แฟนบอลหลายคน ทำตัวไม่ถูกเลย
... ทั้งการเลือกผู้จัดการทีมใหม่ แล้วได้แชมป์ EPL ในปีแรกเลย
... ทั้งการเข้าตลาดซื้อ-ขาย นักเตะ summer นี้ ที่ตรงจุดไปหมด

ผมไม่ใช่ติ่ง FSG นะ มีหงุดหงิด บ่นๆด่าๆเหมือนกัน แต่ก็เข้าใจในสไตล์การบริหารภาพใหญ่ของสโมสร
... ถ้าเข้าใจพื้นฐานโครงสร้างที่เป็น จะเข้าใจพื้นฐานการตัดสินใจได้ (วางเรื่องอารมณ์ของแฟนบอลไว้ก่อน)
* FSG เป็นเจ้าของที่ค่อนข้างยึดมั่น ระบบการเงิน การลงทุน ในการอยู่ได้ด้วยตัวเอง
* FSG ไม่ได้รวยจัดๆ แต่เน้นการบริหาร วางแผนการเงิน ที่ต้องได้ประสิทธิภาพสูงสุด (เรียกว่า งก ก็ได้ 555+)
* FSG ไม่อัดฉีดเงินเข้ามาแบบคู่แข่ง แต่ก็ไม่ได้เอาเงินสโมสรออกไป

ดูจากข่าวคราวการซื้อขายตัวผู้เล่น หรือ การสรรหาบุคลากร ตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา
จุดแข็งของ FSG คือ ประสิทธิภาพสูง ในการสรรหาบุคลากร ทีมซื้อ-ขาย และ ระบบ Data Analysis นี่แหละครับ
(เน้นให้น้ำหนักการตัดสินใจ บนข้อมูลสถิติมากกว่าพื้นฐานเฉลี่ยทั่วไป ลดการใช้ความรู้สึกนำหน้า)
... มีนักเตะหลายดีลมาก ที่ทีมซื้อ-ขาย มองเข้าเป้า แต่พลาดการได้ตัวไปด้วยเหตุผลต่างๆ

คนที่ใช่ ที่เราแซว+แซะกัน ก็มีที่มา จากการยึดมั่นกระบวนการตัดสินใจพวกนี้แหละครับ
... ทีมจะไม่ซื้อ แบบขายผ้าเอาหน้ารอด หรือซื้อตัวเลือกรองๆ โดยไม่ได้อยู่บนแผนงาน
(เข้าใจว่า กลัวการเป็น Dead Wood ที่มาใช้งานได้ไม่ดี หรือรวมถึงมูลค่าในการขายต่อด้วย)

ทีมซื้อขายของ Liverpool มักจะไม่เดินดีลที่อยู่ในสภาวะ สงครามราคา แข่งกัน Bid
... ทีมงาน มักจะมีราคาเป้าหมาย พวกที่แพงจัดๆ แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ สโมสรก็พร้อมซื้อ
** ซึ่งพวก 100M+ ที่เราพลาดไป ส่วนใหญ่เก่งทั้งหมด Enzo , Caicedo , Isak , Tchouaméni , Jude , bruno guimarães
(ผมไม่เชื่อ ตั้งแต่ต้นว่า Caicedo หรือ การ Bid ราคาเล่นๆ เพื่อไม่ให้แฟนบอลด่านะ)

ที่ผ่านมาตั้งแต่ 2019 แล้วสโมสรไม่ต่อยอด (ส่วนตัวก็รู้สึกสงสัย และหงุดหงิดเช่นกัน)
... หลังจาก JK ลาออกไป มีรายละเอียดออกมามากมาย ที่น่าสนใจหลายประเด็น
1) JK กับ ทีมซื้อขาย M.Edwards, J.Ward,I.Graham มีการตัดสินใจ ที่ไม่สอดคล้องกันหลายจุดมากขึ้น
(ส่วนใหญ่ ทีมผู้บริหารเจ้าของสโมสร จะเลือกให้เกียรติการตัดสินใจของ JK มากกว่า) จนเป็นที่มา ของทีมซื้อขาย ทะยอยลาออกไป เมื่อ 2 ปีก่อน

2) JK มีความสัมพันธ์กับผู้เล่น (บนพื้นฐานของครอบครัว) จึงเห็นการเลือกเก็บผู้เล่นหลายคน ทั้งที่แฟนบอล หรือ ทีมซื้อ-ขาย คิดว่า ควรถึงเวลาเปลี่ยนถ่าย หรือปรับปรุง >> ทำให้เราเข้าใจได้ว่า ทำไมหลังจากได้แชมป์ EPL ปี 2019 แล้ว ทีมไม่ค่อยได้ขยับต่อยอด และ ไม่ขายนักเตะที่อายุมาก ประสิทธิภาพลด และมีอาการบาดเจ็บ ออกจากทีมไปบ้าง

... ที่ดูไม่ลงทุนต่อยอด ช่วงปี 2019 - 2020 เรื่อง Covid 19 ก็เป็นปัญหาที่สำคัญด้วยครับ
ย้อนกลับไปดู พื้นฐานของ FSG ที่ว่า การอยู่ได้ด้วยตัวเอง (ถ้าขาดทุนอยู่ = ไม่ลงทุนเพิ่ม)

** ไม่ได้ต่อว่า JK อะไรนะครับ ... ทุกคนมีรูปแบบการทำงานต่างกัน ไม่มีใครผิดหรือถูก อยู่ที่บริบทของงาน และสถานการณ์ต่างๆประกอบด้วย ส่วนตัวยังเชื่อมั่น เคารพนับถือ JK เช่นเคย

จากข้อมูลที่เกิดขึ้น ไม่แปลกใจ ที่ทีมซื้อขาย M.Edwards / Richard Hughes จะดู Aggressive เหมือนอัดอั้นตันใจมานาน (นึกว่าเล่นเกมส์ FM กันอยู่)
+ ทีมซื้อขายทีมนี้ มี Master plan และ Data ชัดเจน เข้าใจ Squad Player แบบทะลุปรุโปร่ง และทำให้มีเป้าหมายนักเตะ ทั้งขาเข้า-ขาออก ที่ชัดเจน
+ ขึ้นชื่อเรื่องความเคี่ยว ในการขายนักเตะ ได้ราคากว่าที่คิด และซื้อนักเตะในราคาที่เหมาะสม

คาดว่าเป้าหมายหลัก ของสโมสร กับทีมงานชุดใหม่นี้ คือการสร้าง Legacy ยุคใหม่ ต่อยอดไปที่แชมป์ลีค สมัยที่ 21 และ UCL แหละครับ เลยทำให้การเคลื่อนไหวในตลาดนักเตะ ค่อนข้างดุดัน เพื่อยกระดับมาตรฐานของทีมให้สูงขึ้น

ปีที่แล้วตอนที่ JK ประกาศลาออก // แต่สโมสรได้ M.Edwards, J.Ward,I.Graham กลับมา
... ส่วนตัวผม ค่อนข้างเชื่อมั่นใจประสิทธิภาพของทีมซื้อ-ขายกลุ่มนี้ รู้สึกมั่นใจระดับนึงว่า ทีมจะเป็นทรง ไม่ทรุด คิดว่าติด Top 4 ได้อยู่
(แต่ผลที่ได้เกิดคาดกันไปทั้งหมด ทั้งแฟนบอล และทีมงานในสโมสร)

Make Liverpool great again

อย่างที่ผมบอกเสมอนั่นแหละ เรื่องการเสริมตัวผู้ที่เสริมน้อยคล้อปมีส่วนล้วนๆ
ผมเคารพคล้อปนะ แต่หลายๆอย่างมันไปในทางนั้น ไม่ว่าการจะเก็บผู้เล่นไว้จนเป็นเดดวู้ดไม่ได้ใช้ (เกอิต้า ออกเหลด ชาคิรี่ พวกนี้แทบไม่ได้ลงสนามเลยเสียสล้อตไปฟรีๆ)
หรืออย่างข่าวที่ออกทีมสนใจ เอนโซ่ บรูโน่กี ที่นำไปเสนอคล้อปก็คล้อปนี่แหละที่ปัดตก

เตรียมเปลี่ยนจาก บัญชีเขียวFc มาเป็น บัญชีแดงFc

ปีที่แล้วเข้าใจ อารมณ์แฟนบอล ที่ FSG OUT ครับ ผมก็หงุดหงิด
... แต่ก็ยังเชื่อมั่น Edwards และทีมงานนี่แหละครับ
Database และ Data Analysis ของ Liverpool คือจุดแข็งจริงๆครับ
(ดีใจที่ liverpool มีทีม Data ที่ดี ติด Top 10 ของโลกนี่แหละ)

แต่ปีที่แล้วโพสแบบนี้ คงไม่เหมาะ เพราะน้ำค่อนข้างเชี่ยว 555+

ต้องทำใจและเข้าใจแกอ่ะ แกสายระบบลูกรัก

ปีที่แล้วผมก็หงุดหงิดนะหลังพลาดซูบินไป แต่หลังจากที่มีข่าวออกมาสล้อตต้องการลองทีมก่อน+ไม่เอาตัวเลือกรอง ก็พอเข้าใจได้อยู่

ทำดีก็ชมครับ

แถมหอมแก้ม FSG อีก 2 ทีด้วยเลย

ยอมครับ ปีนี้ เสริมแบบ ให้รู้เลยว่า จะยกระดับ จะต่อยอดทีม คือไม่มีคำให้ติเลย ชมมาตั้งแต่ ต่อสัญญา เสาหลักอย่าง บังโมและฟานไดจ์ ละ ตอนแรกคิดว่า ตลาดนี้ จะเสริมแค่กองหน้า แบ็คซ้ายและขวา ที่ไหนได้ โหบ้าคลั่งจัด กราบตีน ป๋าจอห์น ลอร์ดเอ็ดและ ฮิวจ์ โคตรสุด บอร์ดบริหารทุกคน โคตรเก่ง


#MoreInThanOut

ปีนี้จะอยู่เงียบๆเชียร์อย่างเดียว

ไปฟังพี่เม้งมาแกพูดแล้วน่าสนใจดีครับ ปีแล้วไม่ได้เสริมเลยเพราะว่าดูทิศทาง Slot ก่อน
แผนน่าจะแบบต่อให้จบอันดับเท่าไหร่ก็ตาม ถ้าทิศทางทีมดี คงเสริมให้ต่อยอด
ถ้าไม่เป็นไปตามเป้าก็ปลด แล้วหาคนใหม่ บังเอิญว่าผลลัพท์เกินคาด
ทีนี้ FSG จึงกล้าลงทุนให้ slot แบบเต็มที่ ยิ่งได้เงินจาก UCL+EPL ด้วย

ดูจากการเดินดีล Florian Wirtz จริงจัง ก็เข้าใจเป้าหมายของ M.Edwards / Richard Hughes อยู่ครับ
...เป็นการประกาศจุดยืน ยกระดับทีมไปอีกขั้น ให้รู้ว่าสโมสรนี้ พร้อมซื้อนักเตะคุณภาพสูง เพื่อไปเป้าหมายที่สูงขึ้น

** แชมป์ลีค สมัยที่ 21 กับ แชมป์ UCL น่าจะเป็นเป้าหมายหลักที่สโมสรวางกันไว้ **
(ไม่ได้โม้นะครับ แค่ตั้งเป้าหมาย)

ตบปาก ทีม FSG out แบบผมเต็มๆ ขอให้ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จังหวะ ควรเสริม เสริม จังหวะควรเปลี่ยน เปลี่ยน ต่อยอดไปเรื่อยๆ ผมอยากให้ทีม ยกระดับตัวเองไปเรื่อยๆ ที่ด่าเพราะไม่อยากให้มันซ้ำรอยเดิมที่ผ่านมา ขอแค่นี้แหละ

หลอนกับยุคมืด หลอนกับยุคที่ทีมเล่นสนุก แต่ลุ้นอะไรไม่ได้ พอแล้วกับยุคแบบนั้น

FSGโดนเยอะช่วงถ่ายเลือดนักเตะKlopp, แนวทางการเสริม+ปล่อยตัวน่าจะขัดกัน ละหว่างED กับKlopp.

เสริมโหด เหมือนโกรธ ที่เสีย ดุลย์ให้ทีมยักษ์ใหญ่ทุกปี ไ่มว่าจะเสียนักเตะ หรือจะเอาตัวนักเตะแล้วเขาไม่มา เหมือนจะผลักดัน แบรนด์ให้ เทียบเคียงกับ สโมสรอย่าง มาดริดและบาซ่า คือจะแสดงให้รู้เลยว่า ลิเวอร์พูล ก็อยู่บนจุดสูงสุดห่วงโซ่วงการฟุตบอลได้เหมือนกัน กราบใจบอร์ดบริหารเลย ด่าๆมาอายเลย เวลามาเปิดอัลติขนาดนี้