รูเบน อโมริม บอสใหญ่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่า กัวลใจกลัวแอธเลติก บิลเบา จะยิงได้ 3 ประตูที่โอลด์ แทรฟอร์ด เนื่องจากบางครั้งทีมของเขาก็เสียสติ พร้อมยืนกรานว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทีมของเขาซีซั่นนี้อาจแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก แม้สุดท้ายจะคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกมาครองได้ก็ตาม


ทัพปิศาจแดง ยังอยู่บนเส้นทางคว้าแชมป์ เมื่อเตรียมทำศึกยูโรป้า ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง กับบิลเบา ในคืนวันพฤหัสบดี ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังจากที่ทีมของเขานำขาด 3-0 จากเกมนัดแรกที่สเปนเมื่อสัปดาห์ก่อน

หลังจากเคยเห็น ลียง ตามตีเสมอได้จากการตามหลัง 2 ลูกเป็นนำ 4-2 ในรอบก่อนรองฯ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในรอบก่อนหน้านี้ อโมริม ยอมรับว่า ทีมของเขาจะวางใจกับสกอร์ที่ได้เปรียบอยู่ 3 ประตูไม่ได้เลย

“ถ้าคุณดูทีมเรา คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น” อโมริมกล่าว โดยทีมของเขาเพิ่งเสียถึง 4 ประตูในเกมกับเบรนท์ฟอร์ดเมื่อวันอาทิตย์

“บางทีมเจอเรื่องราวแลลนี้และพวกเขาควบคุมได้ แต่เราไม่ใช่แบบนั้น”

“ผมรู้สึกว่าเราต้องการประตูเพื่อผ่านเข้ารอบ จากนั้นลองดูเกมกับเบรนท์ฟอร์ด เราเกือบเสมอได้ แต่กลับเสียประตูแล้วก็เสียอีกประตู”

“เราต้องเจอกับความลำบากเพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และเราพร้อมจะเจอกับมัน บางครั้งในเกมเราก็เป็นทีมที่ดี แล้วจู่ๆ ก็เสียสติไป”

“ถ้าคุณมองไปที่ฤดูกาลนี้ของเรา อะไรก็เกิดขึ้นได้ เราต้องเข้าใจว่าแค่ประตูเดียวอาจเปลี่ยนทุกอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะของเกม หรือการโดนไล่ออก คุณเห็นมันมาแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรากำลังสู้เพื่อชนะเกมนี้ และเราคิดถึงแค่การชนะเท่านั้น”

ยูไนเต็ดแพ้ในลีกเป็นนัดที่ 16 ของฤดูกาลในเกมที่เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งถือว่าเป็นสถิติแย่ที่สุดในรอบ 35 ปี อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมีโอกาสไปเล่นยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก หากคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกได้

“สำหรับผม ตอนนี้ถ้ามองแค่ผลงานในพรีเมียร์ลีก เราเป็นทีมที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ผมเข้ามาคุมทีม นั่นคือความรู้สึกของผม และถึงแม้ในตอนจบฤดูกาล เราอาจเป็นทีมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ได้แชมป์ยุโรป”

“แต่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ฤดูกาลนี้น่าผิดหวัง”

“ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เมื่อถึงตอนนั้น (คว้าแชมป์) ผมก็คงมีคิดบ้าง แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็จะยังรู้สึกอย่างนั้น และตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่า นี่คือฤดูกาลที่แย่ที่สุดในรอบ 50 ปี”

เอาแชมป์ยูโรป้ามาให้ได้ก่อน ที่เหลือค่อยมาว่ากัน

ต้องได้แชมป์แล้วหละ ไม่งั้นหงอยแย่เลย

In Amorim We Trust

กับทีมชุดนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทั้งดีและร้าย

แม่มอาจจะกล้าๆแพ้คาบ้าน 0-4 จนตกรอบไปแบบ wtf ก็ได้

เวลาบุกหรือสวนกลับรู้สึกตัวผู้เล่นมันน้อยๆกว่าชาวบ้านเขาตลอด

แฟนบอลก็กังวลใจเหมือนกันพี่เจ๋งเอ้ย หนักด้วย

กว่าจะบุกเข้าเขตโทษเค้าได้ พอมีจังหวะยิง ไม่ยิงวืดก็ยิงออกไปแบบน่าเขกกะโหลก

แต่จังหวะจะเสีย ก็เสียโคตรง่ายแบบไม่ต้องอาศัยเหตุผลใดๆ

เอาหน่อยพี่ อีก 2 นัดทอนั้น คูบา

ต่อให้นำ3ลูก แต่เมื่อไรที่โดนลูกตีไข่แตก1-0หลังจากนั้นจะโดนตามรัวๆตลอด เท่าที่เห็นมาเหมือนเสียสมาธิกันบ่อยมาก เกมนี้และหลังจากนี้สำคัญต้องมีสติโดนแล้วไม่เป็นไรอย่าโดนต่อพอ ยังไงก็เข้าชิง99%ละ อีก1%อยู่ที่นักเตะว่าจะนิ่งและมีสมาธิแค่ไหน

นัดที่แล้วแฟนบอลบางส่วนรวมถึงผม ถึงมองว่า ครึ่งหลังเราควรบดเอาประตูอีกหน่อย
ไม่ได้บอกว่าการ play safe ผิด (เข้าใจมุมอาจโดนสวนตีไข่แตก หรือเสี่ยงผู้เล่นเจ็บ)

แต่ moment นั้น ตัวผู้เล่นเหลือมากกว่า / อีกฝั่งก็หลุดฟอร์ม สมาธิอีกฝั่งก็เสีย น่าจะฉวยโอกาสนี้จริงๆ
เกมถัดมาก็แสดงให้เห็นว่าโดนนำ 4-1 ได้เลย ทั้งๆ ที่เราตัวเท่ากันด้วยซ้ำ

เอาหน่ะ แต่นำขนาดนี้ แถมผู้เล่นหลักบิลเบาเจ็บขนาดนี้ หวังว่าจะไม่พลาด
ถ้าไม่ได้เข้าชิงอีก ทั้งที่เป็นต่อขนาดนี้ ก็คงหมดคำบรรยาย

ถ้าแพ้ ก็พอเหอะ ปีหน้าก็ไม่น่าจะรอด

ถ้ามันแพ้เกิน 3 ลูกในบ้านก็ไม่สมควรไปชิงอะ เค้าขาดตัวหลักเพียบ

ก็จัดชุดใหญ่ใส่ให้สุดให้หมดหลอดไปเลย แล้วค่อยซื้อเกมรับช่วงท้ายเกมเอาก็ได้นะ

ก็จริง แต่ได้ไป ชปล คือ มีเงินซื้อนักเตะเนี่ย