สรุปย่อยๆ ไว้ให้นะครับ ใครอยากฟังเต็มได้ที่ลิงค์ข้างบน

Aidan Heaven

Whitwell บอกว่า Heaven เป็นคนพูดน้อย แต่มั่นใจในตัวเองและมีน้ำเสียงที่น่าเชื่อถือ และรู้สึกว่า Heaven เป็นผู้ใหญ่เกินวัย และดูเหมือนนักเตะทีมชุดใหญ่ตั้งแต่แรก

แม่ของ Heaven มีบุคลิกชัดเจน ฉลาด และสนับสนุนลูกอย่างจริงจัง และที่สำคัญเป็น FIFA-licensed agent ซึ่งผ่านการสอบที่ไม่ง่าย (ต้องเรียนเป็นปี และมีคนสอบตกมาก)

Lisa เป็นเจ้าของร้านเสริมสวยใน Essex และพาเพื่อนร่วมงานมาเชียร์ลูกชายตอนเดบิวต์เกมกับ Arsenal

Heaven ประทับใจเกมที่ Old Trafford กับ Rangers (ที่ Bruno ยิงประตูชัยท้ายเกม) รู้สึกว่า ระบบ 3 เซ็นเตอร์แบ็กเหมาะกับสไตล์ของเขา และมั่นใจว่าจะได้โอกาสลงเล่นเร็วกว่า

Amorim และทีมเห็นว่า เขาเหมาะกับบทบาทเซ็นเตอร์ฝั่งซ้ายถนัดซ้ายในแบ็ก 3 ซึ่งหายาก

Jason Wilcox เป็นคนพา Heaven เยี่ยมชม Carrington และอธิบายแผนการเล่นว่าจะเข้ากับระบบยังไง

Darren Fletcher และ Harry Maguire มีส่วนสำคัญที่ช่วย Heaven ปรับตัวและเข้าใจระบบหลัง 3

และ Heaven คือ ดีลความเสี่ยงต่ำ-แต่ผลตอบแทนสูง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ของสโมสร

ดีล Bryan Mbeumo

ทีมต้องการ Mbeumo จริงจัง และเป็น เป้าหมายหลัก ในตำแหน่งแนวรุก แต่ยังไม่ตกลงเรื่องค่าตัวกันได้และยังไม่มีฝ่ายใดยอมอ่อนข้อ

ช่องว่างค่าตัว ไม่มาก (ประมาณไม่กี่ล้านปอนด์) แต่ United ไม่ต้องการ "ยอมแพ้" ในการต่อรอง เบรนท์ฟอร์ดเองก็ พยายามตั้งราคาให้สูงที่สุด เท่าที่จะทำได้ และอ้างว่าสามารถเก็บนักเตะไว้ได้

"การนิ่งเฉย" เป็นกลยุทธ์ ไม่ใช่การไม่ทำอะไร แต่คือการรอดูสถานการณ์ โดยคาดหวังว่า Mbeumo จะเริ่มรู้สึกเบื่อหรืออึดอัดในแคมป์ฝึกซ้อม เบรนท์ฟอร์ดจะเริ่มรู้สึกกดดันจากภายในทีม เป้าคือรอให้เบรนท์ฟอร์ดยอมอ่อนข้อ หรือเสี่ยงเสีย Mbeumo ไปในราคาที่ต่ำลงใกล้ปิดตลาด

ทีมเชื่อว่าเบรนท์ฟอร์ดเองก็มีแรงกดดัน ถ้าดีลล่มอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของเบรนท์ฟอร์ดเอง เรื่องที่จะปล่อยนักเตะไปเมื่อถึงเวลา ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นอื่นไม่อยากย้ายมาในอนาคต

Whitwell ยังเชื่อว่าดีลจะเกิดขึ้นแต่ ทีมระมัดระวังเรื่องการใช้เงินเพราะเคยจ่ายแพงเกินจริงในอดีต(เอ็ดดับจัดส์มันทำระยำไว้เยอะชิปหายเลย) และเชื่อว่าตระกูล Glazer อาจยังมีบทบาทบางส่วนในการตัดสินใจเพราะยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

เดดไลน์กลาย ๆ คือ ทัวร์อเมริกา แฟน ๆ เองก็จะรู้สึกเหมือน "เสียผู้เล่นทั้งที่ยังไม่เคยได้มา" เพราะรู้สึกผูกพันกับข่าวนี้มากแล้ว

Striker Options

ถ้าไม่ได้ Mbeumo มีตัวเลือกสำรอง: Watkins, Vardy, Calvert-Lewin, Callum Wilson, Moise Kean

ส่วนใหญ่เป็นฟรีเอเย่นต์หรืออายุมาก ไม่ใช่ตัวเลือกระยะยาว

ตัวเลือกที่ยังน่าสนใจคือ Watkins และ Vlahovic หากดีลหลักล่ม

Marcus Rashford

ซ้อมคนเดียวที่ Carrington เพื่อแสดงความมุ่งมั่น โดยแรชต้องการย้ายไป Barcelona ซึ่งทีมก็เปิดโอกาสให้หาทีมใหม่แต่ไม่กีดกัน

ขาออก

กลุ่มนักเตะที่ไม่อยู่ในแผน: Sancho, Antony, Garnacho, Rashford ทีมต้องเคลียร์ค่าเหนื่อยและบรรยากาศในห้องแต่งตัว

Recruitment Structure

ทีมกำลังหา หัวหน้าฝ่ายการสรรหานักเตะชุดใหญ่ โดยจะทำงานอยู่ภายใต้ Christopher Vivell โดยจะจัดลำดับความสำคัญของตำแหน่งที่ต้องเสริม คัดกรองข้อมูลและรายงานจากแมวมอง

ทีมจะเปลี่ยนรูปแบบการดูแลแมวมองจาก ดูตามภูมิภาค เช่น South America, Africa, Europe ไปใช้แบบ Brentford คือ แมวมองดูตามตำแหน่งในสนาม เช่น กองกลาง, กองหน้า, เซ็นเตอร์แบ็ก

ข้อดีคือ สร้างความต่อเนื่องและมุมมองเชิงเปรียบเทียบในแต่ละตำแหน่ง สเกาท์แต่ละคนจะมีข้อมูลเจาะลึกเฉพาะบทบาทมากกว่าเฉพาะพื้นที่

ทีมเคยมี แมวมองกว่า 140 คนทั่วโลก ซึ่งถือว่าเยอะจัด ตอนนี้มีการ ลดเหลือประมาณ 80 คนหรือน้อยกว่า (ยังไม่ยืนยัน) แต่ที่สำคัญคือต้องการ ลดต้นทุน + เพิ่มคุณภาพของรายงานแมวมอง


ทีมยังคงใช้แมวมองมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ แต่จะเสริมด้วย ข้อมูลจากฝ่าย data analytics ที่กำลังพัฒนาอยู่

ทีมเคยมีปัญหา: ฝ่ายแมวมอง กับ ฝ่าย data ไม่ค่อยร่วมมือกัน INEOS ต้องการสร้าง ระบบ data scouting ที่เชื่อมโยงกับฝ่ายเทคนิคโดยตรง

Sportsology ได้รับการจ้างมาเพื่อช่วยออกแบบโครงสร้างนี้ เคยมีบทบาทในการช่วยสัมภาษณ์และคัดเลือก Ten Hag ในรอบนี้จะช่วยคัดเลือกคนในตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะ Head of Senior Recruitment

อดีตผู้เชี่ยวชาญ data จาก Mercedes F1 ที่ INEOS ดึงตัวมา จะมาดูแล ฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลและระบบ AI เน้นสร้างความเข้าใจเรื่อง “ข้อมูลแบบไหนที่ใช่” และ ถ่ายทอดให้ฝ่ายฟุตบอลเข้าใจได้

Whitwell ยกตัวอย่างกรณีในอดีตที่แมนยูเคย ใช้ข้อมูลผิดวิธี: ขาย Yap Stam เพราะมองว่า “เข้าสกัดน้อยลง” = แย่ลง แต่จริง ๆ คืออ่านเกมดี เลยไม่ต้องเข้าสกัด แสดงให้เห็นว่า การใช้ data โดยไม่เข้าใจบริบทจริงในบางเคส



พิมพ์ไป พิมพ์มา สรุปตรงไหนวะเนี่ย


มีทวิตนึงที่เกี่ยวกับ Sportsology ให้ทุกท่านได้สบายใจ

ห่าเอ้ยยย

Maxi Oyedele ไป Strasbourg เราน่าจะได้ sell on clause 3m ??

อัลบาโร่ไป มาดริด ได้ส่วนแบ่งราวๆ 8.8m ยูโร (7.7 ล้านปอนด์)

ส่วนอิลานก้าได้ 8 ล้านปอนด์ นั่งตีกลมๆ น่ามีเงินเข้ามาราวๆ 16-17 ล้าน โดยไม่ต้องทำอะไร

ฟีลขอทาน มานั่งลุ่นส่วนแบ่งนักเตะ ส่วนของในทีมขายไม่ออก

"การนิ่งเฉย" เป็นกลยุทธ์ มิงลาออกไปเถอะ โค้ชอยากได้นักเตะมาซ้อมให้เร็็วที่สุด แต่พวกมึงบอกการรอคือกลยุทธ์ พอผลงานไม่ดี มิงก็ปลดโค้ชกันอีก ส่วนพวกมึงลอยตัว

ลาออกไปเล่นหุ้นเถอะ นี่มันฟุตบอลโว้ย อีกอย่าง ถ้าความล่าช้ามันทำให้ผลงานทีมตกต่ำ สุดท้ายธุรกิจมันจะไปดีได้ยังไง

อาทิตย์ที่จะถึงนี่แหละจะได้รู้ว่าจะปิดดีลได้หรือจะแยกย้าย ความยากคือทำยังไงทีมก็สลัดภาพจ่ายเงินโง่ๆแบบที่ผ่านมาออกไปไม่ได้

ส่วนไอ่ sportsology นี่มีแววว่าจะโดนวีเวลโละแน่ๆ เพราะวีเวลเองก็น่าจะมีเครือข่ายของตัวเองทำด้านนี้อยู่แล้ว
แถมผลงานที่ผ่านมาที่ทำงานกับETHคือเละเทะมาก

พอเข้าใจ สถานการณ์นะ ทั้ง2ทีม ก็มีข้อผิดพลาดในการซื้อขาย
ทีมหนึ่ง ชอบโดนโก่งราคา จนต้องซื้อมาแพงอยู่ตลอดดดดดดด
อีกทีม ก็ชอบโก่งราคา จนยอมสูญเสียค่าตัวจากราคาสูงสุด

ในดีล ของ Mbeumo เบรนฟอร์ต ก็ยังไม่เข็ด สงสัยปีหน้าอยากเสียฟรี

เห็นตัวเลือกรองแล้วได้แต่ส่ายหัวเลยแต่ละคน ถอนหายใจแรงๆเลย

อ่านแล้วรู้สึกเหมือนว่าทีมซื้อขายแมนยูไม่เก่ง แต่พยายามทำเหมือนมาเหนือชั้นอยู่ยังไงๆ

ที่ยื่นรอบสองไป ถ้ายื่นเท่านั้นแต่แรก เผลอๆจบแล้ว ผมยังงงว่ายื่นรอบแรกต่ำๆไปทำไม รู้ว่าเค้าปฏิเสธแน่ แถมกว่าจะยื่นรอบสองได้เล่นรอโคตรนาน พอเบรนท์ฟอร์ดเห็นราคาดีลอื่นเลยขึ้นราคาอีก แล้วมาเล่นวิธีรอเฉยๆ แต่เค้ารู้ว่ายังไงเราก็รอเอาตัวนี้ เล่นไม่ดีลตัวอื่นไว้บ้างเลยใครมันเสียเปรียบกันแน่ฟะ ถ้ามาได้หลังปรีซีซั่น ริทก็ไม่ได้เตรียมทีมเต็มที่อีก แอบคิดว่าปีนี้จะจัดให้ก่อนปรีซีซั่น แม่งก็อีหรอบเดิม

ถ้าปีนี้กากจนต้องปลดริม ก็ช่วยเอาเบอร่ด้ากับวิลคอกซ์ออกไปด้วยนะ

ฤดูกาลนี้เสริม 2 ตัว????

ถ้าไม่ใช่ทำไมไม่เดินดีลอื่นก่อน

สัญญามันหมด2027นะมีออฟชั่น+1ปี

พอจะเข้าใจทีมงานนะ แต่ไอ้การรอเนี่ย มันต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ทีมเราแข็งแรงพอแล้ว

นี้ทีมยังพิการอยู่เลย รอไปแบบนี้มันจะแย่กับทีมตัวเองมากกว่า

ยกเว้นจะมีแผน B ที่ดีแล้ว โป้งปิดบัญชีเลยอะไรแบบนั้น

ปล.เดินดิลอื่นไปก่อนก็ยังดี นี้คือไม่มีดิลไหนคืบหน้าสักกะอัน

เห็นแผนสำรองหากวืด Mbeumo แล้วทำใจเลย ซีซั่นนี้อย่างมากก็ลุ้น top10

ฮอยลุน แอนโทนี่เมิงทุ่มจ่ายได้ ทีMBMต่างกันไม่เท่าไหร่เสื_กไม่ยอมเขาอะไรของเมิงวะ

ตอนนั้นลุงจิม ยังไม่มา อะสิครับ

ตลาดรอบก่อนรู้สึกแมนยูเดินดีลฉลาดขึ้น มีเดินหลายๆดีลพร้อมกัน มีดีลสำรองเกือบหมด แต่ล่ะตำแหน่งที่ได้มานี่มีข่าว2-3คนตลอด อย่างเดอลิกจริงๆก็เหมือนเป็นดีลสำรองเบรนเวทด้วยซ้ำ

ทำไมซีซั่นนี้มันกลับมาเดินดีลแบบยุคเอ็ดล่ะ
เดินดีลทีล่ะตัว จะเอาแค่ตัวเดียวให้เค้ารู้ว่าอยากได้มากจนยอมจ่ายทุกราคา