อาร์แซน เวนเกอร์ หัวหน้าฝ่ายฟุตบอล ฟีฟ่า ยืนยันเห็นต่างกับ เยอร์เก้น คล็อปป์ อย่างสิ้นเชิง พร้อมชี้แจงวงการจำเป็นต้องมีทัวร์นาเมนท์แบบ สโมสรโลก

ปลายเดือนก่อน คล็อปป์ ผู้บริหารเครือ เรดบูลล์ และอดีตกุนซือ ลิเวอร์พูล วิจารณ์ สโมสรโลก คือ "ไอเดียที่แย่ที่สุดที่เคยเกิดขี้นในโลกฟุตบอล"

สุดสัปดาห์นี้ รายการที่สหรัฐอเมริกาจะแข่งรอบชิงระหว่าง เชลซี กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ เวนเกอร์ ออกโรงตอบโต้:

"ผมจะให้คำตอบที่น่าเบื่อ กับคำถามที่น่าสนใจมาก ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็นตัวเอง แต่ผมมีมุมมองต่างจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ อย่างสิ้นเชิง" ตำนานโค้ช อาร์เซน่อล เริ่มกล่าว

"ผมรู้สึกว่าสโมสรโลกคือสิ่งที่จำเป็นต้องมี หากถามทุกทีมที่เข้าร่วม 100 เปอร์เซนต์จะบอกว่าพวกเขาต้องการทำอีกครั้ง นั่นคือคำตอบที่ดีที่สุดว่าฝั่งสโมสรคิดยังไง"

"ส่วนคำถามว่าแฟนบอลชอบหรือไม่? เราเชื่อว่าจำนวนผู้ชมในสนาม สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก คำตอบมันอยู่ตรงนั้นแล้ว"

นักเตะและโค้ชหลายคน ส่งเสียงวิจารณ์สภาพอากาศ รวมถึงพื้นสนามซึ่ง เวนเกอร์ ชี้แจงต่อ: "โดยรวมผมรู้สึกว่าเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมาก"

"มีบางเกมที่เจอปัญหาเรื่องความร้อน แต่เราพยายามต่อสู้ด้วยการให้มีช่วง คูลลิ่งเบรก และรดน้ำที่พื้นสนาม"

"พื้นหญ้าที่สหรัฐ ต่างไปพอสมควร มันสากและมีแรงต้านมากกว่าประเทศอื่น เมื่อเรารดน้ำ ทุกคนก็มีความสุข แต่เราไม่ควรประเมินคุณภาพของการใช้หญ้าจริงต่ำเกินไป

"แน่นอนเลยว่าฟุตบอลโลกปีหน้า หลายสนามของที่นี่จะเพิ่มหลังคา และเวลาถ่ายทอดสดจะสมเหตุสมผลมากขึ้น"

"นักวิเคราะห์เราพบว่าอุณหภูมิเกิน 35 องศาเซลเซียส จะส่งผลต่อการวิ่งสปรินท์ด้วยความเร็วสูง ไม่ใช่เรื่องระยะทาง คุณจำเป็นต้องพร้อมรับมือ"

ไม่พูดเรื่องจำนวนนัดต่อปี หรือการพักร่างกายของนักเตะหรอ

ถ้าเจ๊ยังคุมทีมอยู่ บทสัมภาษณ์คงต่างออกไปมั้ง

คนอ่ะมันอยากดูอยู่แล้ว ในด้าน ธุรกิจมันย่อมดีแหละ ยิ่งไม่มีรายการอื่นลีกอื่นมาแย่งแอร์ไทม์เลยนี่ยิ่งดี แต่ในด้านนักกีฬาเอง คือหนักอยู่เหมือนเตะทั้งปีโดยไมาได้พักเลย แถมปีหน้ามีบอลโลกอีก กรอบยับๆ

ในแง่มุมทางธุรกิจและวงการฟุตบอลน่ะ มันปฎิเสธไม่ได้หรอกว่ามันดี

แต่นักฟุตบอลคือมนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์น่ะครับ สภาพร่างกายมันพังพอดี จากจำนวนนัดที่เตะต่อปี

ได้พักบ้างไหม หมายถึงนักเตะน่ะ

สโมสรโลกมันต้องมี
แต่ไม่ใช่วิธีการแบบนี้นะเจ๊

พอเป็นผู้บริหาร นิสัย ความคิด เปลี่ยนกันหมด

ขนาดคนแบบเวนเกอร์ ที่เชื่อขนมกินได้ตอนเป็นโค้ช ตอนนี้แทบจะทุกครั้ง แกเอียงไปทางธุรกิจมากกว่าฟุตบอลไปแล้ว

ปล.เดี๋ยวคอยดูเหล่านักเตะที่เล่นในรายการนี้ได้เลย ว่าจะเหลือร่างกายดีๆ ไปเตะฟุตบอลโลก ตอนจบฤดูกาลได้กี่คน

หวังคำตอบอะไรจากพนักงานฟีฟ่าล่ะ

ถ้าเวนเกอร์ยังคุมทีมอยู่และปืนได้มาเตะด้วยผมว่าก็พูดเหมือนตอนนี้ ณ ตอนนี้คงที่บอกไม่เห็นด้วยมีเเค่คนที่ไม่ได้มาทั้งนั้นเลยนะ

ผมจะรอดูตอนเปิดซีซั่นใหม่ หวังว่าจะไม่ได้ยินข้ออ้างอะไรแบบว่าเพราะไม่มีเวลาพักนะครับ

โดยรวมก็ดีนะ แต่คงต้องปรับเรื่อง สภาพอากาศ สถานที่แข่ง กับ วันพักของนักเตะ

ดีกับทีมที่ได้เข้าร่วม แต่นอกจากนั้นผมไม่คิดว่ามันดีต่อผู้จัดหรือนักเตะเท่าไหร่หรอก นักเตะอาจจะได้โบนัสเพิ่มนิดหน่อยแลกกับวันหยุด

ซึ่งผมว่านักเตะตัวท็อปๆ 80% ขอวันหยุดมากกว่าเงินโบนัส และทางผู้จัดเองก็ลงทุนเป็น 1000ล้าน แต่ได้ไรกลับมา บางนัดคนดูยังว่างเกินครึ่งสนามเลย

แถมมาเป็นแบบดูฟรีอีก คนนอกก็ไม่ได้ไฮป์อะไรกันขนาดนั้นเทียบกับบอลโลกแล้วคือคนละระดับเลย ทั้งๆที่จะ 4ปีเตะรอบนึงเหมือนกัน

เท่าที่อ่าน มุม JK เป็นเรื่องเกมแข่งขันเยอะจนนักเตะได้พักน้อย ก่อนเปิดฤดูกาลใหม่

แต่มุมแวงเกอร์ ไม่ได้ตอบเรื่องนี้ แต่ไปตอบเรื่องการจัดงานซะมากกว่า

ถ้ามองให้เป็นกลาง จะจัด จัดได้ แต่ต้องจัดตารางให้ดีกว่านี้ เพราะการเพิ่มเกมการแข่งขัน จำนวนนักเตะต้องมากพอด้วย ก็ไปการลงทุนของสโมสรอีก
เพื่อลดปัญหาอาการล้า ก่อนเปิดฤดูกาลใหม่

แค่นึกภาพว่า ถ้าหงส์ไปสโมสรโลก เเล้ว Vvd เจ็บ เปิดฤดูกาลใหม่นี่ วางแผนกันไม่ถูกเลย น่ากังวลนะครับ

สรุปคือ ก่อนจะจัดอะไร ดูความเหมาะสมก่อน ไม่ใช่จัดก่อน ที่เหลือค่อยว่ากัน

สโมสร ที่เข้าร่วม ได้ รายได้เยอะนะ พวกลีคอื่นๆ ได้ประโยชน์เยอะ

ส่วนเรื่องนักเตะหมุนเวียน มันก็ต้องบริหาร กันเอง จะเอาดาวรุ่ง สำรองลงก็ได้

เพราะ รายได้นักเตะสมัยนี้ มันสูง ค่าใช้จ่ายสโมสรก็สูง