ที่เยอรมันซื้อไม่ได้ครับ ยกเว้น RBL ที่เป็นจุดด่างพร้อย

จขกท เข้าใจแบบผมเป๊ะ ทำงานที่อังกฤษ 38 ครั้ง กับทำงานที่ สเปน 38 ครั้ง

สภาพร่างกายมันโทรมต่างกันเยอะ คนที่บอกวัดที่ UCL จะบ้าหรอ กว่าจะ UCL ร่างกายโดนเผาไปเท่าไรแล้ว

บริษัทที่ดีกว่า อังกฤษ ก็ UCL ไงครับ

บริษัทกลางที่คัด พนักงานหัสกะทิ แต่ละบริษัทมาแข่ง

ใครชนะก็เก่งที่สุด ถึงจะไม่ได้มาจากบริษัทที่ดีที่สุด

เจ้าของกระทู้อยากได้อะไรกับคำถามรึ?

ถ้าอยากได้ คำตอบว่า ลีกไหนอันดับ 1

ก็อังกฤษนั้นหละครับตอนนี้

แต่ทีมที่ดีที่สุดตอนนี้ไม่ได้มาจากอังกฤษแน่ๆ

ลีคที่ดีที่สุด​ กับทีมที่เก่งที่สุด​ มันไม่น่าเกี่ยวกัน​ เพราะแต่ละปีทีมเก่งสุดมันก็เปลี่ยนลีคไปเรื่อย​ แต่นับ​ 20ปีหลัง​ สเปนก็ได้​ ucl แค่​ บาซ่า​ มาดริด​ แต่อังกฤษ​มี แมนซิ​ แมนยู​ ลิเวอร์​ เชลซี เสียดายปืนเก่งไม่พอ​จะได้uclกับเขา

ก็ที่ 1 มาตลอดนะ ในหลายๆด้าน

ลีคอันดับ1 อังกฤษอยู่ละ 100% พวกตอบ ลาลีก้า ก็แค่คิดว่า ทีมที่ดีที่สุด=ลีคดีสุดเท่านั้นละ ไม่ก็อวยสุดลิ่ม แค่นั้นเอง

อังกฤษ 6 ทีม

แต่ช่วง 15 ปีหลัง มาจาก ลิเวอร์พูล เชลซี ซิตี้ 3 ทีม

หรือมากกว่าลาลีกาแค่ 1 ทีมเองนะครับ

การวิเคราะห์ว่าลีกฟุตบอลใดเป็นอันดับหนึ่งของโลกนั้นมีความซับซ้อนและขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่คุณได้ระบุมา ทั้งความสำเร็จของสโมสรในถ้วยยุโรปและความสำเร็จของทีมชาติในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา (นับย้อนไปประมาณปี 1975 จนถึงปัจจุบัน)

เรามาพิจารณาข้อมูลตามเกณฑ์ที่คุณให้มา:

1. สถิติความสำเร็จของสโมสรในถ้วยยุโรป (UEFA Champions League/European Cup และ UEFA Europa League/UEFA Cup)
ในรอบ 50 ปี (ประมาณฤดูกาล 1974/75 - 2023/24):

เมื่อพิจารณาจากจำนวนครั้งที่สโมสรจากลีกต่างๆ คว้าแชมป์รายการใหญ่ของยุโรป:

ลาลีกา (สเปน): เป็นลีกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในภาพรวม

UEFA Champions League (UCL): สโมสรสเปนคว้าแชมป์รายการนี้ได้มากที่สุดในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรอัล มาดริด (หลายสมัย) และ บาร์เซโลนา (หลายสมัย)

UEFA Europa League (UEL): สโมสรสเปนก็ครองความยิ่งใหญ่ในรายการนี้เช่นกัน โดยเฉพาะ เซบีย่า ที่เป็นเจ้าพ่อแห่งรายการนี้ รวมถึง แอตเลติโก มาดริด และ บาเลนเซีย ก็เคยคว้าแชมป์
จำนวนแชมป์รวม (UCL + UEL) ใน 50 ปี: สเปนมีจำนวนถ้วยรางวัลยุโรปมากที่สุดอย่างชัดเจน

พรีเมียร์ลีก (อังกฤษ): เป็นลีกที่มีการแข่งขันสูงและมีหลายทีมที่ประสบความสำเร็จในยุโรป

UCL: ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, แอสตัน วิลล่า และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างเคยคว้าแชมป์ ทำให้มีจำนวนแชมป์ที่สูงและกระจายตัว
UEL: ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, อิปสวิช ทาวน์, เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เคยได้แชมป์รายการนี้
จำนวนแชมป์รวม (UCL + UEL) ใน 50 ปี: อังกฤษตามมาเป็นอันดับต้นๆ และมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทศวรรษหลังๆ

เซเรีย อา (อิตาลี): เคยเป็นลีกที่โดดเด่นมากในยุคหนึ่ง และยังคงมีทีมที่แข็งแกร่ง

UCL: เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน และ ยูเวนตุส ต่างเคยคว้าแชมป์ โดยเฉพาะ เอซี มิลาน ที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ในรายการนี้
UEL: ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน, ปาร์ม่า, นาโปลี และล่าสุด อตาลันต้า ต่างก็เคยคว้าแชมป์ ทำให้มีจำนวนแชมป์รายการนี้สูงมากเช่นกัน
จำนวนแชมป์รวม (UCL + UEL) ใน 50 ปี: อิตาลีอยู่ในกลุ่มหัวแถว มีช่วงเวลาที่รุ่งเรืองสลับกับช่วงที่แผ่วลงไปบ้าง แต่โดยรวมยังคงแข็งแกร่ง

บุนเดสลีกา (เยอรมนี): มี บาเยิร์น มิวนิค เป็นทีมหัวหอกสำคัญ

UCL: บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ได้หลายสมัย และยังมี โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ฮัมบูร์ก ที่เคยได้แชมป์
UEL: โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค, ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, ชาลเก้ 04 และ บาเยิร์น มิวนิค ก็เคยได้แชมป์
จำนวนแชมป์รวม (UCL + UEL) ใน 50 ปี: เยอรมนีมีผลงานที่ดี โดยเฉพาะจากความสม่ำเสมอของ บาเยิร์น มิวนิค

ลีกเอิง (ฝรั่งเศส):

UCL: โอลิมปิก มาร์กเซย เป็นทีมเดียวจากฝรั่งเศสที่เคยคว้าแชมป์ UCL (1993)
UEL: ไม่มีสโมสรจากฝรั่งเศสเคยคว้าแชมป์รายการนี้ (แต่เคยมีทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ)
จำนวนแชมป์รวม (UCL + UEL) ใน 50 ปี: น้อยกว่าลีกอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้นอย่างเห็นได้ชัด
สรุปจากสถิติสโมสรยุโรป:
หากวัดจากจำนวนถ้วยรางวัลยุโรปโดยรวมในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ลาลีกา (สเปน) มีสถิติที่โดดเด่นที่สุด ตามมาด้วย พรีเมียร์ลีก (อังกฤษ) และ เซเรีย อา (อิตาลี) ที่สลับกันอยู่ในอันดับรองลงมา ส่วน บุนเดสลีกา (เยอรมนี) ก็มีผลงานที่แข็งแกร่งสม่ำเสมอ

2. ผลงานความสำเร็จจากทีมชาติ (FIFA World Cup และ UEFA European Championship) ในรอบ 50 ปี:

พิจารณาผลงานของทีมชาติที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ค้าแข้งอยู่ในลีกนั้นๆ (หรือเป็นผลผลิตของระบบเยาวชนในประเทศนั้นๆ) ตั้งแต่ประมาณปี 1975:

เยอรมนี (เชื่อมโยงกับ บุนเดสลีกา):

FIFA World Cup: แชมป์ 2 สมัย (1990, 2014), รองแชมป์ 3 สมัย (1982, 1986, 2002)
UEFA European Championship (Euros): แชมป์ 2 สมัย (1980, 1996), รองแชมป์ 2 สมัย (1992, 2008)
รวม: 4 แชมป์ใหญ่, 5 รองแชมป์ใหญ่ (ไม่นับแชมป์โลก 1974 เพราะอยู่นอกกรอบ 50 ปีเล็กน้อย และยูโร 1972)


อิตาลี (เชื่อมโยงกับ เซเรีย อา):

FIFA World Cup: แชมป์ 2 สมัย (1982, 2006), รองแชมป์ 1 สมัย (1994)
UEFA European Championship (Euros): แชมป์ 1 สมัย (2020), รองแชมป์ 2 สมัย (2000, 2012)
รวม: 3 แชมป์ใหญ่, 3 รองแชมป์ใหญ่


สเปน (เชื่อมโยงกับ ลาลีกา):

FIFA World Cup: แชมป์ 1 สมัย (2010)
UEFA European Championship (Euros): แชมป์ 2 สมัย (2008, 2012), รองแชมป์ 1 สมัย (1984)
รวม: 3 แชมป์ใหญ่, 1 รองแชมป์ใหญ่ (ยุคทอง 2008-2012 โดดเด่นมาก)


ฝรั่งเศส (เชื่อมโยงกับ ลีกเอิง และผู้เล่นที่กระจายไปลีกอื่น):

FIFA World Cup: แชมป์ 2 สมัย (1998, 2018), รองแชมป์ 2 สมัย (2006, 2022)
UEFA European Championship (Euros): แชมป์ 2 สมัย (1984, 2000), รองแชมป์ 1 สมัย (2016)
รวม: 4 แชมป์ใหญ่, 3 รองแชมป์ใหญ่


อังกฤษ (เชื่อมโยงกับ พรีเมียร์ลีก):

FIFA World Cup: ผลงานดีที่สุดคืออันดับ 4 (1990, 2018)
UEFA European Championship (Euros): รองแชมป์ 1 สมัย (2020), อันดับ 3 (1996)
รวม: ยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการใหญ่ในช่วง 50 ปีนี้ แต่มีผลงานที่ดีขึ้นในระยะหลัง
สรุปจากผลงานทีมชาติ:เยอรมนี และ ฝรั่งเศส มีผลงานที่โดดเด่นที่สุดในแง่ของจำนวนแชมป์รายการใหญ่ ตามมาด้วย อิตาลี และ สเปน ซึ่งแต่ละชาติก็มีช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของตัวเอง ส่วน อังกฤษ แม้ลีกจะแข็งแกร่ง แต่ผลงานทีมชาติยังไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่ได้

การวิเคราะห์และข้อสรุป:

ถ้าเน้นความสำเร็จของสโมสรในถ้วยยุโรป: ลาลีกา (สเปน) คือลีกอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ด้วยจำนวนแชมป์ UCL และ UEL ที่ทิ้งห่างลีกอื่น
ถ้าเน้นความสำเร็จของทีมชาติ: เยอรมนี และ ฝรั่งเศส มีสถิติที่ยอดเยี่ยมที่สุด ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพของผู้เล่นและระบบการพัฒนาเยาวชนในประเทศเหล่านั้น แม้ว่าผู้เล่นฝรั่งเศสจะกระจายตัวไปเล่นในลีกชั้นนำอื่นๆ จำนวนมากก็ตาม

ความแข็งแกร่งและความนิยมโดยรวม: พรีเมียร์ลีก (อังกฤษ) มักถูกยกให้เป็นลีกที่มีการแข่งขันสูงที่สุด ดึงดูดผู้เล่นระดับโลกได้มากที่สุด และมีมูลค่าทางการตลาดสูงที่สุดทั่วโลก ซึ่งทำให้มีทีมที่แข็งแกร่งหลายทีมสามารถท้าทายแชมป์ยุโรปได้ แม้ว่าจำนวนถ้วยรวมอาจจะยังตามหลังลาลีกาอยู่บ้าง

เซเรีย อา (อิตาลี) เคยมีช่วงเวลาที่ถูกยกย่องว่าเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลก (ช่วงทศวรรษ 1980s-1990s) และยังคงเป็นลีกที่มีคุณภาพสูงและมีประวัติศาสตร์ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ

ดังนั้น หากจะให้สรุปโดยอิงจากเกณฑ์ที่คุณให้มา:

ด้านความสำเร็จของสโมสรในยุโรป: ลาลีกา (สเปน) คืออันดับ 1
ด้านความสำเร็จของทีมชาติ: เยอรมนี และ ฝรั่งเศส มีความโดดเด่นสูสีกัน
การจะตัดสินว่าลีกใดคือ "อันดับหนึ่งของโลก" อย่างแท้จริงนั้นขึ้นอยู่กับว่าเราให้น้ำหนักกับปัจจัยใดมากกว่ากัน แต่จากสถิติที่คุณต้องการ ลาลีกาของสเปนมีความโดดเด่นในด้านความสำเร็จระดับสโมสรยุโรป ขณะที่ทีมชาติเยอรมนีและฝรั่งเศสแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในระดับนานาชาติที่สอดคล้องกับคุณภาพลีกของตน (หรือการผลิตผู้เล่นของตน) ได้อย่างชัดเจนครับ.

มันเปลี่ยนทุกปี ต้องนับเป็นปี เป็นช่วง เป็น3ปี เป็น10ปีก็ว่าไป

องค์ประกอบหลายอย่างรวมกันก็นับว่าใช่แหละ
ucl 25 ปีหลังสุด ทีมจากอังกฤษก็เข้าชิงตั้ง12ครั้ง

แทบจะครึ่งๆ

แต่ก็นั้นแหละทีมที่ดีที่สุดก็น่าจะสองทีมใหญ่จากสเปน

ผมว่าใช่(ปัจจุบัน)สมมตินะ เอาทีมจากลีกใหญ่ที่อันดับเท่ากันมาเจอกัน ก็เห็นจะขี่ลีกอื่นอยู่หน่อยๆ