eFootball ver.4.4.0 Are the Substitutes Necessary ?

การเปลี่ยนผู้เล่นสำรอง เป็นคำถามจากเพื่อนสมาชิกมาถึงผมครับว่านักเตะไม่ยอมเปลี่ยนให้ Auto ตามที่ Set ไว้ ผมจึงได้ฉุกคิดขึ้นมาว่า ตำแหน่งผู้เล่นสำรองเนี่ย มันจำเป็นจริงๆหรือเปล่า และมันส่งผลอะไรต่อรูปเกมส์จริงๆกันแน่ นอกจากการที่หลายคนอาจคิดกันว่า ค่าพลังนักเตะมันดีนะ มันน่าจะได้ลง แต่ก็ไม่อยากเอาตัวนี้เป็นตัวจริงเพราะมันทับตำแหน่งกันอยู่แล้วก็ชอบอีกตัวมากกว่าด้วย วันนี้เราจะมาลองพูดถึงเรื่องนี้กันครับ

ผมได้ยกบทความจาก the athletic มาครับ หัวข้อ How Arne Slot uses substitutes at Liverpool – From “Closer” to “Shields” ( by Gregg Evans เมื่อ 8 พฤษจิกายน 2024)แล้วลองแปลเอาเอง+ใช้ Translates ช่วย คิดว่าอาจนำมาประยุกต์ใช้ในเกมส์นี้ได้ และเช่นเดิม นี่เป็นเพียงความคิดของผมที่แปลงจากบทความและจะนำไปใช้ อาจถูก หรือ ผิดก็ได้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ ถ้าเพื่อนๆคิดว่ามันได้ผล ผมยินดีให้นำไปใช้ได้เลย ท้ายกระทู้ผมเอาแพ็คนักเตะมาให้ดูด้วยครับ ส่วนเรื่องการแปล ถ้าอันไหนอ่านแล้วงง หรือถ้าท่านไปอ่านต้นฉบับเองแล้วเห็นว่าผมแปลไม่ตรง ต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ



จากการเปลี่ยนตัว 70 ครั้งของลิเวอร์พูล ทั้งในเวทีพรีเมียร์ลีก,ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก และคาราบาวคัพ (มีแค่แอสตันวิลล่าที่มากกว่า ที่75 ครั้ง) 57 ครั้งในนั้นเปลี่ยนตัวเมื่อทีมขึ้นนำอยู่ และทั้ง 57 ครั้งนั้นมีส่วนช่วยให้ทีมชนะในท้ายที่สุดครับ

เห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนตัวของชล็อตนั้นเพื่อ “ปิดเกมส์” และทำให้ลิเวอร์พูลพบกับการเสียแต้มเพียง 2ครั้ง นั้นคือ แพ้ให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในเดือน กันยายน และ เสมอกับอาเซ่น่อล เมื่อ 11 วันก่อน
เช่นกันกับนิวคาสเซิล, ลิเวอร์พูลเป็นอีกทีมที่ไม่เสียแต้มเลย เมื่อทีมขึ้นนำอยู่ในซีซั่นนี้ แต่ต่างกันที่ทีมของเอ็ดดี้ ฮาวล์ ที่อยู่อันดับ10 มี 15 แต้ม และมีเพียง 4 ครั้งที่ขึ้นนำคู่แข่งก่อน ส่วน ลิเวอร์พูล ทำได้ 8 ครั้งในพรีเมียร์ลีก และ 14 ครั้งจากทุกรายการ (ภาพไม่ตรง แต่พอจะประมาณได้ครับ)


ชล็อตทำยังไงในการเปลี่ยนตัว แล้วมันส่งผลยังไงกับทีมหล่ะ?

Defense subs are key
สิ่งที่น่าสนใจคือจำนวนผู้เล่นเกมส์รับที่ชล็อตเปลี่ยนลงไปช่วงท้ายเกมส์ครับ ที่ช่วยให้ทีมรักษาสกอร์ไว้ได้และบางทีอาจจะยกระดับเกมส์ได้ด้วย

นี่คือรายชื่อผู้เล่นสำรองที่เขาเปลี่ยนลงไปในซีซั่นนี้ โดยตำแหน่งตัวรับ หรือ มิดฟิลด์ตัวรับจะใช้ไฮไลท์สีแดงครับ



ชล็อตจะมีความระวังเป็นพิเศษ แทคติคของเขาคือการเปลี่ยนฟูลแบ็คออกเมื่อผ่านไปประมาณ80นาที โดยอ้างอิงจาก3นัดล่าสุดใน UCL เพื่อทำให้พื้นที่นั้นมีความสด เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวมักเปิดช่องว่างเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้เพื่อรับมือกับการยืดเยื้อของเกมส์ที่อาจเกิดขึ้น

ผู้เล่นหลายคนลงมาเป็น Super-Sub โดยไม่จำเป็นต้องทำสกอร์ก็ได้ แค่พวกเขาลงมาแล้วทำได้ตามแท็กติกที่วางไว้ก็เพียงพอแล้ว ยกตัวอย่างโจ โกเมซ ที่ลงมาปิดเกมส์ตอนพบกับ วูฟแฮมตัน , เชลซี เช่นเดียวกับที่เจอกับ เอซี มิลานและ ไลป์ซิกส์

โดยชล็อตมักจะเปลี่ยน โจ โกเมซลงไปแทนเทรนต์ ในตำแหน่งแบ็คขวาโดยไม่กลัวโดนงอน เพราะว่าเขามองถึงภาพใหญ่ต่อจากนี้ ส่วน แบรดลี่ย์ ถ้าฟิต ก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กันในตำแหน่งแบ็คขวา

ผู้เล่นอีกคนที่ได้ลงช่วงเวลาสั้นๆคือ วาตารุ เอนโด มิดฟิลด์ตัวรับวัย 31 ปี เขาได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญช่วงทดเวลาเลยแหละ ลงมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันก่อนจะถึงแผงหลัง ได้ลงในช่วงนาทีที่ 89 ทั้งเกมส์เจอ เบรนท์ฟอร์ด และ คริสตัล พาเลซ และนาทีที่ 91 เกมส์เจออาเซน่อล เขาช่วยในการปิดเกมส์เมื่อต้องการผลการแข่งขัน , นัดที่ชนะไบร์ตัน เขาได้ลงมากกว่าปกติและยาวไปถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และช่วยให้ลิเวอร์พูลได้3แต้มสำคัญกลับมาด้วย

“ชล็อตให้ความสำคัญกับการส่งตัวสำรองลงไปเพื่อปิดเกมส์มากๆเลยหล่ะ” Sammy lander พูด “ผมเรียกนักเตะเหล่านั้นว่า “ตัวปิดจ็อบ” การที่เค้าเปลี่ยนผู้เล่นเกมส์รับบ่อยๆหน่ะ เพื่อให้เขาสามารถคอนโทรลบางอย่างในสนามได้ยังไงหล่ะ .เขาเน้นที่การขึ้นเกมส์ ดังนั้นผู้เล่นแนวรับของเขาต้องสามารถทำทุกสิ่งที่จำเป็นในสนามได้ตลอดเวลา ”

จาก 42 ครั้งของการเปลี่ยนตัวในพรีเมียร์ลีก ใน19ครั้ง (รวม Endo ด้วย) เป็นผู้เล่นเกมส์รับทั้งนั้น ต้องบอกก่อนว่าบางจำนวนมาจากการเปลี่ยนตัวแทนผู้เล่นเจ็บ แต่การเปลี่ยนตัวส่วนใหญ่นั้นเป็นแผนที่ชล็อตเตรียมไว้เพื่อช่วยให้ทีมเอาตัวรอดจากนัดนั้นๆครับ

การเปลี่ยนตัวของชล็อตในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นช่วยให้ทีมผ่านนัดยากๆไปได้ โดยสองครั้งนั้นมาจากการเอาตัวรอดจากอาเซน่อล และจากการเจอกับไบรท์ตัน ที่ลิเวอร์พูลสามารถเก็บแต้มกลับมาได้ ทำให้ยังไม่เสียตำแหน่งจ่าฝูง เปรียบเทียบกับทีมอื่นๆในซีซั่นก่อน พวกเขาแสดงให้เห็นว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การโชว์ฟอร์มในช่วงครึ่งแรกจะออกไปทางเรียบๆ ไม่หวือหวาครับ

ถ้าพูดถึงฤดูกาลก่อนหน้า พวกเค้ามักจะพบกับความวุ่นนิดๆ เพราะฟุตบอลเป็นแบบเอนเตอร์เทนสูง แต่ไม่มีความเสถียร ฤดูกาลนี้จะออกไปทางการควบคุมผลการแข่งขันหรือก็คือ ให้ความสำคัญกับการจัดการเกมส์ ที่ถึงตอนนี้ก็ยังคงจัดการได้ดีอย่างไร้ที่ติ , ลิเวอร์พูลไม่เสียประตูหลังจากนาทีที่72 ในพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนลีก นั่นสามารถบอกได้ถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา รวมไปถึงการบริหารจัดการนักเตะด้วย

Problem-Solving

นักเตะเกมส์รุกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ถูกเปลี่ยนลงไป แม้ว่าชล็อตจะไม่นิยมเปลี่ยนตัวหลักของเขาก็เถอะ โดยในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา, การลงไปในสนามของ เคอร์ติส และ โซบอสไลน์ ตอนลิเวอร์พูลตามหลังไบร์ตันอยู่นั้นสร้างความแตกต่างได้ ชล็อตพูดชมไปถึงทั้งทีม และพูดอีกว่าผู้เล่นในสนามมีการวิ่งที่มากขึ้น และความเข้มข้นของเกมส์ก็ยังสูงขึ้นอีกด้วยเมื่อเทียบกับครึ่งแรก

อย่างไรก็ตาม ในบางครั้ง การเปลี่ยนตัวของเขานั้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ในนัดเปิดฤดูกาลตอนเจออิปสวิช ควอนซามีปัญหาในการดวลกับ ดีแลป ฉะนั้นในครึ่งหลัง ชล็อตไม่รอช้าในการเปลี่ยนโคนาเต้ลงมาแทนทันที และใช้โคนาเต้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา

"เราไม่จําเป็นต้องพูดถึงแท็คติกถ้าคุณแพ้การดวลหลายครั้ง" "และนั่นคือสิ่งที่เราทํา ไม่ใช่ว่า Jarell แพ้การดวลทุกครั้ง — พวกเราหลายคนแพ้การดวลมากเกินไป — แต่ผมคิดว่าเราต้องการ Konate เพื่อชนะการดวลกลางอากาศเมื่อต้องดวลกับกองหน้าฝ่ายตรงข้าม นั่นทําให้เราควบคุมบางอย่างได้” โดยนัดนั้นชล็อตถูกกล่าวชมเรื่องการแก้เกมส์ได้อย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดด้านแทคติคของเขาอีกด้วย


--------------------------------------------------------------------------------

แปลซะยืดยาวเลย เข้าเรื่องของเกมส์กันครับ ถ้าอ่านไล่เรียงลงมาผมจะขอแปลงเป็นสิ่งที่กระทำในเกมส์ได้ดังนี้ครับ

แน่นอนว่าทีมของหลายๆท่าน ปกติต้อง Build ให้สมดุลทั้งเกมส์รุกเกมส์รับกันอยู่แล้ว ซึ่งสุดแล้วแต่ว่าใครจะ Blend ให้ออกมา กลมกล่อม ในแบบของคนนั้นๆเองครับ(ในส่วนนี้ถ้าเป็นมือใหม่ขอให้Build โดยอิงจาก Playstyle นักเตะเป็นหลักไปก่อนนะครับ)

ข้อต่อมาคืออยากให้ลองจดบันทึกดูว่า หลังจากการเปลี่ยนตัวลงไปแล้วเนี่ย สามารถรักษาผลการแข่งขันได้หรือเปล่า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนตัวผู้เล่นของเรานั้นได้ผลจริงๆ

วิธีการที่ได้จากบทความนี้แล้วเห็นว่าน่าจะใช้ได้ผลอีกอย่างคือการเปลี่ยนฟูลแบ็คครับ เพราะว่าเป็นตำแหน่งที่ต้องวิ่งขึ้นสุด ลงสุดบ่อยๆ(ยกเว้น Defensive Fullback ที่ไม่ค่อยเติม ) ทำให้เมื่อถึงเวลาท้ายเกมส์้ายังไม่เปลี่ยนแล้วไปวิ่งแข่งกับผู้เล่นปีกสำรองฝ่ายตรงข้าม อาจทำให้แพ้ได้

อีกวิธีคือ อยากให้มีตัวที่เล่นได้หลายตำแหน่ง เพื่อทำตามแท็คติคเกมส์รับครับ เช่น เล่นได้ทั้งมิดฟิลด์และฟูลแบ็ค รวมไปถึงการกล้าเปลี่ยนตัวที่ชอบออกมีนั้นมีความสำคัญครับ ถ้ามองถึงผลการแข่งขันที่อาจเกิดขึ้น เมื่อใช้แทคติคเกมส์รับ(ถ้ามองว่าตำแหน่งนั้นมีส่วนน้อยที่จะทำตามแท็คติกได้) เราจะได้คุ้นเคยกับการใช้นักเตะสำรองเพิ่มขึ้นมากด้วย

หรือการเพิ่มนักเตะแนวรับไปอีกชั้นนึงก็เป็นอะไรที่ไม่เลวเลยครับ ให้เป็นตัวคอยวิ่งป่วนแนวรุกฝ่ายตรงข้าม ก่อนที่บอลจะมาถึงพื้นที่นักเตะกองหลังเรานั่นเอง โดยให้เราบังคับคอยวิ่งดักบอลไปเลย

เหล่านี้ก็เป็นทริคเล็กๆน้อย ที่มีความสำคัญครับ ช่วยเพิ่มโอกาสที่เราจะรักษาผลการแข่งขันได้ โดยผมหวังว่าข้อความในกระทู้นี้จะเป็นตัวช่วยให้เพื่อนๆได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ

แนะนำแพ็คนักเตะ




Record eFootball Ver.4.4 Division Mode Rev3 picture template



วิธีตั้งค่าเปลี่ยนตัวออโต้



คำถาม เพราะอะไรถึงเอาแพ็คนักเตะนี้มาโชว์ให้ดู
ตอบ ต้องบอกก่อนว่า ปกติแล้วผมจะชอบฟาร์ม skill ให้นักเตะครบๆนะครับ ยิ่งนักเตะคนไหนมีสกิลเริ่มต้นมาไม่ครบ 10 เนี่ยผมมักจะมองข้ามไปเลย แต่เอาจริงๆแล้วชุดตัวสำรองที่ผมมี ถึงแม้จะฟาร์มสกิลมาครบแล้ว แต่กลับไม่ได้ลงไปเล่นเพื่อใช้สกิลตามที่หวังไว้ครับ เพราะผมติดใช้ผู้เล่นตัวหลักยาวๆมากกว่า ทำให้ไม่เคยใช้ระบบเปลี่ยนตัวออโต้เลย อ่ะเอาตรงๆถึงเปลี่ยนลงมามันก็ไม่ค่อยจะ get feeling อะไรเท่าไหร่ครับ เหมือนเปลี่ยนตัวเล่นเฉยๆ ทีนี้หลังอ่านบทความผมเลยคิดได้ว่า

1.ผู้เล่นชุดหลักเรา สกิลต้องครบ อันนี้หลายๆคนน่าจะทำได้แล้ว
2.ผู้เล่นสำรอง ไม่จำเป็นต้องมีสกิลครับ แต่มีสำรองตำแหน่งเดียวกับตำแหน่งตัวหลักเรา หรือไกล้เคียง เพราะที่ผมเข้าใจคือ ระบบมันจะเปลี่ยนสำรองลงไปตามเวลาที่เราเซ็ตให้ เงื่อนไขคือถ้า Stamina ตัวหลักเราต่ำ(บางคนเล่นแผนรับรอสวน stamina มันลดช้า อาจเป็นสาเหตุที่ไม่เปลี่ยนตัวซักที) โดยบางทีมันจะจับตัว Overall สูงๆ ไปใส่โดยไม่คำนึงถึง Playstyle ได้ อีกอย่างถ้าสกิลครบขนาดนั้น จะเป็นสำรองทำไม 5555
3.การที่สกิลไม่ครบก็ดีอย่างตรงที่เราจะจำได้ว่าตัวนั้นๆมีสกิลอะไร และเราสามารถนำมาใช้ให้โดดเด่นได้ โดยผู้เล่นในแพ็คนี้ ถ้าเป็นตัวที่ไม่มีบูสเตอร์ ไม่มีตัวไหนสกิลครบเลย
4.ยิ่งสกิลน้อยเท่าไหร่ ผมรู้สึกว่ามันให้ความ realistic ที่มากกว่าครับ มันอาจเพิ่มอรรถรสได้ในระดับนึง ซึ่งอันนี้ต้องลองเล่นดูก่อนครับ

คำถาม สำหรับใครที่ใช้ระบบเปลี่ยนออโต้ อยู่แล้ว แล้วผลการแข่งก็ดีอยู่แล้วหล่ะ
ตอบ ไม่จำเป็นต้องทำตามคำตอบด้านบนเลยครับ เพราะถ้าแผนที่มีมันเข้ามืออยู่แล้ว การเปลี่ยนแผนใหม่หมดมันจะทำให้ทีมรวนได้ กระทู้นี้เหมาะเป็นแนวทางเลือกมากกว่า

คำถาม ในความคิดผม การ substitutes ON ไว้ มันมีประโยชน์อะไร
ตอบ ผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ในการลื่นไหลของเกมส์ครับ ถามว่า “เดี๋ยวคู่แข่งก็กดเปลี่ยนตัวเอง เราก็เปลี่ยนตอนนั้นก็ได้” ใช่ครับ ปกติผมก็ทำแบบนั้นแหละ กะๆ เอาว่าซักนาทีที่ 70 ถ้ารูปเกมส์ได้เปรียบก็จะเปลี่ยนตัวที่ stamina น้อยๆออก แต่พอมันหลายนัดเข้ามันก็ทำให้เราต้องเอาเวลาไปประมวลตรงนั้นเยอะเหมือนกันครับ ก็เลยว่าจะลองใช้ระบบที่เกมส์มีให้ดู ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ผลสักแค่ไหน

ขอบคุณทุกท่านเช่นเคยที่แวะมาชมมาอ่านกันครับ ใครมีคำถาม ฝากไว้ในกระทู้นี้ได้เลยนะครับ เผื่อได้คำตอบที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆสมาชิกที่เข้ามาทีหลังครับผม

คำถามจากเพื่อนสมาชิก

คำถาม การดักบอล บอลผ่านแต่ตัวไม่ดักบอลให้ ผ่านไปดื้อๆ
ตอบ การจะดักบอลได้ ต้องปล่อยปุ่มวิ่ง แล้วกดปุ่ม Match up ครับ มันถึงจะยื่นเท้าดักบอลให้ เพราะคำสั่งนี้จะทำงานเมื่อนักเตะอยู่กับที่เท่านั้น (stationary) วิ่งดักเฉยๆ บอลจะผ่านหน้าไปครับผม เทคนิคอีกอย่างคือ การดักบอลแบบนี้มักได้ผลตอนทีมเรา pressing สูงๆนะ เพราะคู่แข่งอาจลนลานแล้วจ่ายติดเราได้ง่ายขึ้น

คำถาม แก้ยังไงกับการยืนเฉยๆแล้วโดนชนล้มจนโดนยิง
ตอบ ผมสันนิษฐานว่ามาจากการ Lag นะครับ คำสั่งเรามันจะช้ากว่าคู่แข่งไประดับ Sec ถ้าช้าแค่นิดเดียวเล่นไปเรื่อยๆมันอาจจะไม่เป็น แต่ถ้าช้าระดับหลาย sec ต้องหาทาง pause game รอให้เน็ตมันเข้าคู่เท่ากับคู่แข่งครับผม อาการมันจะหายเอง


คำถาม ชอบโดนยัดๆมาหน้าประตู แล้วนักเตะไม่เคลียให้ ไม่ว่าจะกดอะไรแล้วโดนชนแบบที่ถามในข้อบนแล้วโดนยิง
ตอบ คำตอบเหมือนข้อบนเลยครับ แต่ล่าสุดผมพึ่งคิดวิธีจัดการเมื่อเวลากองหลังเราได้บอลไว้ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ครับ แต่จะเขียนในกระทู้ต่อๆ ใบ้ให้ว่ามันคือหัวข้อ “Touch and Pass” ครับ