ไม่ต้องบอกให้หยุดยิงก็ได้ครับ เอาแบบแบมแบมนั่นแหละดีแล้ว แต่แค่แสดงความห่วงใยมันกลัวเสียภาพลักษณ์อะไรขนาดนั้นเลยหรอผมไม่เข้าใจอะ

เงียบทุกสถานการณ์ แต่คนไทยยังอวยกันสุดๆ

ถ้ายังเงียบอยู่ ก็แสดงว่าไม่สนใจล่ะครับ

ผมคิดไว้มานานแต่ไม่กล้าพูดกลัวเจอFCรุม เท่าที่สังเกตุนางไม่ได้แยแสอะไรบ้านเกิดตั้งนานละตั้งแต่ไปดังที่เกาหลีได้เพราะคงมองว่าตัวเองมาถึงจุดนี้โดยที่ไม่มีใครสนับสนุน ดีไม่ดีถ้าได้ผัวนอกแล้วขอสัญชาติได้แล้วคงเอาสัญชาตินั้นเป็นสัญชาติหลักตัวเองแทนไทยด้วยซ้ำ

พวกเหตุการณ์เมืองมีความขัดแย้งแล้วนิ่งผมเข้าใจ แต่บ้านเกิดตัวเองมีความเสี่ยงโดนยิงถล่มแล้วยังนิ่งก็ชัดละว่าไม่ได้แยแสอะไรบ้านเกิดตัวเองแล้ว

แค่ติดแฮชแท็กง่ายๆอันเดียวมันยากขนาดนั้นเลยมั้ง ค่ายก็เปิดเองแล้ว ค่ายเก่าที่สัญญาวงยังอยู่แม่งจะอะไรขนาดนั้น ข้ออ้างติ่งชัดๆ หรือกลัวเสียฐานแฟนเขมร

ภายใต้เงื่อนไขสัญญาอาจจะไม่มีอิสระในการพูดทุกเรื่องทุกสถานการณ์ เรื่องที่ว่าศิลปินคนมีชื่อเสียงคนไหนจะทำหรือไม่ทำอะไรนี่ไม่เคยรู้สึกว่าเป็นปัญหาเลย ไม่เคยจะต้องไปคาดหวังอะไรกับคนอื่นที่ไม่ได้รับผิดชอบหน้าที่โดยตรงมากขนาดนั้น คาดหวังแค่คนที่มีหน้าที่ในส่วนนั้นๆโดยตรงก็ผิดหวังชิบหายพออยู่แล้ว

ส่วนเราจะรีแอคชั่น บ่น ด่า เลิกติดตามหรืออะไรก็แล้วแต่เป็นสิ่งที่เราทำได้เช่นเดียวกันกับที่พวกนั้นจะไม่ทำ

ลิซ่าอะนะ เลิกหวัง ลอยตัวเหนือ ปัญหาใดๆ

มีบริจาคช่วยน้ำท่วม ให้แสนนึง

การเมืองไม่ยุ่ง รบก้ไม่ยุ่ง

บริษัทตัวเองมีใครเซนสัญญาทาสแบบนั้นบ้างครับ ผมไม่เชื่อ

คิดมาสักพักแหละ เห็นในเฟสไปโพส โดน FC รุม

ด้านอื่นๆที่ต้องมองมากกว่าบริษัทคือ Brand Ambassador ครับ ถ้าการทำข้อตกลงเรื่องเสรีภาพในการพูดทุกเรื่องจัดว่าเป็นสัญญาทาสคงมีทาสอยู่กันทั่วโลกครับ ยิ่งถ้าเป็นบริษัทตัวเองการสื่อสารอะไรออกไปยิ่งต้องคิดให้มาก คนทำบริษัททุกคนก็หวังผลกำไรแอคชั่นอะไรไปกระทบกับบริษัทคนที่เลือกจะไม่ทำก็ไม่ผิดอะไร แค่เราไม่ต้องไปคาดหวังว่าใครจะทำอะไร เรารีแอคชั่นในแบบของเรา ไม่สนับสนุน ไม่ติดตามอะไรก็ทำไปแค่นี้บริษัทนั้นก็อาจจะไม่มีเราเป็นลูกค้าแล้ว 1 คน สำหรับผมที่มีบริษัทถือว่าเสียหายครับแม้จะแค่ 1 คน

สัญญาแบบห้ามพูดอะไรด้วยตัวเองเลยผมไม่เชื่อครับ ผมไม่ขอเชื่อเด็ดขาดว่ามันจะมีสัญญาแบบนี้ถูกกฏหมาย ไม่มีทางอะผมว่า

ยิ่งสัญญาค่ายอเมริกานะห้ามขัดกับ Bill of Rights ของอเมริกา

ถ้าการเมืองในประเทศเข้าใจได้ว่าต้องวางตัวเป็นกลาง ยูเครนกับรัสเซีย อิสราเอลกับปาเลสไตน์เข้าใจได้ว่ามีผลกระทบเยอะ แต่นี่บ้านเกิดกับประเทศอื่นไม่มีเห็นจะมีเหตุผลอะไรที่จะให้กำลังใจประเทศตัวเองไม่ได้นะ คือคนเราจะเชียร์หรือให้กำลังใจบ้านเกิดตัวเองคือมันจะมีผลกระทบตรงไหน ถ้าคู่กรณีเป็นอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีอันนี้โอเคเข้าใจได้ แต่นี่คือเขมรคือจะห่วงฐานแฟนคลับเขมรอะไรขนาดนั้น เหตุผลเดียวถ้าจะอยากรักษาความเป็นกลางในเคสนี้คือมีเชื้อเขมรอะเลยพูดอะไรไม่ได้

เช่นบริษัทของผมทำงานร่วมกับหน่วยงานราชการ-ทำงานกับภาครัฐ ผมก็กำหนดในสัญญาจ้างว่าห้ามแสดงออกทางการเมืองในพื้นที่ Social ที่เปิดเผยกับบริษัทเป็นสัญญาระหว่างคุณกับผม คุณจะไม่รับผมก็ไม่จ้าง แต่คุณเซ็นต์รับแล้วทำผิดก็มีค่าปรับ ค่ายกเลิกสัญญา เงื่อนไขไม่ได้ซับซ้อนอะไรขนาดนั้นครับ

การเมืองคืออะไรครับ ถ้าตีความทุกอย่างเป็นการเมืองหมดมันก็สัญญาผิดกฏหมายนั่นแหละ

โพสว่า "stay safe" แค่เนี้ยมันการเมืองยังไง

ผมยกตัวอย่างให้คุณเห็นภาพถ้าต้องมานั้่งอธิบายรายละเอียดทั้งหมดผมคงไม่สะดวกขนาดนั้น ในเงื่อนไขการทำงานมูลค่าสูงมันไม่ใช่แค่คุยกันแล้วจบ ร่างสัญญาต้องใช้ทนายทั้งสองฝั่งมานั่งคุยกันทีละข้อ ก็ย้อนกลับไปที่ใครจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรมันเป็นสิทธิ์ของคนคนนั้น เรารีแอคชั่นยังไงเป็นสิทธิ์ของเรา ต่างคนต่างทำในแบบที่ตัวเองต้องการเคารพสิทธิ์ของกันและกัน