Netflix ลงทุนในไทยไป 6,500 ล้านบาท สร้างงาน 13,500 ตำแหน่ง พาซีรีส์ไทยติด Top 10 ของโลกไปแล้ว 15 เรื่อง

นับแต่ปี 2016 ที่เน็ตฟลิกซ์เข้ามาในไทย ได้พลิกหน้าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทยไปในทางที่ดีขึ้น

ในระยะเวลาเพียง 3 ปี 2021-2024 เน็ตฟลิกซ์ลงทุนสร้างออริจินัลคอนเทนต์ไปแล้ว 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6,500 ล้านบาท สร้างงานสร้างอาชีพ 13,500 ตำแหน่ง ผลิตผลงานไปแล้ว 20 เรื่อง และมี 15 เรื่อง ติดอันดับ Top10 Non-English Content

เน็ตฟลิกซ์เผยข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจจากรายงาน “เน็ตฟลิกซ์ในประเทศไทย: พลังขับเคลื่อนอนาคตจากการเล่าเรื่องท้องถิ่น” เป็นรายงานบทบาทและผลกระทบเชิงบวกฉบับแรกในประเทศไทย
เผยว่า ระหว่างปี 2021-2024 เน็ตฟลิกซ์ได้ลงทุนในคอนเทนต์ไทยรวมกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เกิดผลงานซีรีส์และภาพยนตร์ออริจินัลของไทยมากกว่า 20 เรื่อง พร้อมสร้างงานกว่า 13,500 ตำแหน่ง สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายประเทศในการสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่งและสร้างรายได้กว่า 4 ล้านล้านบาท

ยิ่งไปกว่านั้น คอนเทนต์ไทยบนเน็ตฟลิกซ์ยังได้รับความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบจากผู้ชมทั่วโลกด้วย โดยมีผลงานออริจินัลของไทยกว่า 15 เรื่องที่ติดอันดับ Global Top 10 สำหรับคอนเทนต์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และมียอดชั่วโมงการรับชมรวมสูงถึง 750 ล้านชั่วโมงบนเน็ตฟลิกซ์

.

กลยุทธ์ Localization อยู่ที่ไหนต้องเข้าใจ Culture ที่นั่น
Netflix คืออีกบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เข้าไปทำธุรกิจในประเทศใดก็ประสบความสำเร็จได้หมด หลัก ๆ มาจากการมีทีมการตลาดที่เป็นคนในท้องถิ่น

และให้อำนาจการตัดสินใจแก่ทีมงานเหล่านั้น เพราะเชื่อมั่นว่าโลคอลทีมสามารถเข้าใจบริบทวัฒนธรรมได้อย่างลึกซึ้งกว่า นั่นทำให้แคมเปญการตลาดของแต่ละประเทศมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

สำหรับประเทศไทยเน็ตฟลิกซ์มีทีมงานประจำในกรุงเทพฯ จึงมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อวงการสร้างสรรค์ของไทย อีกทั้งร่วมงานกับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ชาวไทย ทำให้คอนเทนต์ที่ผลิตออกมาสามารถสะท้อนศิลปะ ลงลึกในรายละเอียดอย่างเข้าใจความเป็นไทย แล้วเล่าออกมาได้แบบมีชั้นเชิง ผู้ชมท้องถิ่นต้องพยักหน้าเห็นด้วย ขณะที่ผู้ชมต่างชาติดูแล้วเข้าใจอะไร ๆ ที่เป็นไทยสไตล์มากขึ้น
.
เพาะเมล็ดพันธุ์ใหม่ ป้อนเข้าอุตสาหกรรม

นอกจากการลงทุนด้านคอนเทนต์แล้ว ปี 2566 เน็ตฟลิกซ์ได้เปิดตัวโครงการ Reel Life Camp ซึ่งเป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์และสื่อโทรทัศน์รุ่นใหม่กว่า 145 คน เพื่อรับการฝึกอบรมและเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารกองถ่าย การจัดการงบประมาณสำหรับงานโปรดักชันและการควบคุมดูแลขั้นตอนหลังการถ่ายทำ เตรียมความพร้อมสำหรับอาชีพในวงการบันเทิง

ทีมงานโปรดักชันในประเทศไทยของเน็ตฟลิกซ์ยังได้จัดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านเทคนิคของบุคลากรด้านโปรดักชันมากกว่า 500 คน ครอบคลุมทั้งผู้ลำดับภาพ ผู้เชี่ยวชาญด้านเอฟเฟ็กต์ภาพ (VFX) และผู้จัดการข้อมูลในกองถ่าย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย One-Family-One-Soft Power (OFOS) ของรัฐบาลไทยด้วย

การลงทุนของเน็ตฟลิกซ์ได้เข้าไปมีส่วนร่วมต่อการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย และชี้ให้เห็นถึงการสนับสนุนและผลกระทบเชิงบวกต่อการสร้างงาน พัฒนาทักษะบุคลากร และขยายโอกาสให้กับชุมชมท้องถิ่น
.

ซีรีส์เรื่องเดียวกระตุ้นการท่องเที่ยวได้มหาศาล

ในรายงานยังชี้ให้เห็นว่าคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับประเทศไทยมีส่วนกระตุ้นการท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักในประเทศไทย ยกตัวอย่าง

สืบสันดาน : ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เยี่ยมชม Chateau De Khaoyai ในจังหวัดนครราชสีมา

สาธุ : กระตุ้นความสนใจในวัดสำปะซิว จังหวัดสุพรรณบุรี

ถ้ำหลวง ภารกิจแห่งความหวัง : ทำให้ถ้ำหลวงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม

คอนเทนต์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวท้องถิ่นเหล่านี้ช่วยให้สถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักของไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลกได้ไม่ยาก สอดรับกับนโยบาย Amazing Thailand Grand Tourism and Sports 2025 ของรัฐบาลไทย ที่อยากให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนจังหวัดเมืองรอง

ที่มา : Marketeer Online

เคยคิดว่าทรูไม่ได้ epl มือกำเงินอยู่เป็นหมื่นล้าน

จะพอเจียดมาลงทุนออริจินัลซีรีย์ด้านคุณภาพเพิ่มขึ้นมั้ย

แบบยกระดับไปเลยงี้

เค้าน่าจะลงทุนช่องเค้าก่อนไหมครับ

อะไรที่มีการแข่งขันสูง ผู้เล่นในตลาดเยอะและแข็งแกร่ง เค้าไม่ลงมาแข่งขันหรอกครับ

ถูกต้อง ลงทุนเองมันเอกคลูซีพทรูอยู่แล้วอ่ะ

ก็จริง

ผมดูอยู่ 2 เรื่อง สาธุ กับ ส่งด่วน นอกนั้นผมว่าไม่หนุกอ่ะ..

วงการนี้ในไทยมันขาดคนเขียนบทเพราะคนเขียนบทรายได้น้อยเกินจนไม่มีใครอยากทำ ถ้าแก้ปัญหานี้ไม่ได้ระยะยาวก็แข่งขันไม่ได้หรอก

อะไรที่ก๊อปปี้ไม่ได้ เค้าไม่ลงมาเล่นหรอกครับ