แดน แอชเวิร์ธ หวนกลับไปทำงานกับเอฟเออีกครั้งด้วยการเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายฟุตบอล ให้หลังพ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

แอชเวิร์ธ เคยรับงานผู้อำนวยการให้กับเอฟเอในระหว่างปี 2013-2018 ก่อนจะย้ายไปทำงานกับ ไบรท์ตัน และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

จากนั้นเขาก็ย้ายไปรับงานผู้อำนวยการกีฬากับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ก็อยู่ในตำแหน่งเพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้นก่อนโดนปลดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

แอชเวิร์ธ ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเสียเงินไป 4.1 ล้านปอนด์หลังออกจากตำแหน่ง โดยที่ จิม แรทคลิฟฟ์ ผู้ถือหุ้นสโมสรยอมรับว่าเป็นการแต่งตั้งที่ผิดพลาด

อย่างไรก็ตาม แอชเวิร์ธ ได้งานใหม่แล้วด้วยการหวนกลับไปทำงานที่เอฟเออีกครั้ง รับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายฟุตบอลที่จะดูแลทีมชาติชายและหญิงในหลายๆรุ่น

เขาจะร่วมงานกับ จอห์น แม็คเดอร์ม็อตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวก็จะรายงานตรงต่อ มาร์ค บัลลิงแฮม ซีอีโอของเอฟเอ

อีกหนึ่งงานหลักของ แอชเวิร์ธ ก็คือดูแลการปรับปรุง เซนต์ จอร์จ ปาร์ค ศูนย์ฟุตบอลของชาติที่จะมีการอัพเกรดก่อนถึงเวลาเริ่มศึกยูโร 2028 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพร่วม

แมนยูนี้ อยากได้ แอชเวิร์ธ จาก นิว แถมไปฉีกสัญญามา ได้แค่ครึ่งซีซั่น สุดท้าย ยกเลิกสัญญา เสียค่าโง่ไป 10 กว่าล้านปอนด์ โดยแบบไม่ได้อะไรมาเลย นี้ถ้า เซอร์จิม ได้เป็นเจ้าของ คงไม่ต่างจากเกลเซอร์แน่ๆ ตัดทุกอย่างโดยที่จะลดได้ รอดูว่าแมนยูจะกลับมายิ่งใหญ่หรือจะแย่ลง รอเวลาเป็นเครื่องพิสูตร

กับผีนี่รอนานกว่าทำงาน

จากตอนนั้นที่ย้ายไปแมนยูจนถึงตอนนี้ ก็ยังรู้สึกเสียดายฝีมือแกจริง กับนิวคาสเซิลแกดีลผู้เล่นมาเข้าเป้าทุกตัว เสียดายที่แมนยูรีบปลดแกออก น่าจะให้เวลาแกสักหน่อย

สมควรแล้วที่แยกทาง

จุดแตกหักหลักๆน่าจะเพราะ แต่งตั้ง พี่เจ๋ง นี่แหละ

เหมือนเคยอ่านว่า แดน ประเมินแล้วว่า แมนยู ไม่เหมาะกับแผนหลัง 3 ผู้เล่นมันเล่นไม่ได้

แต่ CEO กับผู้ใหญ่อยากได้พรี่เจ๋ง

แทนที่จะปล่อยให้ แดน ทำงานของเค้าไป ทำกันแบบนี้ไม่ต้องมีแดนก็ได้ สุดท้ายก็ไปไล่เค้าออกเฉยเลยว่ะ -*-

ปวดกบาลกับลุงจิมและพรรคพวกจริงๆ

โง่1 ต่อสัญญาเทนฮาค
โง่2 ไปปลดเทคฮาคโดนค่าปลดไปอ่วมอรทัย
โง่3 ไปฉีกสัญญาแดนมา
โง่4 ปลดแดน

นี่ยังไม่ทันพูดถึงซื้อขายนะ เสียค่าโง่ไปร่วมๆ 30 ล้านปอนด์แล้ว

ยังไม่รวมไปเสียค่าฉีกสัญญาซื้อตัวทีมงานพี่เจ๋งและพรรคพวกมาอีกนะ

บอร์ดอเวนเจอร์ ผมหละขรรม ไปๆมาๆจะแย่กว่าบอร์ดเกลเซอร์อีก ทำแต่ละอย่าง

มีอีกข้อ


และงงว่าอินิออส ตอนดึงตัวแดนมา เหมือนนึกจะดึงก็ดึง ไม่สนซีอีโอที่ตัวเองตั้งมาอีก จนสุดท้ายก็เจอการเมืองภายใน ทำงานด้วยกันไม่ได้จนได้

จนแปลกใจว่า นีซที่ผลงานมีลุ้นไปยูซีแอลหนนี้ เพราะอินิออสไม่ลงมาเต็มที่แบบแมนยูรึเปล่า
แล้วถ้านีซได้ไปยูซีแอลฤดูกาลหน้า อินิออสจะจัดการหุ้นตนเองที่ถือยังไงต่อ จะขายให้ใคร

หรือจะเลี่ยงบาลีแบบ แอร์เบ ไลปฺ์ซิก ที่ถึงรู้กันว่าเรดบูลส์เป็นเจ้าของที่แท้จริง แต่ใช้วิธีเลี่ยงบาลีให้ตรงกับกฎ 50+1 คือโควต้าแฟนบอลเป็นคนของเรดบูลส์เอง