บัตรเครดิตไม่ผิดเลย

ที่ผิดคือวินัยของตัวเองที่ใช้จ่าย โดยไม่รู้กำลังของตัวเอง

มันทำให้คนไม่คิดเยอะในการผ่อนและซื้อของ ผ่อนมันแบ่งเป็นส่วนน้อยๆ แต่ถ้าใช้ผ่อนหลายๆอย่างรวมกันมันก็เยอะอยู่ดี

เป็นการยกตัวอย่างมาสอนที่โคตรปัญญาอ่อน ไปยกตัวอย่างคนที่ใช้เงินโง่ๆมาเนี่ยนะ

ปกติจะผ่อน 0% มันต้องมีเงินจำนวนนั้นรอไว้อยู่แหละ แค่ไม่ใช้เก็บไว้เผื่อสำรองฉุกเฉิน

ไม่ใช่ว่าหวังว่าจะเอาเงินเดือนๆหน้ามาจ่าย ถ้าคิดแบบนั้นก๋หนี้ท่วมหัวแน่นอน

โคตรโง่เรื่องการเงินเลย พวกนี้ได้เงินเท่าไหร่ก็หมด

ผ่อน 0% ไม่ผิด ผิดที่คนใช้งาน

ไม่ต้องทำชีวิตให้ยาก

1. แค่ทำบัญชี รายรับจ่าย
ส่วนผ่อน 0% คิดเป็นเต็มจำนวน
อย่าไปดูเงินในบัญชีดูเงินที่จะเกิดรายจ่าย

2. สินค้าที่จะผ่อนต้องเป็นสินค้าที่จริงๆเราซื้อจำนวนเต็มได้ เราแค่เอาผลประโยชน์ของการจ่ายช้าเพื่อให้เงินที่ยังไม่จ่ายไป reinvest ที่อื่นก่อน

จบ

จั๋วหัวมา กับดักผ่อน 0% แต่ เนื้อในนี่ วินัยการเงิน ใช้เงินเกินตัวล้วนๆ ถ้าคุณใช้บัตรเครดิต ผ่อน 0% ได้ แต่ก็ไม่ควรผ่อนเกิน 20-30% ของรายได้

เงินเดือน 1.4 แสน

คชจ.ต่อเดือนที่ต้องชำระ ระยะยาว

ค่าบ้าน 18000
ค่ารถ 20000
ค่าเลี้ยงดูบุพการี 5000

18000+20000+5000 = 43000

140000-43000 = 97000

คชจ.ในการดำรงชีวิต

ค่าน้ำ+ค่าไฟ+อินเตอร์เน็ท (ไม่ได้แจ้ง) ตีไป 5000/เดือน
ค่าอาหาร+ค่าให้ลูกไปโรงเรียน 2 คน ( ลูกตีไปเดือนละ 10000*2 = 20000 ค่าหารต่อเดือน 4 คนตีไปมื้อละ 600*30 = 18000)

ค่าน้ำมันต่อเดือน 4000

5000+20000+18000+4000 = 47000

97000-47000 = 50000

ค่าโทรศัพท์ ตีว่า เฉลี่ย พ่อแม่ เครื่อง 45K ทั้งคู่ เดาว่าใช้ ไอโฟน ไม่ก็ ซัมซูง ตัวล่าสุด ตีไปว่าผ่อน 0% 10 เดือน (ตีไปว่า พ่อ แม่ ลูก ใช้ แบบเดียวกัน)

ของแม่ 4500
ของลูก 2 คน 9000

4500+9000 = 13500

50000-13500 = 36500

ถ้าไม่มีหนี้เพิ่ม เงินเหลือเก็บ 36500 ยังไม่รวม ค่าเบี้ยประกันต่อปี หักค่าเบี้ยประกัน 4 คนต่อปี ตีไปละเดือน 2000*4 = 8000 (ค่าเบี้ยประกัน 24K ต่อคน/ต่อปี)

36500-8000 = 28500

เหลือเก็บ 28500

นี่ก็แทบจะตึงมือแล้วนะ หักรายจ่ายต่อเดือน เหลือเก็บ 28500/เดือน (ยังไม่รวมค่าเทอม หรือค่าใช้จ่ายในการเรียนอีก) ซึ่งเงินส่วนนี้ต้องเหลือเก็บไว้เป็น ทุนการศึกษา

แต่นี้มีเพิ่มทั้งค่าไปทริปเที่ยวญีปุ่น 11000
ทริปยุโรป 28000

11000+28000 = 39000

28500-39000 = -10500

ติดลบไปแล้ว -10500 ถึงจะหมุนได้ แต่คือเหนื่อยแน่ แล้วนี่ยาย เข้าโรงบาล ประกันไม่มี เข้าเอกชน ต่ำๆ รักษาอีกหลักแสน ตีไป 200K (ผ่อน 0% 6 เดือน) = 33K ต่อเดือน ตีไปกลม

-10500+ -33000 = -43500

ค่าซ่อมรถลากรถตีไป 30000 (บัตรเงินสด จ่ายขั้นต่ำ 3000 ละกันไม่รู้จำนวนเงิน)

-43500+ -3000 = -46500

สรุปเงินเดือน ออก 1.4 แสน แต่หักลบหนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ติดลบเดือน -46500 ต่ำๆ ไป 6 เดือน กระแสเงินสดติดลบหนัก

คำถามคือ แล้วบัตรเครดิต 0% ผิดอะไรแล้วอะไรคือกับดัก กฎข้อเหล็กของบัตรเครดิต รูดไปเท่าไหร่ คุณต้องมีเงินจ่ายตามที่รูดได้ ถ้าคุณจะผ่อน 0% ไม่ได้ผิดเลย บัตรเครดิต มีแต้มสะสมหรือ Cash back หรือสิทธิประโยชน์มากมาย แต่ถ้าคุณวินัยการเงินไม่ดี ไม่วางแผนการเงิน มันก็พัง แล้วคุณจะโทษบัตรเครดิตหรอ

หนี้สินไม่ควรเกิน 50% ของรายได้ ยิ่งถ้าเป็นหนีสินจากสิ่งฟุ่มเฟือย หักเก็บ 20% ของรายได้ 30% ตีไปว่าเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ต่อเดือนไป

ที่พิมพ์ไม่ได้ว่าเก่ง แต่มาโทษว่าบัตรเครดิต แบบนั้นแบบนี้ สุดท้ายคนใช้ มันคือคนถือ ถ้าคนถือไม่มีวินัยในการจัดการการเงิน มันควรโทษคนใช้ หรือ บัตรเครดิต

อืมมมม อ่านจบแล้วงงว่าเกี่ยวอะไรกับ 0%

ใช้เงินแบบนี้จะผ่อนจ่ายหรือจ่ายเต็มก็มีปัญหาท้ั้งนั้นแหละ แต่ได้อ่านก็ดีครับ จะได้เตือนใจ

0% เป็นแค่ข้ออ้าง ใช้จ่ายเกินตัวมากกว่า

ทริปญี่ปุ่น แสงเหนือ ทำหน้าพวกนั้นไม่ได้จำเป็นเลย

ไม่เคยผ่อน

สร้างเรื่องขึ้นมา……ไม่ได้อิงจากเรื่องจริงเลย ให้มันดูเท่ๆคูลๆ

ตัวร้ายคือวินัยการใช้เงิน…… ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนขาดวินัยตรงนี้ จะมีปัญหา

โยงทั้งหมดเข้ากับ ผ่อน 0%


แล้วสรุปว่า ปัญหาทั้งหมดมาจากการผ่อน 0% สร้าง topic ให้ดูว่าคนทั่วไปคิดไม่ถึง ส่วนฉันฉลาด ฉันคิดได้

โคตรเท่…… โคตรคูล …… แชร์ลงโซเชี่ยล แปะคำนำหน้าว่า…โค้ช….

หัวข้อเวอร์เกิน บัตรไม่ได้ผิดเลย ผิดที่ไม่มีวินัยการเงินตัวบุคคลล้วนๆ

ทุกวันนี้ผมใช้ผ่อนของ0% ซื้อเข้ามาเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจเล็กๆที่บ้าน

เหมือนมีแหล่งเงินกู้ไม่เสียดอก ไม่ต้องควักเงินสดทั้งก้อนไปจ่าย

แถมมีกำไรเหลือหลังจ่ายค่าบัตรทุกเดือน ผ่อน0%ดีสำหรับคนมีวินัยที่สุดละ

วินัยบางคนไม่มี ก็เรียบร้อยเลยสำหรับบัตรเครดิต

0% เท่าที่จำเป็น บัตรเครดิตดีอยู่แล้ว อยู่ที่การวางแผนการเงิน