอื่นๆ มาอยู่สโมสรใหญ่ๆมันกดดันอยู่ละ ถ้าไม่ทำพลาดง่าวๆก็ไม่ค่อยโดนหนักเท่าไรหรอก

เอาจริงแฟนแมนยูก็ปกป้องนักเตะมากเลยนะ จนมันไม่ไหวจริงๆ อย่างลุนด์ก็เพิ่งโดนโถมช่วงหลังเอง ช่วงแรกๆนี่ก็ป้องกันยับๆอยู่นะ

ก็หวังให้โมเมนตัมทีมชนะจะคลายความกดดันไปได้บ้าง

จริง อย่างมู้ล่างรวมคลิบเซเมนโย่ vs สเปอร์ ผมดูแล้วก็เล่นดีแต่ยิงไม่คม โหม่งจ่อๆข้่ามคาน ดูบอร์นมัธนัดอื่นมาก็ไม่ได้ดีทุกจังหวะขนาดนั้น โดนกองหลังวิ่งแซง จ่ายเสียง่ายๆก็มี คน hype กันใหญ่

เมื่อคืนจารย์ดู๋เล่นดีทั้งเกม แต่ยิงไม่คม คนยังด่าเลย เมาท์แม่งเข้าระบบ บีบจนเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ไม่รู้กี่ครั้ง บางคนบอกเอาไปทิ้งได้เลย

เพราะตกต่ำแบบนี้ไงเลยยิ่งกดดันเข้าไปใหญ่ ความกดดันให้กลับไปเป็นแบบเดิมให้ไดั

เอาแค่ให้ติด Top 6 ก่อนไหม

ทีมระดับแมนยูขอแค่นี้มันมากไปหรอเนี่ย

เป็นนักเตะระดับนี้มาอ้างความกดดันผมว่ามันดูไม่เมกเซนส์เลย ทั้งที่ตัวเองก็ต้องแข่งขันกับนักเตะคนอื่นเพื่อให้อยู่ในระดับสูง มันต้องเจอความกดดันตลอดเวลาอยู่แล้ว

ใช่ไงครับ แค่กลับไปติดtop6ยังลำบาก มันก็เลยยิ่งกดดันไงล่ะ

แล้วความกดดันกับแมนยูมันมากกว่าสโมสรอื่นๆอยู่แล้ว เพราะผลงานที่มันตกต่ำ ทีมใหญ่ทีมอื่นเขาก็ไม่ตกมาขนาดนี้
ทำผลงานไม่ดีกับแมนยูมันเป็นข่าว โดนสื่อสับ โดนแฟนบอลล้อหนัก
พลาดกับทีมอื่น คนไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้น

ลองดูนักเตะที่ย้ายออก ก็มีเล่นดีบ้าง เฉยๆบ้าง แต่ก็ไม่ได้โดนไฟส่องขนาดแมนยู

ทำไมต้องไม่กดดัน ทุ่มงบไปขนาดนั้น แฟนบอลมากขนาดนั้น
ไหนจะชื่อเสียง ไหนจะรายได้ โดนด่าทีก็ทั่วโลก

เอาอะไรมาไม่กดดันครับ เป้าหมาย กับ ความกดดัน คนละเรื่องนะ ละผมว่าทีมไม่ได้ตั้งเป้าลุ้น TOP6 หรอก
ไม่เห็นสีหน้าโค้ช สีหน้านักเตะ อารมณ์ตอนยิงเหรอ ว่ามันกดดันขนาดไหน

เรื่องนอกสนาม น่าจะมีผลเยอะ ถ้าเอ็มบูโม่ ที่เพิ่งย้ายยังพูดถึง

เรื่องกดดันค่าตัวนี่เป็นกันทุกคนทุกทีมป่ะครับ ไม่ใช่แค่กับแมนยู

ผมพูดถึงกดดันจากชื่อเสียงเก่า ๆ ของแมนยู อันนี้มันต้องมีบ้าง แต่อันดับตารางตอนนี้มันไม่ควรต้องมากดดันกับชื่อเสียงเก่า ๆ แล้วน่ะ

ผมเลยมองว่าเป็นเพราะชื่อเสียงและแสงที่ได้รับเมื่อมาอยู่แมนยูมากกว่า ตอนฟอร์มดีก็อวยกันจนลอย พอฟอร์มห่วยก็ด่ากันจมดิน

ผมว่านักเตะควรงดเรื่องนอกสนามไปเลย โฟกัสที่ฟุตบอลอย่างเดียว

แต่ทั้งหมดที่ฟอร์มแมนยูไม่ดี จะมาโทษนักเตะอย่างเดียวมันก็ไม่ถูก ผจก.ทีมก็ต้องรับไปด้วย

ผมว่าสโมสรแมนยูนี่ล่ะกดดันสุดๆ
ไม่ใช่ว่าทีมอื่นไม่กดดัน แต่ของแมนยูมันคนละแบบ อารมณ์ตามหลังชาวบ้าน ต้องเร่งต้องถีบขนาดไหน พอมันกดดันมากๆตั้งใจมากๆ มันก็ฟอร์มหด ตัวอย่างง่ายๆอารมณ์เหมือนเราเรียนหนังสือใกล้จะสอบจบม.6แล้ว แต่เรายังไม่ได้ส่งงานที่ค้าง ไม่ได้ติวสอบ ไม่ได้เลือกที่เรียนต่อ เพราะมัวไปเสียเวลากับอะไรก็ว่าไป แต่พอเวลามันมีไม่พอความกดดันมันก็เกิดอย่างมหาศาลเอง เพราะเราต้องเร่ง ต้องรีบให้ทันเขา จะบอกว่าให้ปล่อยใจสบายๆจะทำได้ไงล่ะครับ