เจอกันก่อนเกิดเหตุ! นักกายภาพยัน โชต้าไม่ได้ปาร์ตี้หรือเมาแล้วขับ

มิเกล กอนคัลเวส นักกายภาพบำบัดระบบทางเดินหายใจที่เป็นคนดูแล ดีโอโก้ โชต้า กล่าวว่าอดีตกองหน้า ลิเวอร์พูล และ อันเดร ซิลวา น้องชายของเขา ไม่ได้ปาร์ตี้ในช่วงก่อนเกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด

โชต้า เป็น โรคปอดรั่ว ซึ่งเป็นภาวะที่มีลมรั่วออกจากถุงลมเข้าไปขังอยู่ในช่องเยื่อหุ้มปอด โดยคนที่เป็นโรคนี้จะหายใจลำบากและหอบเหนื่อยได้ง่าย หากมีลมรั่วเป็นปริมาณมากก็อาจถึงขั้นขาดอ็อกซิเจนและเสียชีวิตได้เลย รวมถึงเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น การติดเชื้อหรือการอักเสบ ⚠️

ที่จริงโชต้าเป็นโรคดังกล่าวมาพักหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ขอกัดฟันลงเล่นในฤดูกาลที่ผ่านมาเพื่อช่วยทั้ง ลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส โดยเจ้าตัวเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดปอดเมื่อไม่นานมานี้ และแพทย์แนะนำว่า ไม่ควรเดินทางด้วยเครื่องบินในช่วงหลังผ่าตัดเพราะอาจเป็นอันตรายต่อเขาได้ ✈️❌

เรื่องดังกล่าวทำให้โชต้าเลือกที่จะ ขับรถไปขึ้นเรือเพื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศอังกฤษ เพื่อรายงานตัวเข้าแคมป์ซ้อมปรี-ซีซั่นกับ ลิเวอร์พูล แต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ในโลกอินเทอร์เน็ตมีการตั้งประเด็นว่าโชต้าไปปาร์ตี้ก่อนขับรถหรือไม่ แต่ กอนคัลเวส ยืนกรานว่าไม่ใช่เรื่องจริง

กอนคัลเวสเผยว่า
"ผมบอกลากับเขาและอันเดร น้องชายของเขาตอนประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง น้องชายของเขาคอยอยู่กับเขาเป็นอย่างดี และตัดสินใจเดินทางร่วมกันในทริปนี้ พวกเขาอยากใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น พวกเขาเดินทางตอนดึกเพราะอากาศเย็นกว่าตอนกลางวัน แต่ไม่ได้วางแผนจะขับรวดเดียวถึงที่หมายเลยนะ"

"เขาบอกผมว่าทริปนี้ใช้เวลา 8 ชั่วโมง แต่พวกเขาจะพักโรงแรมในย่านบูร์โกส ดีโอโก้รู้ดีว่าเขาต้องมีความเป็นมืออาชีพสูง พวกเขาควรถึงซานตานเดร์วันนี้ จากนั้นขึ้นเรือไปอังกฤษ ครอบครัวจะบินตามไปทีหลัง ✈️ เพื่อจัดแจงชีวิตช่วงสุดสัปดาห์ และในวันจันทร์เขาก็มีคิวตรวจร่างกายในลิเวอร์พูล"

"ผมอ่านบางคอมเมนต์ในอินเทอร์เน็ตที่น่าเศร้ามาก รวมถึงบางสื่อก็จุดประเด็นว่าเขาไปปาร์ตี้ก่อนเดินทาง ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า ดีโอโก้ กับ อันเดร ไม่ได้ปาร์ตี้ ไม่มีช่วงเวลาแห่งความสุขอะไรแบบนั้น พวกเขาไม่สมควรเจอเรื่องแบบนี้เลยจริงๆ"

"ผมเริ่มดูแลโชต้าตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา อยู่กับเขาทุกวันจนถึงวันพุธ ก่อนบอกลากันในตอนค่ำ เขาฟื้นตัวได้ดีมากๆ มีความเป็นมืออาชีพสูง ทำตามคำแนะนำของผมอย่างเคร่งครัด การฟื้นตัวของเขาสะท้อนถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี"

"ปอดขวาของเขายุบลงนิดหน่อย แต่เขาอาการดีมากหลังจากรับการกายภาพบำบัดหลังผ่าตัด ตอนที่ผมจากเขาเมื่อวาน เขาไม่ปวดแล้ว และกำลังจะกลับไปลิเวอร์พูล เขาตื่นเต้นมาก มีความมั่นใจในการฟื้นตัว และกระตือรือร้นกับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง"

"เขาบอกกับผมว่าเขาจะไม่ได้ร่วมทัวร์ช่วงปรีซีซั่นที่ลิเวอร์พูลจะเดินทางไปญี่ปุ่น เพราะอยากฟื้นฟูร่างกายให้สมบูรณ์ และเขาเชื่อว่าจะสามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในฤดูกาลใหม่แน่นอน" ⚽

cr. Siamsport


ไม่รู้ว่ามีใครสังเกตุเหมือนผมไหมฤดูกาลที่ผ่านมาโจต้าดูหายใจแบบหอบมากกว่าคนอื่นตอนจังหวะกล้องจับบ่อยเหมือนคนที่หายใจไม่สะดวก ช่วงกล้องจับแกจังหวะเตะมุมหรือเซตพีซจะทำท่าหายใจแบบลึกๆเหมือนเหนื่อยมาก มารู้เหตุผลก็วันนี้เองว่าเป็นภาวะลมรั่วจากถุงลมเข้าเยื่อปอด แล้วที่ผ่านมาแกฝืนเล่นมาทั้งฤดูกาล

โคตรน่าสงสารแกเลยหว่ะ พักผ่อนให้สบายนะไม่ต้องสู้กับอะไรแล้ว
ตำนานของฉัน
Rest in peace Diogo 20

อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฟอร์มตกและเจ็บบ่อยหรือเปล่านะ

ไอพวกคนเก่งทั้งหลายที่มาเม้นๆตามข่าวในเฟสประหนึ่งเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ จะได้หุบปากซักที

ถ้าขับรถระยะทางใกล้ๆ ก็ยังพอคิดได้ว่าเมาแล้วขับ
แต่นี่ขับทางไกลข้ามประเทศ ใครมันจะไปเมาแล้วขับวะ คนคิดแม่งก็จังไรเกิน

อาจจะมีไปดูแลเรื่องปอดด้วยครับคิดว่านะเพียงแต่ข้อมูลการรักษาเชิงลึกอาจถูกเก็บไว้เป็นความลับก่อนหน้านี้

ในเฟสนี่บางคนเม้นได้แบบอิหยังวะจริงครับ ข่าวเนโต้ก็มีเม้นนึงบอกไม่มืออาชีพควรลงเล่นอะไรของมันไม่รู้อาการหนักเกิน

ที่ปอดรั่ว มาจาก โดนทับตอนนั้นป่ะคับ ที่พักรักษาตัวยาวเลย ทำให้ตอนกลับฟอร์มช่วงหลังๆ แกเหมือนทื่อไป เพราะมาจากเรื่องปอดด้วยสินะ กำลังจะหายดีหายขาดแล้ว เห้อออ โคตรไม่แฟร์เลย ผมยังไม่อยากเชื่อเลยว่า มันคือเรื่องจริง

ไม่รู้อาการนี้เกี่ยวกับช่วงต้นฤดูกาลตอนที่โดนโทซินล้มทับซี่โครง จนลงเล่นไม่ได้หลายเดือนด้วยรึเปล่า

จากจังหวะปะทะเกมเจอเชลซีนั่นแหละครับ

อยากรู้ความเร็วในการขับแฮะ กดไปเท่าไหร่

พอยางรถพัง รถเสียหลักชน ไฟไหม้จนสภาพแบบนั้น

ไม่มีข้อมูลไหนยืนยันเลยครับอาจจะทั้งเป็นไปได้และไม่ได้ แต่เรื่องที่เห็นแกหายใจแบบหอบเหนื่อยบ่อยๆนี่จากคนที่ดูถ่ายทอดสดช่วงแกลงผมจำได้ดีเลย

แกไม่เคยมีอาการก่อนหน้านี้ครับ แต่ก้ปกติของนักบอลจะผ่าตัดหลังจบฤดูกาลถ้าเป็นการผ่าเล็กน้อย

เชื่อฟังหมอ พยายามดูแลตัวเอง ยอมขับรถข้ามประเทศเพื่อเลี่ยงเครื่องบิน กำลังเดินทางกลับไปอังกฤษเพื่อไปเริ่มซ้อมกับทีม ไม่ควรเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยจริงๆเห้อออ

" ที่จริงโชต้าเป็นโรคดังกล่าวมาพักหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ขอกัดฟันลงเล่นในฤดูกาลที่ผ่านมาเพื่อช่วยทั้ง ลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส โดยเจ้าตัวเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดปอดเมื่อไม่นานมานี้ "

โหหหหห ยิ่งอ่าน ยิ่งเศร้าหว่ะ แม่งโคตรนักสู้ และ ทุ่มเทเพื่อสโมสรฉิบเป๋ง

ขนาดไม่ใช่แฟนลิเวอร์พูล ผมยังรุ้สึกเลยว่า ไอ้หมอนี้ มันโคตรทุ่มเท

เสียใจกับแฟนๆหงส์อีกทีครับ

โห เหนื่อยง่ายแล้วกัดฟันเล่นในกีฬาแบบนี้เป็นปีนี่ โคตรนับถือใจเลยนะ


อาการหายใจไม่ทันนี่มันทรมานกว่าเจ็บนั่นนู่นนี่เยอะเลยนะน่ะ ทุ่มเทจัด


RIP ครับ