คือผมรู้สึกแปลกใจกับข่าวช่วงนี้ ทำไมนักเตะสามารถกดดันสโมสรตนเองให้ขายตนเองมีเพิ่มขึ้น

ด้วยที่ผ่านมาผมจำได้ว่า แต่ก่อนจะเป็นเรื่องใหญ่มากเลยที่ทีมๆนึงไปแอบคุยหลังบ้านกับนักเตะก่อน แล้วค่อยมาตกลงราคากับทีมเจ้าของนักเตะ ถึงขนาดโดนทีมที่เข้าหลังบ้านโดนฟ้องอะไรประมาณเลย ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ

หรือเดี๋ยวนี้มีการเปลี่ยนกฏอะไรไปแล้วผมไม่ได้อัพเดต

โปรเซสมันน่าจะไม่เหมือนกันครับ ไอ้ที่โดนฟ้องกันตอนสมัยตัวอย่างฟานไดจ์ เหมือนจะแอบคุยกับนักเตะก่อนโดยสโมสรไม่รับรู้ มันเลยมีปัญหา

แต่ช่วงนี้ บอกสโมสรว่าจะซื้อตัวนักเตะ สโมสรรับรู้เรื่องแล้ว ถึงไปคุยกับนักเตะเรื่องสัญญา แล้วก็คุยเรื่องค่าตัวกับสโมสรไปพร้อม ๆ กัน อันนี้ถ้านักเตะอยากมาสัญญาส่วนตัวมันก็จบเร็ว แต่เรื่องค่าตัวมันก็อาจจะคุยนานกว่า

ดีลแต่กับสโมสร อย่างเดียว แต่ไม่คุยกับนักเตะ

ก็จบแบบ เดอยอง กับแมนยูไง

ผมว่าเดียวนี้มันหลวมๆอะ คุยได้ แต่สโมสรต้องรับรู้ประมาณนึง ว่าจะมาคุย

อยู่ที่ตัวนักเตะและสโมสรที่เข้ามาด้วย ถ้าไม่ได้บีบให้นักเตะออกแอคชั่นกดดันทีมเก่า ส่วนมากไม่ค่อยมีเรื่องอะไรหรอกครับ

บทเรียนกลุ่มท็อดด์เลย ยังใหม่กับฟุตบอลตลาดแรกเอาตามธรรมเนียมปฏิบัติเลยไปเจรจาค่าตัวกับสโมสรให้จบก่อนแล้วค่อยคุยนักเตะ สรุปตกลงกับลีดส์และเซบีย่าได้แล้วทั้งคู่แต่ ราฟินญ่า คุนเด้ ดึงเชงทั้งคู่ไม่ยอมมาคุยสัญญาส่วนตัวกับเชลซี แล้วทีมที่ปาดไปก็ดันเป็นบาซ่าทั้งคู่พอโดนรับน้องแบบนี้ในตลาดเดียว

หลังจากนั้นมาเวลาสนใจคนไหนมันจะขออนุญาตต้นสังกัดขอคุยเบื้องต้นกับนักเตะก่อนเลยว่าสนใจย้ายมาไหม

คุยกับนักเตะก่อนสโมสรนี่มันแค่ไม่ถูกตามกฎในกระดาษ แต่ความเป็นจริงทุกสโมสรคุยหมดครับ เค้าเลยไม่ว่ากัน ลองคิดดูว่าเงิน10ล้านปอนด์นี่มัน4-5ร้อยล้านบาทแล้วนะ เราจะเดินโปคเจคหลายร้อย-พันล้านโดยที่ไม่รู้ว่านักเตะอยากมาไหมหรอ มันไม่เมคเซนส์

เคสไกลสุดที่ผมนึกออกคือตอร์เรสย้ายมาลิเวอร์พูล เจ้าตัวสัมเลยว่าราฟาโทรหาแกเองหลังแข่งเสร็จ ซึ่งตอนนั้นคือปี2006-2007

แต่เคสเซาท์จะฟ้องหงส์กรณีไดร์จจากการคาดการณ์หน้าสื่อตอนนั้นคือหงส์ไม่อยากเล่นสงครามราคา เพราะซิตี้และเชลซีก็อยากได้ตัวไดร์จ และหงส์ไม่อยากจ่ายตามราคาที่เซาท์ตั้ง เลยใช้สื่อในมือออกข่าวว่าคุยกับเอเจนท์แล้ว ไดร์จสนมาแค่หงส์ เพื่อให้ซิตี้กับเชลซีถอย เซาท์เห็นว่าหน้าเกลียดเกินไปที่ใช้วิธีนี้ เลยจะเอากฎในกระดาษมาฟ้องเพราะคงมีหลักฐานว่าหงส์แอบคุยจริงๆ สุดท้ายหงส์ก็ต้องยอมถอยและยอมจ่ายตามเซาท์เรียกตลาดหน้าหนาว เคสนี้หงส์ผิดมารยาทจริงๆ

ที่คุยนักเตะคือคุยผ่าน Agent รึเปล่า

อย่างใน FM ยังมีทักถาม Agent ก่อนได้เลยว่าอยากมาไหม ถ้ามาต้องการค่าเหนื่อยเท่าไหร่ ต้องการสถานะไหน

ที่จริงแล้วมันผิดกฎฟีฟ่านะครับ

จนถึงทุกวันนีัก็ยังไม่มีสิทธิ์คุยก่อน

คุยกับเอเย่นต์ก็ไม่ได้ครับ ผิดเท่ากัน

การที่เราดูข่าวแล้วเห็นเหมือนกับว่านักเตะรับข้อเสนอแล้ว

นั่นคือนักเตะขอขึ้นบัญชีย้ายเรียบร้อยแล้วครับ

พอขึ้นบัญชีย้าย ทีมก็มักจะปล่อยให้ไปคุยกับทีมอื่นได้เลย

เพราะถ้าเกิดตกลงซื้อขายกันได้ จะได้ไม่เกิดปัญหา

ว่าทีมที่จะซื้อ จ่ายค่าตัวได้ แต่ไม่พร้อมจ่ายค่าจ้าง

ดีลมันก็จะล่ม เสียเวลาไปเฉยๆ

เค้าคุยกับเอเย่นตัวกลางก่อนว่าพร้อมย้ายไหม ถ้าพร้อมย้ายก็ค่อยคุยค่าเหนื่อย โบนัสต่างๆ แล้วค่อยไปคุยกับสโมสรว่าพร้อมขายนักเตะคนนี้ไหมจะขอซื้อ

ไอ้หลักเกณฑ์คุยกับสโมสรก่อนถึงค่อยคุยกับนักเตะ คงทำได้แค่ในกระดาษหรือบางเคส ของจริงคงไม่มีใครเสียเวลาเปล่าๆไปคุยกับสโมสร สุดท้าย อ้าว!!นักเตะไม่สนย้ายทีมนี่หว่า

ผมว่ากระบวนการแบบนี้ถ้าเป้าหมายหลักๆ มันกินเวลาหลายเดือนหรือหลายอาทิตย์ เว้นแต่คนพลาดเป้าหมายหลักแล้วไปเป้ารองเรื่อยๆ อันนั้นหน่ะะอาจจะคุยกับสโมสรด่อนจริง แต่ต้องมีข่าวนักเตะพร้อมย้ายหลุดมาก่อนด้วยถึงค่อยถาม

เดี๋ยวนี้นักเตะส่วนใหญ่เขามีทีมกฎหมาย มีเอเย่นต์ ทำเป็นนิติบุคคล หัวหมอเป็นงานกันหมดแล้ว การติดต่อสอบถามจึงทำเหมือนไม่ได้ติดต่อนักเตะโดยตรง