NEWSUPDATE : Mike McGrath (Tier 2 , Telegraph) รายงาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจเผชิญสถานการณ์ที่ต้องจ่ายเงินหลายล้านปอนด์เพื่อให้นักเตะบางรายย้ายออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดในซัมเมอร์นี้ ขณะที่บรรดาสโมสรที่สนใจพร้อมใช้โอกาสนี้ในการต่อรองราคากับนักเตะที่ยูไนเต็ดต้องการปล่อยออกก่อนเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก

ทั้งการ์นาโช่, แรชฟอร์ด และอันโตนี่ ต่างก็มีสัญญาถึงปี 2028 ซึ่งยูไนเต็ดคาดว่าจะต้องช่วยออกค่าเหนื่อยแม้พวกเขาจะย้ายไปเล่นให้สโมสรอื่นที่อาจเป็นคู่แข่งในพรีเมียร์ลีกก็ตาม ส่วนเจดอน ซานโช่ ก็พร้อมถูกปล่อยออกเช่นกัน หลังจากถูกปล่อยยืมตัวสองฤดูกาลติดต่อกัน

มีรายงานว่า เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยหารือกันถึงความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนดีลยืมตัวของซานโช่เมื่อฤดูกาลที่แล้วให้กลายเป็นการซื้อขาด แต่สุดท้ายดีลล่มลง เนื่องจากไม่สามารถตกลงเรื่องสัดส่วนค่าเหนื่อยที่ยูไนเต็ดจะช่วยจ่ายได้ โดยยูไนเต็ดเซ็นเขามาจากดอร์ทมุนด์ด้วยค่าตัว 73 ล้านปอนด์ พร้อมค่าเหนื่อยกว่า 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

ยูไนเต็ดตั้งเป้าที่จะเจรจาให้ได้ “เงินคืนจากค่าเหนื่อย” (salary recovery) ผ่านดีลยืมตัวนักเตะเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ตัวกลาง (Intermediaries) หลายรายมองว่าสโมสรเสียเปรียบในการต่อรอง เพราะเปิดเผยเจตนาชัดเจนว่าต้องการปล่อยนักเตะออก

แรชฟอร์ดไม่ได้มีชื่อแม้แต่ตัวสำรองภายใต้การคุมทีมของอโมริม ก่อนจะถูกปล่อยยืมให้แอสตัน วิลลา และได้รับโอกาสกลับมาติดทีมชาติอังกฤษอีกครั้ง โดยเจ้าตัวเพิ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อสเปนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ต้องการย้ายไปเล่นให้บาร์เซโลนา ซึ่งแม้สเปอร์สจะมองหาปีกในตลาดนี้ แต่บาร์ซาน่าจะเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในสายตาเขา

กรณีการ์นาโช่เกิดขึ้นหลังจากที่อโมริมแจ้งเขาว่าสามารถหาสโมสรใหม่ได้เมื่อจบฤดูกาล ขณะที่อันโตนี่ก็ถูกปล่อยยืมให้เรอัล เบติสในฤดูกาล 2024/25

เบติสให้ความสนใจที่จะยกระดับดีลกับอันโตนี่ และมีรายงานจากแหล่งข่าวในสเปนว่ายูไนเต็ดกำลังพูดคุยกับเบติสเกี่ยวกับการถือสิทธิ์บางส่วนในตัวนักเตะ ซึ่งหมายถึงการถือสิทธิ์ส่วนแบ่งจากการขายในอนาคต (sell-on clause) หากแข้งวัย 82 ล้านปอนด์รายนี้ถูกขายต่อ

ยังไม่มีความชัดเจนว่านักเตะที่ไม่อยู่ในแผนเหล่านี้จะได้ร่วมทัวร์ที่สหรัฐอเมริกาหรือไม่ โดยในปี 2019 โรเมลู ลูกากู ซึ่งจ่อย้ายทีมในเวลานั้น ก็ยังได้เดินทางไปกับทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์

อนาคตของราสมุส ฮอยลุนด์ ก็ตกอยู่ภายใต้เครื่องหมายคำถาม ท่ามกลางความสนใจจากอินเตอร์ มิลาน โดยกองหน้าทีมชาติเดนมาร์กมีสัญญาถึงปี 2028 พร้อมออปชันขยายอีก 1 ปี เช่นเดียวกับอันโตนี่ ส่วนซานโช่เหลือสัญญาอีกเพียงปีเดียว แต่อาจถูกขยายเพิ่มได้อีกหนึ่งปี เพื่อป้องกันไม่ให้เขาย้ายออกแบบไร้ค่าตัวในซัมเมอร์หน้า

ดีลที่ปล่อยยืมตัวอันโตนี่ ทำให้เรอัล เบติสต้องจ่ายค่าเหนื่อยของนักเตะถึง 84 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่แรชฟอร์ดนั้น แอสตัน วิลล่า รับภาระจ่าย 75 เปอร์เซ็นต์ แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ตามผลงานในสนาม

ดังนั้น หากปล่อยตัวแบบถาวรไม่สำเร็จ ก็เป็นไปได้ว่าในท้ายที่สุดแล้วแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจต้องมุ่งไปที่การได้เงินคืนจากค่าเหนื่อยทดแทนเข้ามา โดยอาศัยการแบ่งจ่ายค่าเหนื่อยภายใต้ดีลปล่อยยืมตัวเพื่อให้นักเตะเหล่านี้ย้ายทีมออกไปอีกครั้งก็เป็นได้

ที่มา : ดูบอลกับแนท
------------------------------

ยังไงต้องชดใช้กรรมไปก่อนนะ ทำกรรมไว้หลายปี

แฟนผีใจเย็นๆ อีก 2-3 ปี น่าจะดีขึ้น

ก็เช็ดขี้ผลงานทีมงานชุดก่อนทั้งนั้นอะ

ผลจากการทำงานโง่ๆของผู้บริหารชุดเก่า

หวังว่าชุดใหม่จะไม่ทำโง่ๆซ้ำแบบเดิม

เข้าเนื้อสุดๆ จะเก็บไว้ก็เสียฟรี เจ็บทุกทาง

ทีมระดับแมนยูแต่เสือกมีผู้บริหารโง่ๆ จนแอบคิดเรื่องใต้โต๊ะเลย เพราะไม่คิดว่าคนระดับนี้จะโง่ได้ขนาดนี้จริง

ขายไม่ออก ก็ดองครับเชือดไก่ให้ลิงดูบ้าง โง่ยอมไปหมดทุกเรื่อง

เอาคนรู้เรื่องฟุตบอลอย่างแอชเวิร์ธมาได้แค่ 5 เดือน เข้ามาแทรกแซงเค้าจนสุดท้ายก็เอาเค้าออก ดูแล้วแมนยูคงทุลักทุเลอีกหลายปี

รู้ว่าตัวที่ต้องปล่อยตั้งแต่ มกรา นี่เลยมา 6 เดือนยังไม่ทำห่าไรเลย
ทำอะไรกันอยู่วะ ตัวเก่าไม่เคลียร์ ตัวใหม่ก็ติดแง้กอยู่นั้นละ

ดูท่าทางคงเหลือแต่ชื่อแน่ๆ
ในขณะที่ทีมอื่นที่เขาดีกว่าอยู่แล้ว เขาก็ยังเดินหน้าต่อเนื่องทุกวันๆ
แมนยูแม่งปล่อยเวลาผ่านเป็นเดือนเป็นปี
โดยที่ไม่มีอะไรขยับเลย เปล่าประโยชน์มาก

ถ้ามันปล่อยง่ายคงไปหมดแล้วแหละ ดูฟอร์มแต่ละคน + ค่าเหนื่อยสูงอีก...

ไม่ต้องรีบ ปีหน้าบอลโลก ดูซิว่าถ้าพวกมึงไม่ย้ายแล้วจะติดทีมชาติยังไง อยากย้ายมึงก็ต้องลดค่าเหนื่อย