เพื่อนผมเป็นผู้หญิงต่างชาติ อยู่ไทยมาซักพักละ พอสื่อสารไทยรู้เรื่องระดับนึง เป็นพวกซื่อๆ วันนี้เจอ แล้วเขาก็เล่าให้ฟังว่า

วันนึง เขากำลังนั่งซ้อนวินมอไซต์กลับบ้านจากที่ทำงาน ในถิ่นพลุกพล่านกลางกรุงเทพ

ตัวเขามีกระเป๋าสะพายและ ถุงกระดาษ 1 ใบที่มีเสื้อผ้าและบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในนั้น แบบที่ดูจากภายนอกไม่มีทางดูออกว่ามีอะไรข้างใน เพราะเสื้อผ้ามันม้วนๆ อยู่ในนั้น

ตอนกำลังผ่านแยก อยู่ดีๆ ก็มีตำรวจมาเรียกให้ไปจอด แล้วก็ดึงพวกกระเป๋ากับถุงไปเปิดดูหน้าตาเฉย แล้วก็หยิบบุหรี่ไฟฟ้าออกมาและเชิญไปโรงพัก

เรียกเงินหมื่นนึง เพื่อนผมขอลด จบที่ 5000
จ่าย จบ แยกย้าย ไม่มีการเซ็นหรือลงบันทึกอะไร

ที่งงคืออยู่ดีๆ จะค้นก็ค้นแบบนี้ได้เลยหรอ มันไม่ได้ควักมาดูดซึ่งหน้าซะหน่อย เก็บอยู่ในถุงมิดชิด

แล้วเท่าที่ผมเสิชดูโทษปรับของการมีในครอบครอง สูงสุดคือไม่เกิน 4 เท่าของมูลค่าบุหรี่ไฟฟ้าเองนะ เพื่อนผมบอกซื้อมา 300

ก็เลยบอกวันหลังก็พูดภาษาบ้านมันไปเลย ไม่ต้องพูดไทย เพราะพวกนี้อาจจะกะเล่นต่างชาติอยู่แล้ว มีสิทธิ์มีครอบครองสูงและอ่อนกฎหมายไทย
[/imgr]

ผมลองนึกจำลองเหตุการณ์​แบบทฤษฎี​สมคบคิดนะ​ ถ้าเพื่อนท่านอาจหยิบพอดไฟฟ้า​ขึ้นมาดูดก่อนขึ้นนั่งวิน​ ซึ่งอาจมีกล้องวงจรจับได้​ ทีนี้ทางจนท. ซึ่งก็รู้ๆกันอยู่ว่าเคร่งครัด​กฎหมาย​มากๆ​555 คงอาจเตรียมไว้แล้วว่าถ้าผ่านจุดนี้ก็เรียกตรวจได้เลย​ แต่ก็นั่นแหละ​ ตามกฎมันก็ผิด​ ด้วยความที่เป็นต่างชาติ​จะหาคนมาช่วยมันคงยากกว่าเราๆท่านๆ​ เพราะงั้นก็พยามเซฟตัวเองให้มากสุดน่ะแหละ​

ฮ่าาาา​ บุหรี่ไฟฟ้าผิดกม.จริง​ เเต่ชาวต่างชาติ​ไม่รู้เยอะมาก​เพราะเราทำเเบบครึ่งๆกลางๆ​ ใครซวยก็ซวยอะ

โดนสุ่มเรียกหลายคันครับตรงนั้น ตามที่เพื่อนบอกคือไปโรงพักแล้วเห็นมีคนโดนเยอะมาก ต่างชาติ 2-3 คน ที่เหลือเป็นคนไทยซะเยอะ

ผมว่ามันปกตินะ ไป ปท.อื่นยังต้องระวังของพวกนี้เลย เพราะจะโดนเรียกตรวจตอนไหนก็ไม่รู้ อย่างน้อยๆก็ตรวจพาสปอร์ตละ

บุหรีไฟฟ้ามันผิดกฏหมายนะครับ ควรตะหนักรู้เรื่องนี้ด้วย
ไม่ใช่ทำเหมืองของปกติ ไม่เกรงกลัวกฏหมายเลย

ก็เพราะเรื่องกฎหมายนี่แหละเลยมาตั้งถาม อยู่ดีๆ ตำรวจอยากจะสุ่มค้นใครกลางที่สาธารณะ โดยไม่มีมูลหรือการกระทำผิดก็ได้หรอ อยากจะปรับเท่าไรก็ได้หรอ

ส่วนเพื่อนผม ผมก็บอกมันไปแล้วเลิกดูดได้ก็ดี ทั้งเรื่องสุขภาพและอื่นๆ