ผมนั่งส่องมาตั้งแต่เมื่อวาน ลองไปหาดูในเพจหุ้นต่างๆแล้ว รอมีคนสรุปให้ฟัง ณ ตอนนี้ คร่าวๆก็ได้ครับ

คียเวิด มงคล ประกิตชัยวัฒนา

ขอบคุณครับ

วันนี้วันอังคารมีโปร 199ครับ

เช้านี้ KTC, BEC, XPG ร่วงต่ออีก floor..
โดย floor เป็นวันที่ 2 วันติดต่อกัน (ตามเกณฑ์ชั่วคราวของตลาดหลักทรัพย์ฯ)
ซึ่งทั้ง 3 หุ้นนี้ มีผู้ถือหุ้นใหญ่คนเดียวกัน
แถมเป็นหุ้นที่มีการนำไปวางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้น สัดส่วนที่สูง
ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ค. 2568
% จำนวนหลักทรัพย์ ที่วางเป็นหลักประกันต่อจำนวนหลักทรัพย์ทั้งหมดที่จำหน่ายแล้ว
KTC อยู่ที่ 16.3% (หรือ 420.2 ล้านหุ้น)
BEC อยู่ที่ 16.0% (หรือ 320.5 ล้านหุ้น)
XPG อยู่ที่ 13.5% (หรือ 1,443.8 ล้านหุ้น)
ราคาหุ้นที่ร่วงจนติด floor ตั้งแต่เมื่อวาน
คาดว่า จะเป็นการถูกบังคับขายทุกราคา
โดยการใช้บัญชีมาร์จินกู้เงินมาลงทุน แล้วระดับสินทรัพย์ถึงระดับ Margin Call แล้วไม่มีเงินมาเติม จะทำให้ถูกบังคับขาย หรือ Forced Sell ในที่สุด..

เครดิต : ลงทุนแมน

https://www.facebook.com/photo?fbid=1263510278479308&set=a.743898923773782

การถูกบังคับขาย (Forced Sell): นี่เป็นสาเหตุที่นักวิเคราะห์หลายรายและทาง KTC เองก็ออกมาชี้แจงว่าเป็นปัจจัยสำคัญ โดยมีกระแสข่าวว่าหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KTC ถูกบังคับขายหุ้นเนื่องจากมูลค่าของหุ้นที่นำไปเป็นหลักประกันในบัญชีมาร์จิ้นลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนด และเจ้าของบัญชีไม่สามารถนำเงินมาเติมได้ การบังคับขายในลักษณะนี้ทำให้เกิดแรงเทขายจำนวนมากในตลาดและกดดันราคาหุ้นให้ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว โดยมีหุ้น KTC จำนวน 16.30% ที่ถูกนำไปวางเป็นหลักประกันในบัญชีมาร์จิ้น ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2568

ราคาหุ้นมันลงมาจนถึงราคาที่เอาไปวางค้ำไว้ เลยโดนบังคับขาย ถ้าคุณหาเงินมาเติมไม่ได้เท่ามูลค่าที่ลดไป ก็ขายไปเรื่อยๆ กิจการไหนอ่อนแอในไทยโดนหมดคับ ยิ่งมีใน tfex ด้วยหวานหมู แล้วตอนนี้บอทเทรดด้วย มันใช้บอททำงานตบแปปเดียวตาย แทงชอตกินตังสบายๆ

อ่านแล้วงงๆ ไม่มีความรู้เรื่องหุ้น แต่เข้าใจว่า A ถือหุ้นเยอะพอสมควร แต่เป็นการถือจากการกู้เงินมาซื้อหุ้น
โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าหุ้นร่วงถึงราคาที่กำหนด จะต้องขายหุ้นที่ไปซื้อมาทุกตัวทุกราคา คือบังคับขาย

ต่อมาหุ้นร่วงถึงเกณฑ์เลยถูกบังคับให้ขาย ประมาณนี้มั้ยครับ

A มีหุ้น ktc สมมุตินะ 100 ตัว เอาไปวางค้ำประกันในราคาตัวละ 30 บาท โบรกเกอร์ให้ตังไป 3000 บาท แล้ววันนึง ราคาหุ้น ktc มันตกเกิน 30 บาท จริงๆมันมีเกณฑ์ กี่เปอ ถึงจะถูกบังคับขายถ้าหาเงินมาเติมไม่เท่าที่ลดไป สมมุติ 30% นะ
ถ้าหุ้น ktc มันเหลือราคา 21 บาท ต้องหาเงินมาเติมให้เค้า ถ้าหาไม่ได้จะโดนบังคับขาย ต่อไปเรื่อยๆ

บัญชีมาร์จินมันยืมเงินโบรคไปซื้อหุ้นเพิ่ม แต่ก็ต้องมีเงินประกันในกี่เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าที่ซื้อ ตกลงที่ 30%
สมมติฝากเงินไว้ 100 บาท โบรคให้กู้ไปซื้อหุ้นเพิ่มได้ 100 บาท

ก็ออร์เดอร์ไปซื้อหุ้น10หุ้น ราคาหุ้นละ 20 บาท มูลค่า 200บาท
เพราะฉะนั้นก็กู้โบรคมา 100 บาท (เงินคนซื้อก็จะเป็น 50% ของมูลค่าหุ้น)

ราคาลงมาเหลือ 14 บาท รวม10หุ้น 140บาท
เท่ากับ เป็นเงินกู้แบงค์ 100 เท่าเดิม ส่วนเงินเราเหลือ 40 บาท (เงินคนซื้อคิดเป็น 40/140 ช 28.5 % ของมูลค่าหุ้น)

โบรคก็จะ margin call คือเอาเงินมาใส่เพิ่ม ให้มันเกิน 30% คืออีก 2บาท 42/140 = 30%

พอหาเงิน 2 บาท ไม่ได้ก็จะถูกบังคับขายหุ้น ทั้งหมด เพื่อปิดบัญชี
ปกติ ก็ขาย 140 บาท โบรคเก็บ100 บาท หักดอกหักค่าโน่นนี่ คนซื้อ จาก 100 บาท ได้ตังค์คืน 40 บาท หักโน่นนี

ประเด็นตอนนี้คือหุ้นมูลค่า เป็นหมื่นล้าน จะมีใครมาซื้อ มันไม่ไช่ 140 บาท แล้วตั้งขายทุกราคา ราคามันก็ฮวบไปจนกว่าจะมีรายใหญ่มารับไปนั้นแหละ
สุดท้ายตอนนี้ ราคาที่ขายได้ ไม่ใช่ แค่จะขาดทุนเอา อาจจะขาแล้วใช้หนี้ ที่กู้มาไม่หมดก็ได้นะ อารมณ์เหมือนขายได้ที่ 90 บาทเงี่ย คือ ยังเหลือหนี้ โบรคอีก10 บาท ไอ้คนซวยไม่ใช่โบรคหรอ รายย่อยคนอื่น ไม่เกี่ยวด้วยก็โดนกันหมด

หุ้นมันจะถูกเทจนกว่าจะถูกถึงจุดที่สถาบันต่างๆมองว่าคุ้มที่จะเก็บเข้าพอร์ตนั่นแหล่ะ เลือดถึงจะหยุดไหล

รายย่อยไม่มีใครมีเงินพอซื้อหรอก อีกทางคือตัวคนโดน force sell สามารถหาเงินมาเติมได้ หรือหาคนรู้จักมาซื้อได้น่ะ

ซึ่งดูแล้วใครๆก็อยาก็อยากได้ของถูก ดังนั้นพรุ่งนี้คาดว่าจะยังไม่มีสถาบันไหนเข้าไปซื้อแน่นอน

คงต้องมีอีก floor แล้วหล่ะ

ถ้าผมมีเงินในพอร์ต ผมจะเฝ้าเน้นๆเลย ktc ไม่ใช่หุ้นแย่ขนาดนั้น ถือรอปันผลคุ้มแน่นอน

3 ฟลอ = 1 ริ่ง

เด่วเกิดขึ้นจริงๆ จะมีคนออกมาเคลมแน่นอน

เคลมว่าเป็นเทคนิคตัวเองซะด้วย

ซึ่งผมได้ยินมาตั้งนานนมละ

รอดูรอบนี้จะเป็นไง

ถ้าไม่เป็นไปตามนี้ จะอ้างอะไรอีกรึป่าวววว

อย่าเชื่อผมนะ ต้องเชื่อก๊าบบบบบ