ตัวอย่างนะ แบบบอนชอน ผมไม่รู้นะครับ ปีกส่วนบนเค้าขายดีหรือไม่ดี แต่ทำไมต้องเป็นส่วนนี้ (15 ชิ้น 299)?

ถ้าทำโปรมันควรจะเป็นตัวที่เราขายดีหรือ ขายไม่ดีแล้วระบาย stock?

รบกวนช่วยแนะนำเป็นความรู้หน่อยครับ

ที่เคยฟังมา อันดับแรกต้องตั้งงบทำโปรก่อน

พอได้ยอด แล้วถึงกำหนดว่าอยากได้ทิศทางโปรแบบไหน

สินค้าขายดี/ไม่ดี เป็นตัวตามของแพลนที่เราอยากจะทำโปร
ถ้าลดราคาของที่ขายไม่ดี คนก็จะรอซื้อจนร้านทำกำไรไม่ได้
ถ้าลดราคาของที่ขายดี ของอื่นก็ขายออกยาก

เรื่งระบายสต๊อค มันต้องมีแพลนอยู่แล้ว ปกติควรระบาย
หลังบ้าน ไม่ก็ให้ดีมานด์คำนวณการสั่งซื้อแต่ละลอตให้แม่นยำขึ้น

อยู่ที่ผลลัพธ์ที่เราต้องการใหมครับ

อยากดึงลูกค้าใหม่เพิ่มเงินหมุ่นเวียน ทำโปรของขายดี
อยากลดสต๊อค ทำโปรของที่ขายไม่ค่อยได้(หรือควรยกเลิกเมนูพอสต๊อคนี้หมด)
อยากเพิ่มยอดต่อโต๊ะ ทำโปรจับคู่
อยากให้มียอดเข้ามาในช่วงเวลาที่ไม่มีคน ทำโปรเฉพาะวันและเวลาที่ไม่มีบิลสั่งเข้ามา

ตัวขายไม่ดี

เพราะตัวขายดี ยังไงคนก็ซื้อแม้ไม่มีโปร


ประเด็นคือ ถ้าขายไม่ดีสักเมนูละ - -

จุดประสงค์คืออะไรล่ะ ทุกโปรโมชั่นมันมีจุดประสงค์ของการทำ

ถ้าต้องการให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น มันก็ต้องเอาตัวขายดีมาทำโปร เพิ่มโอกาสซื้อซ้ำมากกว่า แต่ถ้าไม่ได้อยากทำการตลาด ตัวขายดีเขาไม่ค่อยจัดโปรกันหรอก เพราะมันขายดีอยู่แล้วไง ยังไงคนก็ซื้อเหมือนเป็น signature ร้านอะไรงี้ เหมือนที่คริสปี้ครีมแทบไม่เคยจัดโปรรสออริจินอลแหละ เพราะมันขายดีสุด

ถ้าจะล้างสต็อคของที่ขายไม่ดี ก็คือจะเอาของขายไม่ดีมาจัดโปร แต่ส่วนใหญ่ถ้าเมื่อไหร่เอาของขายไม่ออกมาจัดโปร มักจะเป็นการทิ้งทวนแล้ว หลังจากนั้นคือเขาจะเอาออกจากเมนูไปเลย เพราะการเอาของขายไม่ดีมาจัดโปรบ่อยๆ มันจะยิ่งเสียมูลค่าในตัวมันเอง ต่อไปคนก็รอแต่จังหวะมันขายไม่ออกแล้วจัดโปรแทน แต่ส่วนใหญ่ถ้าร้านคำนวณสต็อคแม่น มันจะไม่ค่อยมีของขายไม่ดีเหลือเยอะจนต้องจัดโปรหรอก ก็ค่อยๆลดการผลิตลงแล้วก็ยกเลิกเมนูนั้นออกไปแทน ไม่ต้องเสี่ยงทำโปรให้เข้าเนื้อกว่าเดิม ถ้ายังนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงของป้ายเหลืองเมื่อก่อนอ่ะ เดี๋ยวนี้มันหายไปเยอะเพราะไม่ค่อยมีใครอยากทำบ่อยๆ ไปอาศัยการคำนวณสต็อคให้ดีแทน มันจะได้ไม่ต้องเหลือเยอะจนต้องมาจัดป้ายเหลืองบ่อยๆโดยไม่จำเป็น

ส่วนเคสบอนชอน โปรปีกไก่มันก็เข้าสถานการณ์แรกแหละ คือเพื่อดึงให้คนเข้าร้าน ช่วงนี้บอนชอนโดนร้านอื่นตีไปเยอะไง เดี๋ยวนี้ไก่ทอดราดซอสไม่ได้มีแค่บอนชอนแล้ว

มันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการออกโปรสิครับ
ร้านเปิดใหม่ชื่อยังไม่ติดตลาด ก็ต้องเอาของที่ขายดีของร้านมาดึงให้ลูกค้าใหม่แวะมาลองเพื่อตกได้กลายเป็นลูกค้าประจำ
ร้านดังแล้ว มีบางไอเท็มขายไม่ดี ยอดตก หรือเพิ่งออกใหม่ ก็ออกโปรกระตุ้นการซื้อตัวนั้น
โปรเหมือนกัน แต่วัตถุประสงค์ไม่เหมือนกัน แบบไหนดีกว่ามันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตอนนั้นอะครับ

ขายดี + ขายไม่ดี จัดโปร


เช่น นักเก๊ต กับ โควสลอว เด็กๆ ยี้ ก็ เอาไก่ + อะไรก็ได้มาคู่ จัดโปร

ได้หมดเลยจะเน้นตัวขายดีก็ได้ หรือจะเน้นตัวขายไม่ดีเพื่อดันยอด sku นี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะโฟกัสที่อะไร

ถ้า case บอนชอนคือเลือกใช้ ปีกบน เพราะถูกกว่า? 1 กก ได้เยอะกว่า? (จาก chatgpt) ไม่น่าจะเกี่ยวกับอันไหนขายดี/ไม่ดีปะครับ

สรุปขายดีจัดโปร = ดันแบรนด์
ขายไม่ดีจัดโปร = ลองตลาดหรือไม่ก็เตรียมเอาเมนูนี้ออก?

แล้วแต่จุดประสงค์ครับ แต่เมนูขายไม่ดีผมจะไว้สุดท้ายเลย เพราะอาหารของมันเสียอยู่แล้วคุณปรับ stock ได้เลย แล้วคุณทำไปมันไม่ได้แปลว่ามี promotion แล้วคนจะชอบทั้งหมด ถ้ารสชาติไม่โดดเด่นจะกระทบเมนูอื่นด้วยครับ

ถ้าผมทำ promotion จะเน้นขายกลางๆ หรือตัวใหม่ไปถึงขายดี อย่างตัวกลางๆ คือถ้าอยาก ให้คนรับรู้มากขึ้นเผื่อเป็นตัวขายดีตัวใหม่ ครับ เป็นการ test products

ถ้าเป็นตัวใหม่มันแน่นอนในเรื่องให้คนรับรุ้ ส่วนตัวขายดีเป้าหมายอาจจะแล้วแต่ช่วงเวลาไม่น่าทำเป็นประจำ ยกเว้นอยากได้ turnover เยอะจริงๆ

เป้าหมายหลักของการทำโปรโมชันคือการเพิ่มยอดขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า การเลือกใช้ เมนูขายดี เป็นหัวใจสำคัญของโปรโมชัน จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากกว่าครับ