จากข่าวที่ว่าต้องขาย แจ๊กสัน เอ็นคุนคู ก่อนเพื่อเอามาถัวเฉลี่ยเพดานรายจ่ายเพื่อใช้ลงทะเบียน ซิม่อน กับ กานาโช่ ที่จะซื้อเพิ่ม

เอาตามที่ผมเข้าใจคือ ค่าใช้จ่ายรายปีของตัวใหม่ที่จะลงทะเบียนเพิ่มเข้าไปใน 25 คนที่จะเตะ UCL ปีนี้ ต้องมาจากการลดค่าใช้จ่ายโดยการปล่อย 25 คนที่ลงทะเบียนเตะคอนเฟอเรนท์รอบท้ายปีก่อน ( เลยไม่นับพวกที่ปล่อยยืมมกรา ขายไปก็ไม่นับเป็นกำไรในเคสนี้ )

ในข่าวใช้คำว่า ‘cost savings’ versus ‘new costs’

cost savings ก็มาจากการปล่อยนักเตะจากใน 25 คนที่ลงทะเบียนปีก่อน เพื่อลดค่าตัดจำหน่ายรายปี ลดค่าเหนื่อยรายปี + ได้กำไรจากการขายออกแต่นับแบบหาร 3

new costs คือ ค่าตัดจำหน่ายรายปี กับ ค่าเหนื่อยรายปี ของนักเตะใหม่ที่จะลงทะเบียนเพิ่มเข้าไปในถ้วยยุโรปปีนี้


cost savings ต้องมากกว่า new costs


อันนี้คือ ยูฟ่า ลงโทษ เชลซี ที่ทำผิดกฎการเงินปีก่อน ปีนี้เลยโดนปรับเงิน + ลงโทษแบบนี้



แล้วกำไรจากการขายนักเตะในเคสนี้ ทาง ยูฟ่า ก็คิดกำไรแบบพิเศษเลยไม่เหมือน FFP และ PSR ยกตัวอย่างเช่น

- มาดูเอเก้ ซื้อมา 29 ขาย 48.5 = 19.5 ลป แล้วเอามาหาร 3 เท่ากับ 6.5 ลป นี่คือวิธีคิดกำไรในเคสนี้

แล้วนับแค่ตัวที่ลงทะเบียนบอลยุโรปรอบน็อคเอาท์ปีก่อนนะ เลยนับแค่ มาดูเอเก้ ,อามูกู ,ดิวบิวรี่ฮอล คนอื่นที่ขายออกไปได้แล้วไม่นับรวมในเคสนี้

เหมือน ยูฟ่า ตั้งใจจัดหนักให้ เชลซี ผ่านยากๆอะ



เอ็นคุนคู ขายยังไงก็ได้น้อยกว่าตอนซื้อมาเพราะงั้นคงไม่มีกำไรในวิธีคิดแบบเคสนี้

- แต่ถ้าขายได้จะลดรายจ่าย ค่าตัดจำหน่ายรายปี 10.4 + ค่าเหนื่อยรายปี 10.1 = 20.5 ลป

- ถ้าแค่ยืม ( ให้เขาจ่ายค่าเหนื่อยให้ ) ก็ลดค่าเหนื่อยรายปี 10.1 ลป + ค่ายืมนิดหน่อยซึ่งน่าจะหาร 3 เหมือนตอนนับกำไรจากการขาย


ส่วน แจ๊กสัน ถ้าขายได้กำไรเน้นๆ เพราะซื้อมาไม่แพง ( ราคาขายเขานับแค่เงินต้นก่อน )

- ซื้อมา 32 ถ้าขายได้ 60 ตามที่ตั้งขั้นต่ำไว้ เท่ากับกำไร 28 เอามาหาร 3 ก็กำไรในวิธีนับแบบนี้ 9.3 ลป

- ลดค่าตัดจำหน่ายรายปีน่าจะ 4 + ลดค่าเหนื่อยรายปี 5.2 = 9.2 ลป

- รวมแล้วจะมีเพดานเพิ่ม 9.3 + 9.2 = 18.5 ลป

- แต่ถ้าได้แค่ยืม ( ให้เขาจ่ายค่าเหนื่อยให้ ) ลดค่าเหนื่อยรายปี 5.2 ลป + ค่ายืมแบบหาร 3 ถ้าค่ายืม 10 ลป ตามข่าว ก็จะได้กำไร 3.3 ลป รวมเป็น 8.5 ลป



เลยคิดค่าใช้จ่ายในดีล ซิม่อน กับ กานาโช่ ดูแบบเดาราคากับเดาค่าเหนื่อยที่น่าจะเป็นไปได้นะ


- ซิม่อน ค่าตัว 50 + 10 ลป นับแค่เงินต้นก็เท่ากับ ค่าตัดจำหน่ายปีละ 10 ลป

- ค่าเหนื่อยเดาๆว่า 150k ก็ปีละ 7.8 ลป

- รวมค่าใช้จ่ายรายปี 10 + 7.8 = 17.8 ลป


- กานาโช่ 30 + 10 ลป นับแค่เงินต้นก็เท่ากับ ค่าตัดจำหน่ายปีละ 6 ลป

- ค่าเหนื่อยเดาๆว่า 100k ก็ปีละ 5.2 ลป

- รวมค่าใช้จ่ายรายปี 6 + 5.2 = 11.2 ลป


รวม 2 คน 29 ลป อย่างน้อยๆต้องขายให้ได้คนนึงปล่อยยืมคนนึงก็อาจจะพอลงทะเบียนได้ ถ้าได้ค่ายืมเยอะนะ


จริงๆ โฟฟาน่า ที่ไม่ได้ลงทะเบียนคอนเฟอเรนท์ปีก่อน ถ้าจะลงทะเบียน UCL ปีนี้ก็ต้องนับรวมเป็นรายจ่ายที่เพิ่มไปด้วย

- ค่าตัดจำหน่ายรายปี 10 + ค่าเหนื่อยรายปี 10.4 = 20.4 ลป โคตรเยอะ

ผมว่า เชลซี ไม่ลงทะเบียน โฟฟาน่า ใน UCL หรอก ใช้แค่ในลีกพอร่างกายไม่น่าเตะหลายถ้วยได้


ลาเวีย นี่ก็ไม่ได้ลงทะเบียนบอลยุโรปปีก่อน ปีนี้ก็ต้องลงใหม่ แต่อายุไม่เกิน 21 + อยู่กับทีมมา 2 ปีโดยไม่ได้ไปยืมตัวก็เลยน่าจะลงทะเบียนใน B list ได้ ( U21 ที่อยู่กับสโมสรมาอย่างน้อย 2 ปีแบบไม่ได้ไปยืมตัว )

ซับซ้อนเกินปัย

ดินพอกหางหมูจริงๆอะจัดหนักจัดเต็มไปเยอะช่วงที่ผ่านมา แต่ก็คิดว่าบอร์ดน่าจะเอาตัวรอดได้เห็นข่าวว่าเตรียมเอกสารทุกอย่างพร้อมไว้หมดแล้ว สำหรับการย้ายเข้ากับขายออกไว้ 12-13 ดีลช่วงตลาดที่เหลือน่าจะวุ่นกันยับ

3 นี่ตัวเลขเฉลี่ย 3 ปี ของยูฟ่าอ่อ

ถ้าปล่อยออกทั้ง คุนคู + แจ๊ค แบบขายขาด ก็คงจบปัญหาได้

โคตรไม่ make sense

มันน่าจะหยวนๆหน่อย ปรับตังพอเป็นพิธีจบๆไป เสี่ยท้อดอุตสาห์ยอมมอบเองด้วยหนิ
แทนที่จะปล่อยๆให้มีตัวแพงๆดาวรุ่งเทพๆลงทะเบียนไปวาดลวดลาย เพิ่มความตื่นเต้น Engagement ให้กับทัวร์ ดันทำให้ยากๆซะงั้น อยากเห็นเราเอา เสี่ยริ่ง แจ้คสัน ชุควู้ ลงงี้เหรอ

3 มาจากไหนไม่รู้ แต่มันนับกำไรแบบตรงๆเลย ซื้อมาเท่าไหร่ ขายไปเท่าไหร่ เอาส่วนต่างมาหาร 3 แล้วนับที่เหลือเป็นกำไรในเคสนี้

อันนี้คนละเคสกับเรื่องมอบตัวคดีเสี่ยหมีทำบัญชีผิดปกติครับ เคสนั้นจ่ายค่าปรับ 8-9 ลป จบไปละ ( จบแค่กับ ยูฟ่า นะ กับ พรีเมียร์ลีกยังรอผลอยู่ )

ส่วนที่โดนปรับเงิน + ลงโทษในเคสนี้คือผิดกฎการเงิน ขาดทุนเกินกำหนดครับ ยูฟ่า ไม่นับกำไรที่ได้จากการขายโรงแรมกับขายทีมหญิง เลยไม่รอดเหมือนที่รอดในลีก

ก็น่าจะจบ หรือเอาแบบหมิ่นๆคือ ขายขาด เอ็นคุนคู ได้ก็จะลดค่าตัดจำหน่ายรายปี กับ ค่าเหนื่อยรายปี รวม 20.5 ลป

แล้วไปปล่อยยืม แจ๊กสัน แบบได้ค่ายืมเยอะหน่อย ก็น่าจะพอไหว

ผมอ่านกฎมันก็งงๆ เหมือนกัน

ซื้อ ซิม่อน + ขอยืม กานาโช่ แบบมีบังคับซื้อที่ซื้อจริงๆ

แบบนี้น่าจะพอลงทะเบียนได้ เพราะจะมีค่าใช้จ่ายแค่ของ ซิม่อน ส่วน กานาโช่ ลงแค่ค่าเหนื่อยรายปีที่จ่ายแทนเขา 2.6 ลป

แต่ยืม กานาโช่ นี่ต้องล่อด้วยบังคับซื้อค่าตัวแพงๆหน่อย เช่น ซื้อตอนนี้ 30+10 แต่ถ้าให้ยืมก่อนจะยอมจ่ายบังคับซื้อปีหน้า 40+5 ไรเงี้ย เขาอาจจะยอม แล้วปีหน้าค่อยไปขายตัวไม่ใช้หาเพดานมาลงรายจ่ายของ กานาโช่ ตอนนั้นแทน

แต่ก็แปลกใจที่จะเอาทั้ง Simons กับ Garnacho
เหมือนตั้งใจจะยกเครื่องแนวรุกทีเดียวไปเลย

มูดริค น่าจะหมดอนาคตแล้ว ส่วนกลางรุกเอาจริงๆในชุดใหญ่ก็ไม่มีกลางรุกอาชีพละ เอ็นคุนคู นี่ออกหน้าต่ำมากกว่า

ผมว่า กานาโช่ แทน มูดริค

ซิม่อน แทน เอ็นคุนคู

อันนี้ในแง่สควอชทีมนะ ส่วน แจ๊กสัน นี่คงโดน เจา เปโดร แทนไปละ

เผลอๆตอนแรกกะเอา เปโดร แทน เอ็นคุนคู แล้วเก็บ แจ๊กสัน ไว้มั้ง แต่พอ เปโดร เล่นดีเลยวัดใจขาย แจ๊ก เอา เปโดร ไปกองหน้าแทนเต็มตัว แล้วเอา ซิม่อน มากลางรุกแทนที่ เปโดร ไปเลย

โทษของยูฟ่าอันนี้เหมือนเกิดจากยูฟ่าแจ้งว่าเชลซีใช้เงินเกินในรอบการตรวจปี 2024 แล้วเชลซีไปมอบเพิ่มว่า “จริงๆรอบ 2025 ที่พี่ยังไม่ตรวจก็เกินครับพี่” ที่ใช้เงินเกินไป 2 ปีให้มัดรวมโทษมาเลย

โทษปรับมีก้อนที่จ่ายเป็นเงิน 31 ล้านยูโร (20 ลย. จากกฎ football earnings + 11 ลย. จากกฎ squad cost)

โทษอีกส่วนเหมือนรอลงอาญาถึงฤดูกาล 2028/29 ต้องทำยอด earnings ให้ได้ตามเป้าหมายแต่ละปี ปีแรกยอดเป้าหมายสูงที่สุด (เชลซีขอให้ยอดปีแรกสูงกว่าปกติ แล้วไปลดปีหลังๆแทน อาจจะประเมินไว้ว่ามีตัวให้ขายเยอะ) และปีถัดๆไปยอดเป้าหมายจะลดลงเรื่อยๆ ใช้เวลา 4 ปีถึงกลับมาสู่ภาวะปกติ ถ้าทำยอดได้ไม่ถึงเป้าจะโดนปรับในปีนั้นๆ 20 ลย.

ส่วนโทษทางกีฬา ตอนนี้มีการจำกัดการลงทะเบียนนักเตะใหม่ถ้า List A Transfer Balance เป็นลบ โดนปีนี้กับปีหน้า

ถ้าในช่วง 4 ปีนี้ ยังทำตามเป้าหมายไม่ได้ หรือติดลบเกินจากยอดเป้าหมายมากกว่า 20 ลย.ในปีใดปีหนึ่ง ก็โดนแบนบอลยุโรป

มีแววUCLรอบแรกไม่ได้ไปหลายคนแน่ๆ