เกมสื่อของ หลุย ดิอาซ โดย ซูเปอร์เอ้
ไปอ่านมาใน FB แล้วเขียนในมุมมองที่น่าสนใจมากครับ หลายท่านอาจจะเข้าใจมูฟนี้ของสโมสรว่าโครตเจ๋งถ้าเป็นตามนี้
#โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างแรง
มีรูปแบบการให้สัมภาษณ์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับสื่อสเปน (Mundo Deportivo, Cadena Ser) และโคลอมเบีย (Win Sports, Gol Caracol) ซึ่ง 'มาเน่'(พ่อของดิอาซ) มักจะกล่าวว่ามันเป็น "ความฝัน" ของลูกชายที่จะได้เล่นให้กับสโมสรบาร์เซโลน่า การกระทำนี้เป็นการทดสอบตลาดและสร้างอำนาจต่อรองที่มีความเสี่ยงต่ำ เป็นการ "พูดในสิ่งที่คนอื่นคิด" ผ่านตัวแทนที่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ง่าย เขากำลังทำหน้าที่ที่โดยปกติแล้วเป็นของเอเยนต์ แต่ด้วยน้ำหนักทางอารมณ์และวัฒนธรรมของความเป็นพ่อ ทำให้สโมสรหรือแฟนบอลวิจารณ์ได้ยากขึ้น
นอกจากนี้ยังเคยกล่าวถึงความสนใจจากสโมสรในมาดริด โดยบอกว่า "ความหวังยังไม่หมดไป" สำหรับการย้ายไปเล่นในลาลีกา และอ้างอิงถึงเส้นทางของนักเตะโคลอมเบียคนอื่นๆ เช่น ฟัลเกา และ ฮาเมส สิ่งนี้สร้างหัวข้อข่าวเช่น "พ่อของดิอาซเผยความฝันของลูกชายที่บาร์เซโลน่า"
ซึ่งมีจุดประสงค์สองประการ 1) กดดันให้ลิเวอร์พูลยื่นสัญญาใหม่เพื่อรั้งตัวเขาไว้ และ 2) เป็นการส่งสัญญาณสาธารณะไปยังบาร์เซโลน่าและสโมสรชั้นนำอื่นๆ ว่า "มาคว้าตัวผมไปที"
ตัวผู้เล่นไม่จำเป็นต้องออกมาพูดเอง
หากผู้บริหารของลิเวอร์พูล ออกมาตอบโต้ กลุ่มของดิอาซก็สามารถอ้างได้ว่ามันเป็นเพียงการแสดงออกถึงความต้องการของครอบครัวที่มีมานาน ไม่ใช่การเรียกร้องให้ย้ายทีมอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการสร้างอำนาจต่อรองสูงสุดโดยมีความเสี่ยงส่วนตัวต่อผู้เล่นน้อยที่สุด
__________________
การให้สัมภาษณ์ของดิอาซเองเป็นไปตามสคริปต์ที่สอดคล้องกัน การแสดงออกว่า "มีความสุขมาก" ที่ลิเวอร์พูล ขณะเดียวกันก็ใช้วลีที่คลุมเครือเช่น "เรากำลังเจรจากันอยู่" และ "เราจะพยายามตัดสินใจให้ดีที่สุด" การส่งสารแบบสองทางนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจนายจ้างปัจจุบันในขณะที่ยังคงเปิดทางเลือกในอนาคตทั้งหมดไว้
กลุ่มเอเยนต์ของเขาได้เปลี่ยนจากท่าทีที่สุขุมแบบ "ความสนใจเป็นเรื่องปกติ" (สมัยอยู่ปอร์โต้) มาเป็นท่าทีที่กระตือรือร้นมากขึ้น
สื่อแรกที่รายงานว่า ดิอาซ กำลังคิดถึงเรื่องการย้ายออกคือสื่อจาก โคลอมเบีย จากนั้นก็ตามมาด้วยสื่อสเปนและสื่อเยอรมัน คำถามคือสื่อไหนใกล้ชิดนักเตะและเอเยนต์มากที่สุด? คำถามต่อมาคือสื่อพวกนั้นไปเอาข่าวมาจากไหน?
สื่อสเปนและเยอรมัน รายงานแบบไม่ลืมหูลืมตาด้วยท่าทีที่มั่นใจถึงข้อตกลงปากเปล่าต่างๆ คำถามสำคัญอีกรอบ ไปเอาข่าวมาจากไหน?
กลยุทธ์นี้เป็นเหมือนการเล่นบท "ตำรวจดี ตำรวจเลว" ในระดับที่ใหญ่ขึ้น
ผู้เล่นคือ "ตำรวจดี" (มีความสุข, เป็นมืออาชีพ) พ่อคือ "ตำรวจเลว" (ฝันถึงสโมสรอื่น) และเอเยนต์ทำหน้าที่อยู่ตรงกลาง แปลงเสียงของ "ตำรวจเลว" ให้เป็นการเจรจาที่เป็นรูปธรรมเบื้องหลัง
แนวทางหลายแง่มุมนี้สร้างแรงกดดันจากทุกทิศทาง ทำให้ลิเวอร์พูลต้องเผชิญกับผู้เล่นที่แสดงออกว่ามีความสุขแต่กำลังเจรจาลับหลัง สมาชิกในครอบครัวที่สร้างกระแสภายนอก และเอเยนต์ที่กำลังติดต่อกับผู้ซื้ออย่างแข็งขัน
__________________
โชคดีที่ลิเวอร์พูล รู้วิธีที่จะตอบโต้แบบไหน
ลิเวอร์พูล ใช้บริการนักข่าวระดับสูงที่สโมสรไว้วางใจอย่างสม่ำเสมอ เช่น พอล จอยซ์ จาก The Times และ เดวิด ออร์นสตีน จาก The Athletic เพื่อแจ้งจุดยืนอย่างเป็นทางการของพวกเขา นี่เป็นกลยุทธ์ที่จงใจเพื่อให้แน่ใจว่าข้อความของพวกเขาถูกรายงานโดยแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ
สังเกตุง่ายๆ ในขณะที่สื่อสเปนและเยอรมันรายงานถึงข้อเสนอที่กำลังจะมีการยื่นเข้ามาหรือข้อตกลงส่วนตัว สื่ออังกฤษกลับนิ่งเฉย
นั่นหมายถึงสื่ออังกฤษลิเวอร์พูลคุม ส่วนใหญ่สื่ออังกฤษหรือเทียร์สูงๆ จะรับรายงานตรงจากแหล่งข่าวที่ทำงานในสโมสรคือกรองข่าวจนแน่ใจไม่ใช่เพราะได้รับแจ้งจากเอเย่นต์นักเตะเพียงอย่างเดียว
พอล จอยซ์ บอกว่าเขางงกับข่าวที่ลิเวอร์พูลจะขาย ดิอาซ
แม้แต่ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ก็ยังยืนยันว่า "ลิเวอร์พูล ไม่คิดจะขายดิอาซ"
นี่คือวิธีตอบโต้พร้อมแสดงจุดยืน มันถูกนำมาใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของสโมสรที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยกลุ่มของผู้เล่น
การที่ลิเวอร์พูลแสดงท่าทีไม่รีบร้อนที่จะเสนอสัญญาใหม่ถือเป็นการตอบโต้ที่สำคัญ มันเป็นการสื่อสารแบบไม่ใช้คำพูดไปยังกลุ่มของดิอาซว่าสโมสรจะไม่เจรจาภายใต้แรงกดดันหรือข่าวลือที่สร้างขึ้นโดยสื่อ ซึ่งเป็นการท้าทายกลยุทธ์ของพวกเขาอย่างมีประสิทธิภาพ
สโมสรได้ปล่อยข่าวผ่านรายงานต่างๆ ว่าข้อเสนอใดๆ จะต้องสูงเกินกว่า 80-95 ล้านยูโร การประเมินมูลค่าที่สูงนี้มีจุดประสงค์เพื่อขัดขวางผู้ซื้อส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบาร์เซโลน่าที่มีข้อจำกัดทางการเงิน
ลิเวอร์พูล กำลังมีส่วนร่วมในการเจรจาต่อรองผ่านสื่อโดยใช้ตัวกลาง โดยการให้ข้อมูลกับนักข่าวที่เชื่อถือได้ พวกเขากำลังพูดโดยตรงกับกลุ่มของดิอาซ สโมสรผู้ซื้อ และฐานแฟนคลับของตนเองผ่านสื่อ
จุดยืนของพวกเขาที่ว่า "เรางุนงงกับข่าวลือ แต่จะไม่เสนอสัญญาใหม่" เป็นข้อความเชิงกลยุทธ์ที่ทรงพลัง
"เกมสื่อของคุณจะไม่สามารถบีบบังคับเราได้ หากคุณต้องการย้ายออกไป ก็จงนำข้อเสนอจำนวนมหาศาลที่ไม่สามารถต่อรองได้มาให้เรา ไม่อย่างนั้น เราก็พอใจที่จะปล่อยให้สัญญาของคุณดำเนินต่อไป"
การกระทำเช่นนี้เป็นการโยนภาระกลับไปให้กลุ่มของดิอาซ ตอนนี้หนทางเดียวของพวกเขาที่จะได้สถานการณ์ทางการเงินที่ดีขึ้นคือการหาสโมสรที่ยินดีจ่ายค่าตัวมหาศาลที่ลิเวอร์พูลเรียกร้อง ซึ่งเป็นงานที่ยากลำบาก ลิเวอร์พูลจึงสามารถกลับมาควบคุมเรื่องราวได้สำเร็จ
#SuperAey ✍