Exclusive !! บังโมเปิดปากแล้ว ... ผมกับมาเน่เราแค่เพื่อนร่วมทีม แต่ไม่ใช่เพื่อนในชีวิตจริง
.
โม ซาล่าห์ให้สัมภาษณ์กับฟรานซ์ ฟุตบอล กับหนึ่งในประเด็นที่แฟนบอลสงสัยถึงความสัมพันธ์ของเขากับซาดิโอ มาเน่ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่พากันสร้างความยิ่งใหญ่คว้าแชมป์มาทุกรายการที่ลงแข่ง โดยโมยืนยันว่าเขากับมาเน่ ต่างเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดีต่อกัน แต่ไม่ได้สนิทกันเลยในชีวิตจริง
.
“ใช่ครับ...ผมยอมรับว่าครั้งหนึ่งเคยมีความตึงเครียดระหว่างผมกับซาดิโอ แต่เราทั้งคู่ก็ยังคงทำหน้าที่อย่างมืออาชีพจนถึงวันสุดท้าย และผมไม่คิดว่ามันส่งผลกระทบต่อทีมเลย จริง ๆ แล้ว มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่อยากจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งผมเข้าใจดี เพราะเขาเองก็เป็นนักสู้ที่มีความมุ่งมั่น แม้ว่าเราจะไม่ได้สนิทกันนักนอกสนาม แต่เราก็ให้เกียรติและเคารพกันเสมอ”
.
จากคำพูดของบังโม สอดคล้องกับโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เพื่อนร่วมทีมในแนวรุกของลิเวอร์พูล ที่ได้เปิดเผยในหนังสือ "Si Senor: My Liverpool Years" ว่าความตึงเครียดระหว่างซาลาห์และมาเน่นั้นมีอยู่จริง เขาเล่าว่าทั้งสองไม่ค่อยพูดคุยกันนอกสนาม และมักมีความไม่พอใจซึ่งกันและกันในบางครั้ง ฟีร์มีโน่ยังกล่าวว่าเขามักทำหน้าที่เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างทั้งสอง เพื่อรักษาความสามัคคีในทีม
.
.
แต่ไม่ว่าทั้งคู่จะมีความสัมพันธ์กันแบบไหน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งคู่ คือ สุดยอดนักเตะ และเป็นระดับตำนานที่สร้างความสุขให้กับเหล่าเดอะ ค็อป ได้มากจริงๆ แม้ว่ามาเน่จะย้ายออกไปจากทีมตั้งแต่ปี 2022 แล้วก็ตาม แต่ทุกคนก็ยังคงคิดถึง และรักมาเน่ ไม่เคยเปลี่ยน
.
.
#ต้นทางฟุตบอล

แย่งกันเด่น

เสือสองตัว อยู่ถ้ำเดียวกันยาก

แต่ก็แค่ไม่ได้สนิทกัน

ไม่ได้เกลียดกันแบบ

เชอรริงแฮม กับ โคล หรอก

ไม่เกลียดกันก็พอแล้ว

เรื่องความไม่ลงลอยกัน มีให้เห็นกันเนืองๆในสนาม ซึ่งมาเน่ก็เคยสัมภาษณ์บางครั้งเขาเป็นคนเซ็นซิทีฟ อ่อนไหว

มีหลายครั้งที่คล็อปป์เปลี่ยนมาเน่ออก แต่กลับแทบไม่เคยเปลี่ยนซาล่า มาเน่จึงออกอาการหงุดหงิดปนน้อยใจ ทำไมซาล่าบางครั้งที่หวงบอลบ้ายิงและยิงไม่เข้าแต่ได้อยู่ต่อ แต่คนโดนเปลี่ยนคือเขากับเฟอร์มิโน่

เฟอร์มิโน่เลยบอกพอเหตุการณ์ไม่ลงรอยกันเรื่องเปลี่ยนตัว เวลาคล็อปจะเปลี่ยนตัวเพื่อให้แนวรุกอีกคนลง คนที่โดนถอดจะเป็นเขาเสมอ (ดีที่ไม่ใช่คนขี้น้อยใจ)

ซึ่งผมก็เคยงงคล็อปเรื่องเปลี่ยนตัวเหมือนกัน ว่าทำไมไม่กล้าเปลี่ยนซาล่าออก ถึงรู้ว่าซาล่ามักจะไม่พอใจถ้าโดนเปลี่ยนตัว แต่ด้วยนิสัยคล็อปน่าจะควบคุมนักเตะได้

ก็อยากเด่นทั้งคู่ ก็แค่ไม่สนิทละมั๊ง ว่าแล้วก็คิดถึงอีโน่กะณเดช

คนพวกนี้ ความเป็นมืออาชีพเค้าคือระดับท็อป ๆ จริง ๆ นะ คือแยกเรื่องส่วนตัว ออกจากเรื่องงานได้อย่างเด็ดขาดอย่างน่าเคารพเลย

เคยอ่านเรื่องราวที่ ต๊อตติ กับ เนสต้า ที่ว่าอยากไปเดินเที่ยวเล่น เฮฮาตามประสาเพื่อนเหมือนสหายคู่อื่น ๆ แต่สถานการณ์ตอนนั้นคือ คนนึงกัปตันทีมโรม่า อีกคนกัปตันทีมลาซิโอ้ คือความเข้มข้นของต้นสังกัดทั้งคู่แล้ว มันเป็นไปไม่ได้อย่างแรงเลย

ของมาเน่ กับซาลาห์ ถึงจะทีมเดียวกัน แต่ด้วยสถานะการคับเคี่ยว ชิงความเป็น Ace ของทีมแล้ว หากว่าด้วยหลักของความ Professional แล้ว ยังไงมันก็คือหนึ่งในการแข่งขันอยู่ดี ทั้งสองต่างก็มีบทบาท หน้าที่ ที่ต้องทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเช่นกัน

เมสกับเนย์เคยเป็นแบบนี้บ้างมั้ย

เรื่องปกติอะ เคยมีกรณีที่ออกทีวีด้วยนี่ นัดเจอ เบิร์นลีย์ ปะ ถ้าผมจำไม่ผิด แต่มันเรื่องปกติครับผมว่านะ คือตอนนั้น ซาล่า ไม่ได้ถูกวางเป็นตัวทำประตูจ๋าเหมือนยุค สล๊อต แบบปีนี้ ตอนช่วง คล็อปป์ ผมยังจำได้ทั้ง มาเน่ ซาล่า ก็ต้องวิ่งกลับมาช่วยแบ็คกันทั้งคู่อยู่เลย(ลงมาต่ำกว่าแผนของ สล๊อต) ซึ่งมันต่างจากซีซั่นนี้ ที่เราจะเหน ซาล่า ยืนสูงกว่าเดิม โดยเฉพาะเวลาเจอทีมเล็ก เกมรับก็มีบ้างในเกมใหญ่ๆ หรือ เวลาทีมต้องการปิดเกม เน้นเกมรับ(สังเกตตอนเวลาเอ็นโดลง)

ดังนั้นถ้าทั้งคู่เกิดมีผิดใจกันบ้าง(ในสนาม) ผมว่ามันก็เรื่องปกติ อาจจะกลายเปนดีด้วย เพราะตอนนั้นความสำคัญกับทีมของทั้งสองคนมันพอๆกันในความเห็นผมนะ แล้วถ้ามันเกิดมีกรณีแย่งกันยิงบ้างมันก็ไม่แปลก เพราะต่างฝ่ายก็อยากจะทำผลงานให้ดีที่สุดทั้งคู่ ผมว่าดีซะอีกที่เป็นแบบนี้บ้าง จะได้เกิดการแข่งขันกัน ซึ่งมันก็เป็นผลดีกับทีมโดยรวม เพราะโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะทำประตู และ ชนะคู่แข่งในเกมก็จะสูงขึ้นตาม

สำคัญสุดคือสองคนนี้เขาเป็นมืออาชีพสูง เรื่องในสนามก็จบในสนามครับ มันไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเพื่อนซี้กันเพียงเพราะว่าเล่นในทีมเดียวกันเสมอไปนะ อย่างที่บอกมันก็มีแง่ดีที่เกิดเคสแบบนี้ เพราะมันกระตุ้นทั้ง ซาล่า และ มาเน่ ดีที่ เฟียร์มิโน่ ไม่เอากับเค้าด้วย แกเป็นตัวปั้น เล่น false nine แทน ซึ่งพอเอามารวมๆกันแล้ว มันลงตัวไง 3 ประสานยุคนั้นจิ๊ดมาก ปีกซ้ายขวา แข่งกันทำผลงาน มี false nine คอยปั้นทั้งคู่ ผมว่ามันได้ทั้ง passion และ ผลงาน แต่ย้ำอีกทีว่าต้องมีความเป็นมืออาชีพแบบทั้งสองคนด้วย ไม่งั้นนอกสนามงอนกันตาย อันนี้ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ

นึกถึงมีมนี้เลย

เชื่อว่าบังไม่พูด แฟนบอลหลายๆคนก็พอเดาความสัมพันธ์ออก

แต่ไม่ซีเรียสกันหรอก เพราะผลประโยชน์ตกที่ทีมตอนนั้น

ตอนนั้นเน่มันสนิทกับนาบี้ แลด บังกับลอฟเรน

แต่ตอนนี้บังเค้าขาใหญ่ สนิทไปทั่วจริงๆนะ ชอบสุดคือสนิทกับไอหนูนด้วยภาษาอะไรวะ 5555555

บ็อบบี้บอกผมเป็นนักดับเพลิง เพลิงไฟของทั้งคู่ ผลประโยชน์มันก็ตกที่ แฟนๆแหละ แข่งกันเด่น แข่งกันดัง แต่ในสนามก็คือ มืออาชีพ เคารพทั้งสามเลย สามประสานที่ดีที่สุดของหงส์แดงแล้ว

ลองไปดูคำสัมภาษณ์ของนักบอลอาฟริกาคนอื่น ๆ ได้เลย โดยเฉพาะ นักเตะผิวสี


น้อยคนจะยกย่อง ซาลาฮ์ /ตอนนั้น ถ้าชมในลิเวอร์จะชม มาเน่ ถ้ารวม ๆ ก็จะไปชม นักเตะผิวดำคนอื่น

หัวหอกหลายๆทีมก็เป็นแบบนี้

ผมว่ามันชัดเจนมากๆเลยนะว่าไม่ได้เป็นเพื่อนกัน เพราะลึกๆแล้วต่างคนต่างต้องการเป็นที่ 1 ตัวรุกในทีม แต่ก็ดีที่ความขัดแย้งนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อทั้งทีม เวลาอยู่ในสนามก็มืออาชีพทั้งคู่ มีแค่นัดเจอเบิร์นลีย์ครั้งเดียวที่มาเน่ออกอาการข้างสนามที่ซาลาห์ไม่ส่งบอล