เรือแห้ว 2 ปีติด! 'ดีน' ตังเมเรียกพ่อ 'พาเลซ' 1-0 แชมป์ FA
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อกหักในเกมชิงดำเอฟเอ คัพ 2 ฤดูกาลติดต่อกันแม้เป็นฝ่ายเปิดฉากบุกแต่ยิงไม่ได้ ดีน เฮนเดอร์สัน ตังเมเข้าสิงเซฟจุดโทษและป้องกันลูกยากๆ อีกหลายหน บวกประตูจากการสวนกลับของเอเบเรชี่ เอเซ่ ทำให้คริสตัล พาเลซ ชนะหวิว 1-0 ได้ถ้วยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
คริสตัล พาเลซ
Starting Formation: 3-4-2-1
6.
มาร์ค เกฮี
61'
6.5
20.
อดัม วอร์ตัน
87'
7
14.
ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า
78'
6.5
ตัวสำรอง
19.
วิลล์ ฮิวจ์ส
87'
6
9.
เอ็ดดี้ เอ็นเคเตียห์
78'
6
8.
เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา
61'
6
เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ
สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
เสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568
กรรมการ สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์
คริสตัล พาเลซ
1
0
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
คริสตัล พาเลซ ได้ข่าวดีอดัม วอร์ตันผ่านฟิตมายืนแดนกลางกับไดจิ คามาดะ สามประสานแดนหน้ามาครบทั้งมาเตต้า, เอเซ่ และซาร์ ด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปรับทัพหลายตำแหน่งแต่ส่งแนวรุกลงเพียบทั้ง ฮาลันด์, โดกู, ซาวินโญ่, เดอ บรอยน์ และแบร์นาร์โด้ ซิลวา
ฮาลันด์เกือบได้!เฮนเดอรืสันเซฟทัน
ซิตี้เกือบขึ้นนำแล้ว เดอ บรอยน์เปิดเร็วเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายฮาลันด์ยืดขามาถึงได้ยิงบอลกลับมาเข้ากรอบแต่เฮนเดอร์สันล้มตัวปัดไปได้ทัน
โอเรลลี่ย์ได้โขก
เตะมุมของซิตี้ทางขวาเปิดยาวไปทางเสาไกลโอเรลลี่ย์ได้ขึ้นมาโขกสวยแล้วแต่ยังไปตรงเฮนเดอร์สันปัดทิ้งมาก่อน
อาคันยีได้โขกเตะมุมอีก
เตะมุมอีกหนทางขวาเหมือนเดิมของ เรือใบสีฟ้า เปิดมาในกรอบหกหลาแล้วเป็นอาคันยีขึ้นมาได้โหม่งแต่คราวนี้ขวิดออกไปเอง
เรือช็อค!พาเลซสวนเอเซ่ซัดตุง 1-0
แต่ว่าพาเลซบุกหนแรกมีสกอร์เลย เป็นการสวนกลับเร็ว มาเตต้าพลิกได้ก่อนจ่ายออกริมเส้น มูนญอซหลุดมาทางขวาก่อนเปิดเข้ากลางบอลเลยมาเตต้าที่เสาแรกแต่ยังมีเอเซ่กระโดดยิงตรงจุดโทษบอลพุ่งผ่านออร์เตก้าเข้าไป 1-0!!!
ออร์เตก้าเซฟ!ซาร์เกือบบวกประตูสอง
พาเลซ เกือบได้อีกประตู เอเซ่เปิดออกขวาให้มูนญอซหลุดเข้ากรอบเขตโทษขวาก่อนเปิดเข้ากลางมีทางซาร์โฉบมายิงเสาแรกสวยแล้วแต่ออร์เตก้ายังก้มไปเซฟได้ทัน
เฮนเดอร์สันหวาดเสียวปัดบอลนอกกรอบ
จังหวะปัญหาเลยเมื่อเฮนเดอร์สันจะรอให้บอลเข้ากรอบเขตโทษแต่ฮาลันด์วิ่งมาจะถึงเลยเอามือไปปัดบอลทิ้งกรรมการไม่ว่าอะไร ส่วนห้อง VAR ทำงานก่อนปล่อยผ่าน
เรือได้จุดโทษ!มาร์มูชยิงพลาดเฮนเดอร์สันเดาถูก
เรือใบสีฟ้า มาได้จุดโทษเมื่อแบร์นาร์โด้ลากบอลเข้ากรอบเขตโทษขวาแล้วถึงบอลก่อนโดนมิตเชลล์มาเสียบล้มลงไปกรรมการรอก่อนเป่า VAR ขอเช็คว่าแบร์นาร์โด้ทิ้งตัวก่อนหรือไม่สุดท้ายให้ยิง แล้วเป็นมาร์มูชเอาบอลมาตั้งก่อนยิงด้วยขวาแต่เฮนเดอร์สันเดาถูกพุ่งเซฟบอลกระดอนมาฮาลันด์พยายามซ้ำแต่โดนไม่ดีเฮนเดอร์สันกลับมาคว้าได้อีก
เฮนเดอร์สันอย่างหนึบ!เซฟลูกปั่นโดกูอีก
โดกูกระชากมาทางซ้ายก่อนหักเข้ากลางแล้วเข้ากรอบเขตโทษก่อนปั่นไปทางเสาไกลแต่เฮนเดอร์สันพุ่งปัดมือเดียวก่อนเกฮีช่วยโขกสุดท้ายเดอ บรอยน์หวดออกหลังไปเอง
เรือลงมาบุกใส่
ลงมาถึงซิตี้เกือบได้ประตูตีเสมอเลย ซาวินโญ่หลุดมาทางขวาก่อนเปิดไปทางเสาไกล ริชาร์ดส์โขกได้ก่อนที่ฮาลันด์จะถึงแล้วจังหวะซ้ำของโดกูก็ไปติดบล็อคอีก
โดกูได้ปั่นยังออกหลัง
โอกาสอีกครั้งซาวินโญ่หลุดมาทางขวาเหมือนเดิมก่อนเปิดแล้วบอลหลุดไปถึงโดกูทางเสาไกลจับนิ่งๆ ก่อนพยายามปั่นออกหลังไปเอง
คามาดะเซฟ!แบร์นาร์โด้ยิงเหน่งติดบล็อค
โดกูทะลุช่องให้แบร์นาร์โด้หลุดโล่งในกรอบเขตโทษซ้ายก่อนพยายามง้างยิงแต่ยังมีคามาดะพุ่งล้มตัวหวางก่อนบังบอลออกหลังไปอีก
มูนญอซซ้ำเข้าโดนจับล้ำหน้า
ดิ อีเกิ้ลส์ ได้เฮอีกแล้วจากบอลทุ่มไกลที่กวาร์ดิโอลโหม่งออกมาแล้วมูนญอซยิงยัดบอลแฉลบซาร์แล้วตามมาซ้ำมุมแคบเข้าไป แต่ VAR มาเช็คพบว่า ซาร์ยืนตำแหน่งล้ำหน้าตอนแรกทำให้โดนยึดประตูคืน
เกฮีเจ็บเล่นต่อไม่ไหว
พาเลซต้องเปลี่ยนตัวแล้วเมื่อเกฮี เล่นต่อไม่ไหวเปลี่ยนเอาเจฟเฟอร์สัน เลอร์มาลงมาแทน
KDB ปั่นเข้าขมับวอร์ตัน
เดอ บรอยน์ได้ง้างเท้าซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งไปชนหัวของวอร์ตันที่ขยับมาขวางล้มลงไปเลยต้องให้หมอมาดูอาการพักใหญ่
โอเรลลี่ย์หลุดแล้วดันช้าไป
เดอ บรอยน์แทงทะลุช่องให้โอเรลลี่ย์หลุดเข้ากรอบเขตโทษแล้วแต่ดันช้าเกินไปโดนมูนญอซมาจิ้มบอลด้านหลังไม่ได้ยิง
ดีนเซฟอีกแล้ว!เอเชเวอร์รี่อัดตรงตัว
เดอ บรอยน์จ่ายอย่างเหนือให้เอเชเวอร์รี่จับโล่งๆ ก่อนซัดด้วยขวาแต่ไปตรงตัวเฮนเดอร์สันแล้วจังหวะตามซ้ำก็ไม่ได้อีก
มูนญอซยิงไม่ได้ผ่านหน้าประตู
พาเลซมีโอกาสทำประตูอีกหน มูนญอซเติมมาในกรอบเขตโทษขวาก่อนตัดสินใจยิงทันทีแต่บอลผ่านหน้าประตูออกไปทางเสาไกล
KDB ดีดบอลหลุดเสา
โดกูลากไปสุดเส้นหลังจนได้เปิด ลาครัวซ์โขกเคลียร์ออกมาเข้าทางเดอ บรอยน์จับก่อนดีดด้วยขวาแต่บอลเลี้ยวออกเสาขวามือไปเอง
เอเชเวอร์รี่ยิงติดดีนอีก
เฮนเดอร์สันมาออกแรงเซฟอีกแล้วคราวนี้เป็นลูกยิงของเอเชเวอร์รี่ที่ได้แปด้วยขวาแต่ไปตรงตัวของนายด่านผู้ดีอีกครั้ง
พาเลซแชมป์แรกในประวัติศาสตร์ปราบเรือ 1-0
ในที่สุดคริสตัล พาเลซยันอยู่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 คว้าแชมป์แรกของสโมสรที่ก่อตั้งมานานกว่า 120 ปีไปครองอย่างยิ่งใหญ่
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1
7.
โอมาร์ มาร์มูช
76'
5.5
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
89'
6
26.
ซาวินโญ่
76'
6.5
ตัวสำรอง
19.
อิลกาย กุนโดกัน
89'
6
47.
ฟิล โฟเด้น
76'
6
30.
เคลาดิโอ เอเชเวอร์รี่
76'
6
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Sun May 18, 2025 02:10, ทั้งหมด 20 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ