[RE: กะเทยไทย ควรได้ใช้นางสาว]
Tpk พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
Tpk พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
Tpk พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
Vyse พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
มุมอื่นๆคงต้องศีกษาแหละ
ถ้าจะบอกเรื่องการแพทย์ ปกติมันก็ต้องมีประวัติคนไข้อยู่แล้วมั๊ง เพราะเอาจริงๆบัตรแม่มก็แทบไม่มีอะไรเลยนะ โรคประจำตัว,แพ้ยาอะไร
แม้แต่ปรุ๊ปเลือด บางคนก็ไม่ระบุ คนที่ระบุก็ไม่ได้ตรวจสอบอะไรด้วยซ้ำ กลัวกันแค่เรื่องโดสยากับเพศ แต่ถ้าให้เลือดผิดนี่ถึงตายนะ
แต่ส่วนไอ้มุมโดนหลอกนี่ ผมอ่านมาตั้งนาน ยังไม่ get ว่ามันจะโดนหลอกยังงัย โดนแบบไหน มิจฉาชีพ หรือแค่เรื่องรสนิยม?
มิจฉาชีพจะใช้คำนำหน้าหลอกอะไรเราได้บ้าง..หรือในส่วนรสนิยม(ทางเพศ)เราจะเอากับใครเคยขอดูบัตรด้วยหรอ บางทีอายุยังไม่ดูเลย
ผมกับเมียแต่งงานกันจะสิบปีแล้ว จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยเห็นบัตรประชาชนมันรึยัง..หรือถ้าเคยก็ไม่ได้มองคำนำหน้ามันแน่ๆอ่ะ
ตอนจะเอาอาจจะไม่ได้ดูคำนำหน้านะครับ แต่ก่อนจีบก่อนเอาก่อนแต่ง ผมต้องแคร์เรื่องหญิงแท้หรือกะเทยอยู่แล้ว
ทีนี้ถ้าเกิดว่าผมไปจีบ ญ คนนึง ผมถามเค้า เค้าบอกว่า ญ แท้ ดูบัตร ปชช สิเป็นนางสาว
ผมเลยตกลงปลงใจแต่งงานกะเค้า นานไปไม่ท้องซักที ไปตรวจร่างกายเลยพบว่าไม่มีมดลูก ผมจะทำยังไง
ผมไม่ได้อยากเด้ยกะเทย ผมอยากมีลูก ผมเสียเวลาไปอาจจะ 3 ปี 5 ปี ผมต้องไปฟ้องร้องรึเปล่า
อาจจะไม่ได้หลอกในเชิงมิจฉาชีพ แต่หลอกแบบนี้ก็น่าจะมีนะครับ
กรณีนี้ผมเคยคุยกับหลายท่านเมื่อนานมาแล้วอ่ะฮะ
ผมสมมติเหตุการณ์เดียวกัน แต่เปลี่ยนเป็นท่านแต่งงานกับ ญ แท้ แต่บังเอิญเค้ามีปัญหาทางร่างกาย มีลูกไม่ได้
แบบนี้ท่านจะทำยังงัยอ่ะฮะ บัตรประชาชนก็ช่วยอะไรไม่ได้ถูกป่ะฮะ เพราะเค้าเป็น ญ แท้ไม่ได้ดัดแปลงอะไรมา
แค่เค้าไม่เคยบอกท่าน (อาจจะรู้แต่ไม่ยอมบอก หรือรุ้พร้อมท่านทีหลัง) มันก็ไม่ได้ต่างจากเคสกระเทยใช้นางสาวเลยป่ะฮะ
ซึ่งถ้าถามว่าแบบนี้จะแก้ไขยังงัย กรณีต้องการมีลูก(เป็นส่วนสำคัญในชีวิตคู่) นั่นคือการตรวจร่างกายก่อนแต่งกัน ไม่ใช่หรอฮะ
ไม่ได้สำคัญเลยว่าบัตรประชาชนจะระบุเพศอะไร ถ้าเราต้องการมีลูก เราก็ต้องตรวจร่างกาย(พร้อมกัน)ทั้งคู่ก่อนเริ่มต้นชีวิตคู่
ผมว่ามันควรเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรอฮะ
ต่างกันซิ ผู้หญิงก้คือผู้หญิง ไม่ใช่กระเทย ไม่ควรมาอยู่บริบทเดียวกัน คนข้างบนเค้าก้พิมบอกแล้วไม่ได้อยากเด้ยกระเทย เค้าอยากเด้ยผู้หญิง มีลูกได้ไม่ได้หลักๆก้ยังเป็นผู้หญิงเพศตรงข้ามไม่ใช่เพศเดียวกันแค่หลงว่าอยากเป็นหญิงแล้วบาบอกว่าเป็นหญิงแท้ แค่เพศก้ไม่ใช่แล้ว
ผมก็ได้พิมพ์ตอบเค้าไปงัยฮะ ว่ากรณีไม่อยากเด้ยกระเทย บัตรมันก็ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่ เพราะก่อนเด้ยก็แทบไม่เคยมานั่งขอดูบัตรใคร
ส่วนกรณีใช้ชีวิตคู่(อยากมีลูก) ก็ควรตรวจร่างกายก่อนแต่งรึเปล่า เพราะถึงจะเป็น ญ แท้ๆ ก็มีโอกาสที่จะให้กำเนิดลูกไม่ได้
(ซึ่งการตรวจร่างกายนั่นแหละจะเป็นตัวเฉลยทุกอย่างเอง ว่าคนที่เราจะแต่งด้วยสามารถมีลูกได้มั๊ย และเคยเป็นเพศอะไรมาก่อน)
ประเด็นผมคือทำไมไปหวังว่าจะปลอดภัย ไปมั่นใจอะไรกับอีแค่บัตรใบเดียวที่ปกติไม่คิดจะดู หรือแค่หวงเฉยๆเอาแค่ความสบายใจ
คือที่บ่นๆกันตอนนี้ก็แค่ไม่อยากให้คนพวกนี้ใช้คำนำหน้าบัตรว่านางสาวเฉยๆไม่ใช่หรอ..ไม่ได้เกี่ยวกับจะให้ ญเทียมแทน ญ แท้อะไร
แล้วทำไมถึงอยากได้คำว่านางสาว ครับ ?? กำลังเบียดเบียนคนตรงเพศรึเปล่าตัวเองเป็นเพศไม่ปกติรึเปล่าทำไมต้องไปเบียดเบียนพวกปกติครับ ก็ไปคิดคำใหม่ซิ "นายที่อยากเป็นสาว" ไม่ใช่อยากได้ไรก็ต้องได้แล้วไปเบียดเบียนพวกคนปกติ
พอจะอธิบายคำว่าเบียดเบียนได้มั๊ยครับ ว่าเบียดเบียนแบบไหน (กรณีสาวสองอยากเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น น.ส.นะครับ)
คือว่ากันตรงๆผมนั่งอ่านความเห็นหลายๆที่ กลายเป็นคนที่เดือดร้อนกลับเป็น ผู้ชายมากกว่าผู้หญิงแท้ๆอีกนะฮะ..
คือผมเข้าใจว่าสิทธิ์ต่างๆก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่างป่ะฮะ ไม่ได้แย่งโควต้าอะไรที่เพศหญิงพึงจะมี มันแค่การเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเฉยๆ
เลยยังไม่ค่อยเข้าใจที่ท่านบอกว่าไปเบียดเบียนคนตรงเพศ(ซึ่งก็คือเพศหญิงแท้) ว่าเบียดเบียนกรณีไหนบ้าง
ก็คำนำหน้าไงครับ อันนี้มันเป็นของผู้หญิง แล้วทำไมพวกที่ไม่ใช่ผู้หญิงต้องไปเบียดเบียนเอาคำนำหน้าไปใช้ด้วย ?? คิดคำใหม่ไม่เป็นหรอครับ แค่ชื่อนำหน้ามันก็ควรเป็นของผู้หญิง ไม่ใช่อยากไปใช้ด้วยก็ต้องอยากได้ด้วย ถึงถามว่าทำไมต้องอยากไปใช้คำที่เป็นของผู้หญิงด้วย ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ใช่ผู้หญิง
เอาตามที่ท่านถาม พอดีผมก็ไม่ใช่ LGBT แต่พอจะมีเพื่อนที่รุ้จักเป็นเลยพอจะสรุป(และคิดเองได้บ้าง) ได้หน่อยนึงนะฮะ..
ผมว่าคำตอบจะเป็นแบบนี้ฮะ คือมันเป็น symbol ที่เค้าฝันถึงนั่นแหละฮะ มันก็เหมือนกับที่เค้าผ่าตัดหรรมออก เปลี่ยนเป็นกีอ่ะฮะ
คือเค้าไม่ได้อยากมีกีแค่เพราะอยากร่วมเพศ แต่เค้ารู้สึกมาตลอดว่าหรรมเป็นของแปลกแยกของเค้า เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง
รู้สึก feel bad ทุกครั้งที่ได้เห็นไอ้ส่วนแปลกแยกอันนี้ตรงหว่างขาตัวเอง ก็เลยตั้งใจเก็บเงินเพื่อผ่ามันออก ไม่อยากมีมันอีก
หลักๆคือมันตอบสนองความรู้สึกของเค้าอ่ะฮะ ไม่ใช่แค่เรื่องกายภาพ(การร่วมเพศ) แต่เป็นเรื่องของ emotional มากกว่า
ดังนั้นไอ้คำนำหน้านี่ก็เลยอยุ่ในประเภทเดียวกัน เวลาเค้าต้องกรอกเอกสารทางราชการ/เอกชน หรือเห็นบัตรประชาชนตัวเอง
การที่เห็นนายนำหน้าชื่อตัวเอง ก็เหมือนเค้าเห็นหรรมตัวเองนั่นแหละฮะ มันคือ emotional ล้วนๆ อุตส่าห์ผ่าหรรมออกแล้ว
โดยสรุป สำหรับผมนะฮะ ไม่ได้เห็นด้วยหรือเรียกร้องแทนใคร เพราะผมไม่ได้ผลประโยชน์อะไร แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านฮะ..
สิ่งที่อยากเห็นคือ การเปิดใจกันนิดนึง แต่ละคนอาจมีเหตุผล (ตามที่ผมพิมพ์ข้างบน) ไม่ใช่อยากเปลี่ยนเพราะอยากหลอกใครทุกคน
ทีนี้เมื่อเหตุผลมันขัดแย้งกันระหว่างคนอยากเปลี่ยน กับคนต่อต้านไม่ให้เปลี่ยน มันควรต้องเอาเหตุผลมาคุยกัน มากกว่าด่าอย่างเดียว
(ซึ่งจริงๆมันก็บัตรเค้านะ เค้าไม่ได้บังคับให้เราเปลี่ยนคำนำหน้าเป็นอย่างอื่น แล้วแย่งเอาของเราไปใช้..ผมเลยงงคำว่าเบียดเบียน)
อะไรที่เป็นข้อเสีย หรือเป็นความเสี่ยงให้มิจฉาชีพ ก็หาทางปิดจุดนั้นให้ได้ ถ้าปิดช่องโหว่ได้ครบ ก็ควรให้เค้าใช้ได้ตามที่เค้าอยาก
ในอดีต คนก็เคยต่อต้านการแปลงเพศ ก็ด้วยเหตุผลเดียวกับตอนนี้ที่ต่อต้านเรื่องเปลี่ยนคำนำหน้า..ทั้งๆที่ไม่ใช่หรรม,กีตัวเอง
แต่มาถึงวันนี้ มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ตอนนั้นกลัวกัน ก็แค่ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง โลกมันก็ยังดำเนินไปตามทางของมัน