เจรจาบนโต๊ะหลังจากนี้น่าจะให้องกรค์ จะAsean / UN อะไร มาพิสูจน์หลักฐานแล้วชี้แจงต่อทั่วโลกว่าความจริงเป็นยังไง

แล้วให้มันออกมาสารภาพความผิดด้วยนะ ซึ่งมันต้องมีคำอธิบาย

ไม่ใช่ปล่อยพวกโปรเขมร หอนเต็มsocial media เล่นบทผู้ถูกกระทำ อยากเห็นมันหน้าแหก

หลักฐานที่ไทยใช้ยืนยัน
- บันทึกเหตุการณ์จากกองทัพไทย พร้อมพิกัด, เวลา, และภาพถ่ายดาวเทียม
- จดหมายทางการถึงสหประชาชาติ (UN) ระบุว่าไทยถูกโจมตีก่อน และมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
- คำแถลงของนายกรัฐมนตรีไทย และ รมช.กลาโหม ยืนยันว่ากัมพูชาเริ่มก่อน
- รายงานจากสื่อสากล เช่น Straits Times และ Al Jazeera ระบุว่าไทยถูกยิงก่อนจากฝั่งกัมพูชา


ฝ่ายกัมพูชาโต้กลับว่าไทยยิงก่อน
- อ้างว่าไทยส่ง UAV และทหารเข้าล้ำแดนก่อน → กัมพูชาต้องป้องกันตัว
- ยังไม่มีหลักฐานเชิงเวลาและพิกัดที่ชัดเจนเท่าฝ่ายไทย
- โฆษกกัมพูชาระบุว่า “ไทยละเมิดอธิปไตย” แต่ไม่แสดงหลักฐานเชิงเทคนิคหรือภาพถ่ายดาวเทียม

วิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์
ฝ่ายไทยมี ลำดับเหตุการณ์ที่ชัดเจน, หลักฐานภาพถ่าย, และ การแถลงต่อเวทีโลก
ฝ่ายกัมพูชายังใช้ วาทกรรมทางการเมือง มากกว่าหลักฐานเชิงเทคนิค
หากนำเข้าสู่การสอบสวนระหว่างประเทศ ไทยมีโอกาส “ได้เปรียบเชิงข้อมูล” อย่างชัดเจน

ภาพถ่ายดาวเทียมกลายเป็น “หลักฐานชี้ชัด” ได้ เพราะมันจับ พฤติกรรมก่อนเกิดเหตุ, ตำแหน่งการยิง, และ ผลกระทบหลังการยิง ได้แบบไม่สามารถบิดเบือนครับ โดยเฉพาะในกรณีชายแดนไทย–กัมพูชาเมื่อ 24 ก.ค. 2568 มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมจากหลายแหล่งเพื่อพิสูจน์ว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ดังนี้:

️ ภาพถ่ายดาวเทียมชี้ชัดได้อย่างไร
| ประเภทหลักฐาน | รายละเอียด | ความน่าเชื่อถือ |
| กิจกรรมก่อนเหตุการณ์ | ภาพแสดงการเสริมกำลัง, ขุดคูเลต, สร้างฐานยิง BM‑21 ฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่ ก.พ.–ก.ค. | ชี้เจตนาเตรียมรบล่วงหน้า |
| ตำแหน่งการยิง | ภาพแสดงจุดปล่อย BM‑21 จากเขาพนมประสิทธิ์ → พุ่งเข้าไทย | ยืนยันทิศทางการยิง |
| ผลกระทบหลังยิง | ภาพความเสียหายจากจรวด BM‑21 ที่บ้านภูผี, ปั๊มน้ำมัน, โรงพยาบาลพนมดงรัก | เชื่อมโยงจุดยิงกับผลลัพธ์ |
| ลำดับเวลา | ภาพจาก 07.30–09.40 น. แสดงการเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาก่อนยิง | ตรงกับบันทึกภาคสนามของไทย |


ตัวอย่างภาพถ่ายที่ใช้จริง
- Heatmap จาก ASPI (Australia Strategic Policy Institute) แสดงความหนาแน่นของกิจกรรมทางทหารฝั่งกัมพูชาเพิ่มขึ้นตั้งแต่ ก.พ. ถึง ก.ค.
- ภาพจากดาวเทียม Sentinel-2 และ PlanetScope แสดงการขุดคูเลต, สร้างฐานยิง BM‑21 และการเคลื่อนรถถัง T‑55 จำนวน 30 คัน
- ภาพจุดระเบิดในไทย เช่น ปั๊มน้ำมันบ้านภูผี → ตรงกับ trajectory ของ BM‑21 จากฝั่งกัมพูชา

วิเคราะห์เชิงเทคนิค
ภาพถ่ายดาวเทียมไม่ใช่แค่ “ภาพนิ่ง” แต่คือ หลักฐานเชิงเวลา + พิกัด + พฤติกรรม
เมื่อจับคู่กับบันทึก UAV, SIGINT, และการวิเคราะห์เศษกระสุน → สามารถ “พิสูจน์ทิศทางการยิง” ได้อย่างแม่นยำ
ในกรณีนี้ ฝ่ายไทยใช้ภาพดาวเทียมประกอบการแถลงต่อ UN และเสนอให้ใช้เป็นหลักฐานในคณะกรรมการสอบสวนกลาง

นี่แหละที่น่ากลัว พลาดแล้วพลาดเลย

หลักฐานว่าเปิดก่อนคงหายาก แต่หลักฐานยิงใส่ประชาชน หรือใช้หมู่บ้านคนตั้งฐานยิงนี่เยอะ แถมใช้ประชาชนเป็นโล่อีก

เอาจริงๆหลักฐานการเปิดก่อนเปิดหลังไม่สำคัญเท่าใครไม่หยุดอ่ะดิ

ตอนนี้มันไม่ได้สำคัญแล้ว มันต่อยกันไปแล้ว มันคือสมัครใจวิวาท

แต่เรื่องของการที่ไทยเล่นตามกติกา ไม่มีการเอาอาวุธหนักไปซุกในสถานที่พลเรือน และภาพที่สถานที่พลเรือน ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาลไทยโดนถล่มมันชัดเจนไง ว่าฝ่ายไหนต้องการมีเจตนาแบบไหน

เราชี้แจงได้พร้อมมีหลักฐาน ไม่ใช่คำพูดเลื่อนลอยหรือภาพเครื่องบินโปรยสารเคมีดับไฟป่าแล้วมาอ้างว่าใช้ Toxic Gas แบบโง่ๆ แค่นี้ก็เพียงพอต่อการชี้แจงชาวโลกแล้ว

คือต้องเข้าใจอย่างว่าชาวโลกเค้าไม่ได้โง่แบบคนเขมร

ดาวเทียมมันน่าจะจับกลุ่มความร้อนได้มั้ง ผมว่า ถ้าหาจริงๆ มันไม่น่ายาก เหมือนที่ คนออสเตรเลีย เค้าทำไว้ให้อยู่ 7 บึ้มขนาดนั้น อย่างน้อยพลเรือนเราโดนจังๆ

การเมืองระดับโลก มันไม่เหมือนศาลในประเทศ ที่มานั่งสืบหาข้อเท็จจริง ชี้ผิดชี้ถูกขนาดนั้นมั๊งครับ

เท่าที่เห็น ก็อยู่แค่ใครพวกมากกว่า ใครมีพาวเวอร์กว่า ใครมีผลประโยชน์ให้มากกว่า
ถ้าสมประโยชน์กัน ต่อให้ชี้แจงแถลงมีน้ำหนักให้ตาย ก็แค่จบ/แยกย้ายเหมือนเมื่อหลายวันก่อน

ผมยกตัวอย่างง่ายๆอย่าง อิสราเอล หรือ รัสเซีย แล้วกันครับ

ฝั่งเขมร ที่เขาว่าไทยเปิดก่อน คือ ตอนคนแรก โดนไทยยิงตายโน่น ส่วนปืนใหญ่ใครลั่นก่อนน่าจะตามที่ ฝรั่งกล่าว เขมร ยิงมาก่อน

หลักฐานที่ไทยใช้ยืนยัน
- บันทึกเหตุการณ์จากกองทัพไทย พร้อมพิกัด, เวลา, และภาพถ่ายดาวเทียม
- จดหมายทางการถึงสหประชาชาติ (UN) ระบุว่าไทยถูกโจมตีก่อน และมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
- คำแถลงของนายกรัฐมนตรีไทย และ รมช.กลาโหม ยืนยันว่ากัมพูชาเริ่มก่อน
- รายงานจากสื่อสากล เช่น Straits Times และ Al Jazeera ระบุว่าไทยถูกยิงก่อนจากฝั่งกัมพูชา


ฝ่ายกัมพูชาโต้กลับว่าไทยยิงก่อน
- อ้างว่าไทยส่ง UAV และทหารเข้าล้ำแดนก่อน → กัมพูชาต้องป้องกันตัว
- ยังไม่มีหลักฐานเชิงเวลาและพิกัดที่ชัดเจนเท่าฝ่ายไทย
- โฆษกกัมพูชาระบุว่า “ไทยละเมิดอธิปไตย” แต่ไม่แสดงหลักฐานเชิงเทคนิคหรือภาพถ่ายดาวเทียม

วิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์
ฝ่ายไทยมี ลำดับเหตุการณ์ที่ชัดเจน, หลักฐานภาพถ่าย, และ การแถลงต่อเวทีโลก
ฝ่ายกัมพูชายังใช้ วาทกรรมทางการเมือง มากกว่าหลักฐานเชิงเทคนิค
หากนำเข้าสู่การสอบสวนระหว่างประเทศ ไทยมีโอกาส “ได้เปรียบเชิงข้อมูล” อย่างชัดเจน

ภาพถ่ายดาวเทียมกลายเป็น “หลักฐานชี้ชัด” ได้ เพราะมันจับ พฤติกรรมก่อนเกิดเหตุ, ตำแหน่งการยิง, และ ผลกระทบหลังการยิง ได้แบบไม่สามารถบิดเบือนครับ โดยเฉพาะในกรณีชายแดนไทย–กัมพูชาเมื่อ 24 ก.ค. 2568 มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมจากหลายแหล่งเพื่อพิสูจน์ว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ดังนี้:

️ ภาพถ่ายดาวเทียมชี้ชัดได้อย่างไร
| ประเภทหลักฐาน | รายละเอียด | ความน่าเชื่อถือ |
| กิจกรรมก่อนเหตุการณ์ | ภาพแสดงการเสริมกำลัง, ขุดคูเลต, สร้างฐานยิง BM‑21 ฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่ ก.พ.–ก.ค. | ชี้เจตนาเตรียมรบล่วงหน้า |
| ตำแหน่งการยิง | ภาพแสดงจุดปล่อย BM‑21 จากเขาพนมประสิทธิ์ → พุ่งเข้าไทย | ยืนยันทิศทางการยิง |
| ผลกระทบหลังยิง | ภาพความเสียหายจากจรวด BM‑21 ที่บ้านภูผี, ปั๊มน้ำมัน, โรงพยาบาลพนมดงรัก | เชื่อมโยงจุดยิงกับผลลัพธ์ |
| ลำดับเวลา | ภาพจาก 07.30–09.40 น. แสดงการเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาก่อนยิง | ตรงกับบันทึกภาคสนามของไทย |


ตัวอย่างภาพถ่ายที่ใช้จริง
- Heatmap จาก ASPI (Australia Strategic Policy Institute) แสดงความหนาแน่นของกิจกรรมทางทหารฝั่งกัมพูชาเพิ่มขึ้นตั้งแต่ ก.พ. ถึง ก.ค.
- ภาพจากดาวเทียม Sentinel-2 และ PlanetScope แสดงการขุดคูเลต, สร้างฐานยิง BM‑21 และการเคลื่อนรถถัง T‑55 จำนวน 30 คัน
- ภาพจุดระเบิดในไทย เช่น ปั๊มน้ำมันบ้านภูผี → ตรงกับ trajectory ของ BM‑21 จากฝั่งกัมพูชา

วิเคราะห์เชิงเทคนิค
ภาพถ่ายดาวเทียมไม่ใช่แค่ “ภาพนิ่ง” แต่คือ หลักฐานเชิงเวลา + พิกัด + พฤติกรรม
เมื่อจับคู่กับบันทึก UAV, SIGINT, และการวิเคราะห์เศษกระสุน → สามารถ “พิสูจน์ทิศทางการยิง” ได้อย่างแม่นยำ
ในกรณีนี้ ฝ่ายไทยใช้ภาพดาวเทียมประกอบการแถลงต่อ UN และเสนอให้ใช้เป็นหลักฐานในคณะกรรมการสอบสวนกลาง

เขมรมันไม่รู้ตัวมั่งว่าทุกแอคชั่นตั้งแต่นัดแรกที่มันยิง ถูกจับได้หมดด้วยภาพถ่ายดาวเทียม

ถึงจุดนี้ไม่ต้องสนว่าใครเปิดก่อนแล้ว เขาสืบหาเหตุของความขัดแย้งเจอแล้ว

ไทยยืนบนพื้นที่ของตนเอง เขมรเครมว่าของมันแล้วหาว่าไทยบุกรุก พื้นที่ตรงนั้นไทยครองมาหลายร้อยปี ทุกศึกคืออยู่ในแผ่นดินไทยทั้งหมด ไม่รวมทิ้งไข่นอกประเทศ

ฉนั้นแล้วสามารถตีความได้ชัดเจน เขมรบุกรุก บุกพื้นที่ของไทยตามแผนที่ที่โลกยอมรับและใช้มาเป็นร้อยปี

หลักฐานของการส่องสุมกำลัง ความเคลื่อนไหวจากดาวเทียม เขมรเตรียมบุกรุกมาเป็นเดือน มีคลิบพยายามยั่วยุอีกมากมายที่ยังไม่ได้เผยแพร่

ชัดเจนไม่รู้จะชัดยังไง ไอ่เขมรมันยืนกระต่ายขาเดียวบอกปราสาทเป็นวัฒธรรมเขมร ตั้งอยู่ตรงนั้นควรเป็นแผ่นดินเขมร ประชาคมโลกยังงง วัฒธรรมร่วมมันเอามาเครมไม่ได้ ไม่งั้นอิตาลีเคลมอาณาจักรโรมันไม่ครองยุโรปหรอ ประชาคมไม่โง่ ใช้คนละตรรกะกับมัน คนในประเทศมันโง่ มันถึงได้คิดตรรกะนี้มาใช้ปั่นหัวคนในชาติมันได้

ใครเปิดก่อนมันไม่สำคัญหรอกครับ
การรบกันแค่ ไม่ควรโจมตี ผู้บริสุทธิ์ ชาวบ้านทั่วไป

ส่วนเหตุผลของกัมพูชา ในการยิงก่อนสำหรับคนนอก ทัวไป
มันก็พอฟังได้
แต่ที่ไม่โอเคเลย คือ ไปยิงระเบิดใส่บ้านเรือนประชาชน

สุดยอดครับ ผมชอบข้อมูลแบบนี้มาก มีแหล่งที่มาของข่าวมั้ยครับ ผมว่าข้อความนี้สำคัญและครบถ้วนมากๆ อยากให้แชร์ต่อๆออกไป หรือมีคนแชร์กันอยู่แล้ว

ผมใช้ Ai ครับ ตั้งแต่ปะทะวันแรก ผมก็ให้ Ai อัพเดทข่าวให้ตลอด เพราะมันจะดึงทุกช่องช่าวทางการมาให้ผมหมด

จริงๆใครเปิดก่อนนั้นแหละครับที่สำคัญสุด ถ้าเรามีหลักฐานชัดเจน ก็แสดงอันนี้ละให้พวกที่จะมาเป็นตัวกลางทั้งหลายแหล่ว่าเนี่ย มันเปิดก่อน แล้วยิงใส่กลางชุมชนไทย มีคนตาย เราเลยต้องตอบโต้จนเป็นเหตุตอนนี้ อยากให้หยุดก็ช่วยไปจัดการคนที่มันเปิดก่อน ใครมันสั่งยิงก็เอาตัวมาลงโทษ ต่อไปมันจะได้ไมกล้าอีก ถ้าจบแค่แบบแยกย้าย หยุดยิงทั้ง 2 ฝั่ง เดี่ยวมันก็มีอีก

จริงๆควรใช้ตรงนี้ให้ชัดเจนตั้งแต่ตอนเกิดเรื่องนั้นด้วย และก็ขอให้พวกที่จะมาเป็นตัวกลางจัดการให้ตั้งแต่ตอนนั้น แต่ถ้าเขาไม่ช่วย ไม่จัดการอะไรให้ เราก็มีความชอบธรรมเต็มที่ ที่จะตอบโต้ จัดหนักให้มันจบๆไปตั้งแต่แรก ไม่ต้องเกรงใจหรือต้องรอลูกยาวมาอีกรอบก่อน

แต่เห็นฝั่งเขมรที่เขาบอกว่าเราเปิดก่อน เขาไปอ้างอิงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ คือเหตุการที่มีการยิงปะทะกันตรงพื้นที่พิพาทและมีทหารของเขาตาย เขาอ้างตรงนี้ว่าเราเป็นคนเปิดก่อน