Loyalty ไม่เคยมีอยู่จริงบนโต๊ะเจรจา

1 กค 2015 วันที่เดอะ ค็อปควรปักหมุดไว้
นั่นคือครั้งล่าสุดที่ลิเวอร์พูลซื้อแบ๊คขวาเพื่อทีมชุดใหญ่ เนธาเนี่ยล ไคลน์ ค่าตัว 12.5 ล้านปอนด์ ณ เวลานั้น ลิเวอร์พูลมีนักเตะจากเซาแธมป์ตันมากกว่าสัดส่วนผู้เล่นจากสโมสรอื่น

20 ตค 2016 เกมแรกของเทร็นท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์กับทีมชุดใหญ่ (ลีก คัพ รอบ 4 ชนะสเปอร์ส 2-1)
ลิเวอร์พูลขยับเรื่องแบ๊คขวาแค่ครั้งเดียว 4.2 ล้านปอนด์ คัลวิน แรมซี่ย์จากอเบอร์ดีน เพราะผลงานของเทร็นท์

ช่วงเวลาเดียวกัน แมนฯ ซิตี้ซื้อแบ๊คขวา 105 ล้านปอนด์ ไคล์ วอล์คเกอร์และชูวาว กานเซโล่ ซึ่งขายได้ 21 ล้านปอนด์ และปัจจุบัน แมนฯ ซิตี้ใช้มาเตยุส นูเนซ มิดฟิลด์ค่าตัว 53 ล้านปอนด์ตรงนั้น
แมนฯ ยูฯ ซื้อ แอร่อน วาน บิสซาก้า มัตเตโอ ดาร์เมี่ยนและดีโอโก้ ดาโล่ต์ ค่าตัวรวมกัน 81 ล้านปอนด์ แน่นอน ผลงานไม่ได้ครึ่งของเทร็นท์

อายุ 23 ปี 219 วันเทร็นท์คือนักฟุตบอลอังกฤษอายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์ครบทุกรายการ พรีเมียร์ ลีก UCL ซูเปอร์ คัพ คลับ เวิร์ลด์ คัพ ลีก คัพและเอฟเอ คัพ
เด็กลิเวอร์พูล สเกาเซอร์ ควรอยู่เพื่อเป็นสัญลักษณ์และความภูมิใจของทีมตลอดไป
แถมเทร็นท์เคยประกาศไว้ด้วย “ความฝันของผมคือเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูล”

สโมสรไม่เคยพูดเรื่อง Loyalty เวลาตกลงธุรกิจ Best interest for the club เพื่อประโยชน์สูงสุดของสโมสรเท่านั้นคือสิ่งที่หยิบมาพูดกัน

เจมี่ คาร์ราเกอร์ ปฏิเสธข้อเสนอจากลิเวอร์พูลเพราะรู้สึกว่า มันไม่ใช่สิ่งที่เขาหรือสโมสรอยากได้ แต่ตัดสินใจเลิกค้าแข้งที่ลิเวอร์พูล เจมี่พูดตลอดว่า “เพราะผมไม่เคยได้รับข้อเสนอจากมาดริด อินเตอร์หรือบาเยิร์น”
เขาไม่เคยโดนท้าทายความรู้สึกจากสโมสรที่อยู่ส่วนบนสุดของพีรามิดฟิลด์อาชีพในปัจจุบัน

สำหรับแฟนทุกทีม สโมสรตัวเองมักยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ความเป็นจริงเรารู้กันอยู่ เมื่อ 2 ทีมดังจากสเปนขยับตัวแทบไม่มีใครปฏิเสธ

ความจงรักภักดีที่สตีเว่น เจอร์ราร์ดมอบให้ลิเวอร์พูล 27 ปี ไม่ได้รับการตอบแทนเหมือนกันเมื่อพูดเรื่องธุรกิจ เอียน แอร์ CEO ตอนนั้น แจ้งกัปตันสโมสรว่า เขามีเวลา 15 นาทีเพื่อเจรจาสัญญาฉบับใหม่
เจอร์ราร์ดทราบทันทีว่า การปฏิเสธเชลซี มาดริดและบาเยิร์น มิวนิค ไม่เคยเป็นเครดิตบนโต๊ะเจรจา

แฟนทุกสโมสรอยากเห็นเด็กท้องถิ่นเติบโต ประสบความสำเร็จ เป็นกัปตันทีม จนถึงการแขวนรองเท้ากับสโมสรนั้น ทีมเล็กหน่อยก็ทำใจได้ว่า สักวัน เดี๋ยวนักเตะเด่นก็ต้องย้าย ทีมใหญ่ๆ ก็ทำใจยากหน่อยเวลานักเตะคนโปรดจะย้าย

นับจากก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 1892 มีนักเตะทั้งหมด 832 คนเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของสโมสร 158 คนเป็นสเกาเซอร์ หลายคนแขวนรองเท้ากับสโมสร หลายคนย้ายไปที่อื่น

แฟนบอลไม่แฮ็ปปี้เมื่อไมเคิ่ล โอเว่นตัดสินใจย้ายไปมาดริด แม้เขาจะไม่ใช่สเกาเซอร์ แต่ถือเป็นเด็กปั้น ควรอยู่กับสโมสรไปจนเลิกเล่นฟุตบอล แต่แฟนบอลรับได้เมื่อร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ผู้เป็นเทพเจ้าต้องย้ายทีม นั่นเพราะสโมสรบีบให้ย้าย

เจมี่ คาร์ราเกอร์ พูดถึงการย้ายของเทร็นท์ หลังนักเตะยืนยันการตัดสินใจเมื่อ 5 พค เจมี่ กล่าวว่า
“ผมอยากเห็นเด็กลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จกับมาดริด ส่วนหนึ่งของใจผม ขอบคุณเขากับผลงานที่ดีมาก แต่อีกด้านของใจคิดว่า การเลือกเปลี่ยนเสื้อสีแดงของลิเวอร์พูลเป็นสีขาวของมาดริด เท่ากับเทร็นท์ตัดสินใจเป็นคู่แข่งกับสโมสร นั่นหมายความว่า ครั้งต่อไปที่เขาเหยีบบสนามแอนฟิลด์ เขาจะได้รับการต้อนรับเช่นเดียวกับลุยซ์ ซัวเรซที่มาในชุดของบาร์เซโลน่า”

คาร์ราเกอร์พูดถูก ไม่ต้องมีใครมาคอยสอนให้แฟนลิเวอร์พูลหรือชาวลิเวอร์พูล รู้สึกหรือรีแอ๊คอย่างไรกับการตัดสินใจของเทร็นท์ ทุกคนมีสิทธิ์คิดและรู้สึก

อวยชัย ให้พร โกรธ เกลียด นั่นคือสิ่งที่เทร็นท์ตระหนักอยู่แล้วว่าต้องเจอ เพราะเขาตัดสินใจเลือกสิ่งดีที่สุดสำหรับตัวเอง มันชอบธรรมกับเทร็นท์ มันก็ชอบธรรมสำหรับแฟนบอลเหมือนกัน

แต่อย่าลืมว่า แฟนปัจจุบันมีเวอร์จิล ฟาน ไดค์ โม ซาลาห์ อลิซง เบ๊คเกอร์ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ วาตารุ เอ็นโดและอีกหลายคนเป็นฮีโร่ เขาเหล่านั้นไม่ได้เกิดและเติบโตเพราะลิเวอร์พูล

วันนี้ เรารักและชื่นชมคอนเนอร์ แบรดลี่ย์ แต่สักวันหนึ่ง ถ้าแบรดลี่ย์ผลงานดีระดับเทร็นท์ แล้วมีสัญญาณเรียกจากยานแม่ หลายคนคงจะเกลียดเขาเหมือนที่รู้สึกกับเทร็นท์แบบทุกวันนี้

เราเคยบอก เรอัล โซเซียดั่ดให้ทำใจเรื่องชาบี อลอนโซ่ หรือมาร์ติน ซูบีเมนดี้ เราก็ต้องบอกตัวเองแบบนั้นเหมือนกันกรณีเทร็นท์ หรือใครก็ตามในอนาคตที่เราอยากให้อยู่ แต่เขาไม่เลือกเรา

สุดท้ายลิเวอร์พูลต้องหาแบ๊คขวาเพิ่ม หรือไม่ก็นักเตะสารพัดประโยชน์ เล่นได้หลายตำแหน่ง หากคิดว่า ตำแหน่งอื่นๆ จำเป็นกว่า

นี่คือสัจจธรรมของฟุตบอลอาชีพ
เทร็นท์คือเทร็นท์ เขาเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง สำหรับผม เทร็นท์ไม่ใช่ Best interest สำหรับลิเวอร์พูลและผมอีกต่อไป

กิตติกร อุดมผล

ผลงานของเทร็นท์กับลิเวอร์พูล
352 นัด ตัวจริง 318 นัด 23 ประตู 86 แอสซิสท์ (ทุกรายการ)
สร้างโอกาส 514 ครั้ง (เดอ บรอยน์ 715 โม 525 ) นับเฉพาะพรีเมียร์ ลีก นับจากเทร็นท์ลงเล่น

Cr.เพจ caption12

สำหรับผม เทร็นท์ไม่ใช่ Best interest สำหรับลิเวอร์พูลและผมอีกต่อไป
รู้สึกประมาณนี้เลย คล้ายๆกัน กลายเป็นว่าเริ่มเฉยชาไม่อยากเชียร์ต่อ
พยายามเข้านะ แบคขวามาดริด

ก็จริงครับ มูฟออน แล้วไปหาแบ็คขวาใหม่ได้แล้ว ส่วนเรื่องความดีของนักเตะที่รักและอยู่กับทีม ถึงCEOไม่คิดถึง แต่แฟนบอลก็ไม่เคยลืมครับ

มองในมุม "นักเตะ" มันคือ "อาชีพ" ทำมาหากินของเค้า


มองในมุม "สโมสร" มันคือ "ธุรกิจ" กำไรและขาดทุน


มองในมุม "แฟนบอล" มันคือ "อารมณ์" "ความภัคดี" "จินตนาการ"

ข้อดีของเทรนคือเกมรุกเปิดบอลแม่น

แต่ข้อเสียคือเกมรับ ไม่ไล่บอล ให้เฮนโด้ โกนาเต้ โซโบ support ตลอด เล่นบอลติดแอ็ค

ให้เทรนไปแอ๊คกับจู๊ดที่มาดริดเถอะ

อยู่ลิเวอร์ เราก็เชียร์

ไปทีมอื่นก็ให้กำลังใจ อย่าให้เหมือนคูตินโญ่ ให้เหมือนซัวเรซ

เจอกันขอให้แพ้

ผมฝันเห็นภาพเทรนต์เป็นกัปตันหงส์ เป็นสเกาเซอร์ที่ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก เป็นไอดอลของเด็กในอคาเดมี่

เป็นความฝันที่ไม่เป็นจริง

เอาจริงคือเซ็งที่ย้ายฟรีเนี่ย ถ้าทำเหมือนตอนซัวเรสจะโอเคมากเลย
เซ็นขยาย 2 ปี มี release cause เจาะจงสำหรับมาดริดเลยก็ได้
ว่าถ้ามาดริดยื่นมาจำนวนถึงก็ฉีกสัญญาได้ แต่นี่สุดท้ายไม่ได้อะไรเลย

ว่าไปสถิติมันโหดจัดเลยนะสำหรับกองหลัง เพราะมันต้องรับด้วย

ในมุมผม มันแค่ “เสียดาย” (แต่ไม่เสียใจ) ที่เราต้องปล่อยนักเตะคนนึงที่โตมากับทีมจากเยาวชนจนประสบความสำเร็จ และเคยขึ้นชื่อเป็นแบ็คขวาเบอร์ต้นๆของโลก

นานๆทีจะผลผลิตจากลิเวอร์พูลที่สร้างมาเองกับมือได้เก่งขนาดนี้
คนล่าสุดคงเป็นเจอร์ราดที่ขึ้นมาอันดับต้นๆของโลกจากผลผลิตทีม

และหวังว่าในอนาคตจะมีคนที่ลิเวอร์พูลปั้นขึ้นมาได้อีก

ขอบคุณมากไอน้อง YNWA66

คนเดียวสำหรับผมที่เสียใจสุดตั้งแต่เชียร์หงส์มาคือ Steven Gerrard ที่ไม่สามารถปิดฉากการค้าแข้งกับลิเวอร์พูลได้

ส่วนเรื่องคำพูด TAA สำหรับผม คำพูด และความรู้สึกคนเรามันเปลี่ยนได้เสมอ จึงไม่ติดอะไรกับคำพูดน้องมัน

จากที่เสียโอเว่นไป ผมก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรจีรังตลอดไปหรอก

ฉะนั้นชิลล์มากๆๆๆ เคสนี้

บทความเขียนดีน่ะ มันเป็นอาชีพของเขา
เมื่อจุดสูงสุดของวงการเรียกหา และท้าทาย จะมีสักกี่คนที่ปฏิเสธ

และแน่นอนต่อให้คุณจงรักภักดี ปฏิเสธไป เหมือนที่เจอร์ราดทำมาตลอด

แต่ทีมของคุณ ไม่ได้เห็นความดีนั้นหรอก ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ล้วน ๆ

ดังนั้น ทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดนั้นแหละดีแล้ว

เทรนมันคงคิดว่าไปกวาดรางวัลกับทีมอื่น ลีคอื่น เพื่อให้กลายเป็นตำนานมากกว่านี้ดีกว่า

เพราะถ้าทำแบบนั้นมาดริดไม่เอาแน่นอนครับ ตัวนักเตะเลยต้องยอมตามเงื่อนไขทางนั้น
ผมละเป็นห่วงน้องมันเรื่องนี้เรื่องเดียวเล่นไม่ออกโดนหนักแน่ เพราะเค้าไม่ได้อยากได้อะไรขนาดนั้นแบบทุ่มซื้อมาเพื่อเป็นตัวหลักเหมือนเคส ซัวเรส จู้ด อาซาตอนมาดริด พวกนั้นต่อให้เสียเงินก้อจะซื้อเหมือนเห็นเป็นคนสำคัญ

แต่ช่างมันตอนนี้ไม่ยินดียินร้ายละ

จะโดนอะไรก็เรื่องของมันเถอะครับ มันเลือกแล้วถ้าเจออะไรก็แค่ต้องรับให้ได้ก็พอ

ว่าตามตรงมาดริดเวลามาเอาตัวหลักลิเวอร์พูลนี่ผมไม่ค่อยชอบใจเพราะไม่เคยทุ่มให้เยอะๆเลยด้วยซ้ำ แม็คมานามานไปฟรี โอเว่นเศษเงิน8ล้าน อลอนโซ่ได้30ล้านเหมือนจะแพงแต่พอดูตัวอื่นที่มาดริดจ่ายในเวลานั้น โรนัลโด้80ล้าน กาก้า50กว่าล้านเหมือนเศษเงินเหลือมาเอาตัวหลักอ่ะ

ผมชอบคำนี้นะ ความซื่อสัตย์ต่อสโมสรไม่ได้มีค่าในการต่อรองสัญญา สำหรับนักฟุตบอลที่เล่นบอลเป็นอาชีพ ทุกคนก็อยากไปอยู่ทีมที่ใหญ่กว่าที่ตัวเองเคยอยู่ อยากไปสัมผัสกับนักเตะระดับทอปของโลก แต่มันก็มีนักเตะบางคนที่ภักดีกับทีมตลอดและอยู่จนแขวนสตั้ท ซึ่งรางวัลที่ได้รับคือการยกย่องจากแฟนบอลตลอดไป

ดู Hot Strove League แล้วเข้าใจมุมสโมสรเลย เวลาเจรจามันเป็นเรื่องเงินๆทองอย่างเดียว ไม่มีความซื่อสัตย์มาช่วยผู้เล่น เข้าใจเทรนท์แต่เห็นใจแฟนบอล อีกอย่างลิเวอร์พูลยุค fsg ต่อรองยาก กว่าโมกับไดค์จะได้สัญญาดีๆ เลือดตาแทบกระเด็น

ผมเป็นเทรนท์ก็ไปเพราะนอกจากเงินแล้วก็เป็นความอิ่มตัวด้วย แต่มีลางว่าไปแล้วจะแป๊กๆไงไม่รู้