Expedition 33 เป็นเกมที่รีวิวดีที่สุดใน Metaclitic
ReneBaeBae พิมพ์ว่า:
Ethan Winters พิมพ์ว่า:
เกมดีจริงๆ
และที่สำคัญ ทีมพัฒนา EX33 เหมือนลาก ผู้สร้างไฟนอล16 ออกมาตบกลางไฟแดง แล้วกระทืบซ้ำๆ
ที่บอกว่า เกมแนวเทิร์นเบส มันตกยุคแล้ว ไม่เหมาะกับยุคนี้
แต่เอาจริงๆ หลังๆค่ายเหลี่ยมทำเกมไม่มีแนวคิดใหม่ๆเลย อาจจะรอวันล่ม
ขออนุญาติโควทแล้วก็เสียบถามท่านอื่นๆตรงนี้ด้วยว่าเกมนี้ประมาณไหนครับ
ผมไมไ่ด้ดูแคสดูรีวิวอะไรมาหรอก เห็นแต่ใน SS นี่ล่ะ
เกมที่จั่วมาล่าสุดว่าเทิร์นเบสแล้วผมเล่นไม่รอดล่าสุดคือ BG3
ผมเล่นแล้วผมเก็ทว่าเกมมันดียังไง ทำไมคนถึงชม แต่ผมเล่นแล้วไม่รอดแบบเหนื่อยล้ายากเกินไป
เกมนี้ก็เห็นคีย์เวิร์ดว่าเป็นเกมเทิร์นเบสเหมือนกัน เลยอยากรู้ว่าประมาณไหนถ้าเทียบกันอะครับ
ไปเจอจ่าพิชิตรีวิวมาเมื่อกี้พอดี
----
รีวิว clar obscur expedition 33 หลังเล่นเคลียร์จบหมดแล้ว
แทบจะไร้ที่ติ
ไม่น่าเชื่อว่าเป็นเกมจากสตูดิโอที่ดึงตัวบุคลากรที่แทบทุกคนเป็นมือใหม่ในวงการเกมทั้งหมดเลย (ยกเว้นผู้บริหารสี่คนที่ลาออกจาก ubisoft) แต่ผลงานที่ออกมา กลับงดงาม เพลิดเพลิน อย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังราคาน่าคบหา ไม่เหมือนพวกเกม AAAA จากสตูดิโอยักษ์ใหญ่ที่ราคาแสนห้าคุณภาพแสนเหี้ย
แต่เกมนี้เหมือนซื้อร้อยได้ล้านยังไงยังงั้น
ตัวเกมเป็นระบบ turn base rpg ที่หลายๆบริษัทไม่ค่อยอยากทำเกมแนวนี้มาขาย เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไป สมัยก่อนเวลาเล่นเกมแนว turn base rpg ตอนเด็กๆเราก็เล่นกันสนุกดี แต่พอมาเล่นตอนนี้มันรู้สึกว่าทุกอย่างมันช้าไปหมด ไม่ทันใจ แต่ไม่ใช่สำหรับเกมนี้
เพราะเกมใช้ระบบ turn base เป็นหลัก แต่มีการใส่องค์ประกอบของเกมแนวแอคชั่น มีทั้ง parry โยกหลบ กระโดดหลบ หลบท่าไม้ตาย บลาๆเข้ามาอื้อซ่า แบบที่ว่า ไม่สามารถเสียสมาธิจากหน้าจอได้แม้แต่วินาที พลาดหลุดมึงตุยแน่ ฟังดูแปลก แต่เป็น rpg ที่เล่นแล้วได้ฟีลแบบ sekiro มึงตีมา เอ้ากู parry! parry! parry!!!!!!!
ในส่วนเนื้อเรื่องนั้น ผู้พัฒนาเกมค่อยๆเล่าเรื่องให้เรารู้เรื่องราวของโลกในเกม และค่อยๆผูกพันกับตัวละครในเกมได้อย่างน่าประทับใจ และยังใส่จังหวะให้อ้าปากค้างเอาไว้ในตอนจบของทุก act คือมึงเล่นแบบนี้เลยเหรอเพร่!!! แต่ในเกมจะมีการใส่มุขหยอดๆไว้ตามเนื้อเรื่องให้เราได้ขำเป็นพักๆ ไม่ให้เรื่องแม่งเครียดเกินไป เพราะเส้นเรื่องหลักแม่งเครียดฉิบหายเลย แต่พวกไซด์เควสแม่งบ้าบอคอแตกฉิบหายเลย และมุขในเรื่อง แม้ตัวละครจะโคตรรรฝรั่ง แต่มุขแม่งห้าบาทสิบบาท ตามสไตล์ Jrpg เด๊ะ สมแล้วที่ CEO และผู้พัฒนาแต่ละคน ระบุในเว็บเขาว่า เกมในดวงใจส่วนมากเป็น jrpg กันทั้งนั้น
บอส และตัวร้ายของเกมนี้ถูกออกแบบมาอย่างน่าทึ่ง ฉากเปิดที่เท่ห์แบบวัวตายควายล้ม เท่ห์จนต้องร้องขอชีวิต และการค่อยๆเผยปริศนาของตัวร้าย ที่นำไปสู่ฉากสู้บอสที่ แม่งเอ๊ย เท่ห์เหี้ยๆ ไม่ได้สู้บอสที่แม่งมีเฟสสองเท่ห์สัสหมาแบบนี้มานานขนาดไหนแล้ววะ แบบต้องลองเล่นเองครับ แล้วจะได้เห็นฉากที่ตัวร้ายเข้าเฟสสอง สิงโตสายฟ้าตัวมหึมาเดินมาเข้าฉากอย่างน่าเกรงขาม พร้อมทั้งเพลงประกอบสุดอลังดังขึ้นมาพร้อมกัน แม่งน่าตื่นตะลึงขนาดไหน
และบอสหลักแทบทุกตัวในเกม ให้ประสบการณ์การสู้ที่น่าประทับใจทั้งหมด มีฉากที่ทำให้คนเล่นอ้าปากค้าง ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะฉากสู้กับจิตรกรหญิง แล้วนางใช้ร่างยักษ์เปิดรอยแยกของมิติ ด้วยการเอามือจับผืนฟ้าแล้วแยกฟ้าออกจากกันแบบโต้งๆ และเสกอุกกาบาตออกจากรอยแยกของมิติมาโหม่งใส่หัวเรานี่ ตอนเจอครั้งแรก แทบหลบไม่ทัน เพราะท่ามันสวยจริงๆ
เพลงประกอบของเกมนี้ คือแม่งสุดยอดทุกเพลง และมาแทบทุก genre เลย ทำได้ไงวะ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือผลงานจากนักดนตรีสมัครเล่น ที่ CEO ไปเจอโดยบังเอิญ เพราะพี่แกอัพผลงานลง soundcloud แล้ว CEO ฟังแล้ว เออว่ะ คนนี้เจ๋ง ชวนมาทำเกมด้วยกัน แค่นั้นเอง และเพลงของเกมนี้นอกจากจะมีทำนองที่โคตรมันส์ ยังใส่เนื้อเพลงที่เหมือนบอกเล่าเรื่องราวของเกมไว้กลายๆ ถ้าฟังภาษาฝรั่งเศสออก คนเล่นน่าจะ เอ๊ะ ว่าทำไมเพลงตอนสู้บอสมันถึงพูดเรื่องนี้วะ (แต่กูฟังม่ายยยออก มาไล่ดูคลิป lyric หลังเล่นจบไปแล้ว)
สรุป จบที่ 40 ชั่วโมง เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ น่าตื่นตะลึง และดื่มด่ำกับทุกวินาทีที่เล่นเกมนี้อย่างเต็มอิ่ม
และโดยส่วนตัวแม้จะชอบ MH wild มากๆ แต่ในแง่คุณค่าของเกม
clair obscur expedition 33 เหนือกว่า และคู่ควรเป็น GOTY ประจำปีนี้ ด้วยประการทั้งปวง
นี่คือเกมที่พัฒนามาด้วย passion ที่ล้นทะลักออกมาจากหน้าจอและคนเล่นสัมผัสได้เลยว่า ทุกอย่างถูกสร้างมาด้วยความปราณีต จากคนที่รักการทำเกมจริงๆ ไม่ใช่เกมจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ copy paste เกมเดิมของตัวเองมาขายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แค่เปลี่ยน skin แล้วตั้งราคาแพงแบบหูฉี่