อันนี้ไม่ได้จะบอกว่าเกี่ยวกับประเด็นแมนยูนะครับ ผมว่าเรื่องเวลาก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของชั้นเชิงได้นะ

ถ้ายื่น 65 แต่แรก เชื่อมั๊ยโอกาสไปจบที่ 80-90 ล.อัพมีสูง เพราะไอ 65 ล.เนี่ยมันก็จะแตะ 70 ล.อยู่ละ พอมันเห็นว่าเป็นแมนยูขอบวกอีกสัก 20 ล.นี่ไม่แปลกเลย พอซื้อมาแพงแล้วจ่ายๆไปเล่นไม่ออกขึ้นมามันก็มานั่งด่าหลังบ้านว่าโง่ไม่รู้จักเจรจาอีกอะเชื่อปะ

ถ้ามันมีแผน 2 แผน 3 มันไม่ออกมาหน้านี้ทุกครึ่งหรอก

สรุปคือบริหารจัดการได้กาก แทบทุกเรื่อง ไม่ใช่แต่เรื่องซื้อขาย

ไปดูข่าวตอนแรกบอกเท่าคุณย่านิหว่า พอยื่นไปบอกขอขึ้นเป็น 70 คนขายก็คงเห็นทีมอื่นเค้าขายกัน 60 ขึ้นหมด ขอขึ้นตามบ้าง

ผิดที่ทำตัวเองมีทางเลือกน้อย ทั้งเวลา และการอ่านตลาด ตัวเลือกอื่นๆก็แทนที่จะติดต่อไว้เพื่อกดดันได้บ้าง ก็ไม่ทำ

มันขึ้นเพราะมีดีลอื่นเทียบไง ตอนแรกมันต้องการแค่ไม่ต่ำกว่าคุนญ่า อาจสูงกว่าหน่อย ดีลแรก 45+10 ผมเป็นเบรนท์ฟอร์ดก็เดือดนะ สตาร์ทีมเค้านะนั่น

แต่ 65+5 นี่ก็สุดทางละ ถ้ายังไม่เอาก็จบ

กระจอกบอกเก่งงง

หัวจะปวด หน้ากับประตูที่เป็นปัญหาจัดๆก็ไม่มีทีท่าว่าจะได้

แผนสำรอง มรึงควรหาวิงแบ็กขวามาแทนไอ่โร่ แล้วให้อาหมัดเล่นกับคุนญ่า แสด

ตอนยื่นซื้อ แม็กไกวร์ ผู้บริหาร Leicester City ก็บอกว่าทาง Manchester United และ Ed Woodward ใช้วิธีนี้ วิธีนี้เลย..วิธีที่คุณบอกมา ซึ่งทางผู้บริหาร Leicester City ไม่โอเคกับวิธีการเอามาก ๆ ไม่พอใจเลย เลยบอกราคาแสนแพงที่ไม่อยากขายไป แต่ผู้ซื้ออยากได้ เป็นเป้าหมายหลักที่อยากได้จริง ๆ ไปเปิดหัว Bid แรกไว้อย่างนั้นแล้วเรียกมาเท่าไหร่มันก็ซื้อ

วิธีแบบนี้เลย ก็เป็นดีลที่โดนด่าว่าเป็นหนึ่งในดีลที่แย่มาจนถึงทุกวันนี้ มันไม่มีการ Negotiate เหมือนเดินเข้าไปบอกว่าอยากได้เท่าไหร่บอกตัวเลขเฮียมา เดี๋ยวเฮียจัดให้จ่ายจบไม่พูดเยอะ ถ้าคุยไม่รู้เรื่องเดี๋ยวเฮียไปซื้อที่อื่น..

ถ้าผู้ขายเขาไม่อยากขาย เขาก็คงบอกว่างั้นมึงก็ไปซื้อที่อื่น

มันควรจะมีทางเลือกเผื่อในใจไงครับ ขายแพงก็ไปดูตัวอื่น
ตอนนี้ปิดแล้ว แพงกว่าที่เค้าตั้งไว้ตอนแรกอีก

มันก็ต้องทำแบบนั้นครับ ฝ่ายขายรู้สึกไม่พอใจ แสดงว่าฝ่ายซื้อทำถูกแล้ว ก็แล้วแต่เลยว่าจะขายหรือไม่ขาย ถ้าไม่ขายก็ไปหาคนอื่นทันที ถ้าอยากเป็นฝ่ายคุมเกมในการซื้อขายก็ต้องทำแบบนี้แหละ ไปฟังคนเสียประโยชน์ทำไมว่าเป็นวิธีการดีลที่แย่หรือไม่แย่