'แอนโทนี่' ตะบันหาย!! เบติสเฮเบียดฟิออฯ 2-1 ลุ้นนัดสอง
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรอัล เบติส ออกนำอย่างไวจาก อับเด เอซซาซูลี่ แล้วค่อยมาได้ประตูเพิ่มจากการตะบันไกลของ แอนโทนี่ กระนั้น ฟิออเรนติน่า ยังทวงประตูคืนมาได้ทำให้จบไปที่ เบติส เป็นฝ่ายเฉือนชนะ 2-1 แต่นัดสองจะไปเล่นในบ้านของ ม่วงมหากาฬ ยังออกได้ทุกหน้า
เรอัล เบติส
Starting Formation: 4-3-3
18.
ปาโบล ฟอร์นาลส์

78'
10.
อับเด เอซซาซูลี่

63'
ตัวสำรอง
16.
เซร์กี้ อัลติมิร่า

78'
20.
โจวานี่ โล เซลโซ่

63'
ฟุตบอลคอนเฟอเรนซ์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
สนาม เอสตาดิโอ เบนิโต้ บิญามาริน
วันที่ 1 พฤษภาคม 2568
กรรมการ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
เรอัล เบติส
2
1
ฟิออเรนติน่า
1-0 เอซซาลซูลี่ 6'
2-0 แอนโทนี่ 64'
เบติส กลับมาใช้สองฟูลแบ็คตัวหลักอีกครั้ง และแดนหน้าก็ยังให้ เอซซาลซูลี่ กลับมาเป็นตัวจริงรวมถึง บาคัมบู ก็คัมแบ็คกลับสู่ไลน์อัพเหมือนกันหลังหายไปจากเกมก่อน
ทางด้าน ฟิออฯ ไม่มี มารี ในแนวรับเลยเป็น โคมุซโซ่ ออกสตาร์ทแทน ขณะที่แดนกลางสลับให้ ฟาจอลี่ คืนตัวจริงและแนวรุกยังให้ กุดมุนด์สัน กับ เบลตราน เล่นร่วมกัน
เบติสนำไว! เซดริก หลุดไปจ่ายให้ เอซซาลซูลี่ ชาร์จไม่เหลือ
เริ่มต้นมาไม่กี่นาที เบติส ก็เอาประตูขึ้นนำเรียบร้อย ด้วยการใช้บอลยาวขึ้นหน้าแล้ว บาคัมบู วิ่งแข่งกับตัวประกบมาเก็บบอลได้โดนดึงด้วยแต่เอาไม่อยู่สลัดหลุดมาได้เข้าเขตโทษทางขวาก่อนจ่ายไปหน้าประตูให้ เอซซาลซูลี่ วิ่งมายิงชนคานบอลเด้งข้ามเส้นเข้าไป เบติส นำ 1-0
เบติสลุ้นต่อ! อิสโก้ ยิงโค้งๆออกเสาสอง
เบติส มีลุ้นเกือบได้ประตูเพิ่มหลังจากเพรสซิ่งแล้ว ฟิออฯ จ่ายไม่ดี อิสโก้ ฉกบอลได้หน้าเขตโทษดึงจังหวะไว้ก่อนแต่งเข้าขวาแล้วยิงโค้งๆไปเสาไกลบอลหลุดออกไปหน่อย
ฟิออฯเกือบเสมอ! มันดราโกร่า สอดโหม่งออกเสาไกล
กลับมาเป็น ฟิออฯ หาทางตอบโต้ได้แล้วเกือบจะตีเสมอ กับบอลที่ฝาก โกเซนส์ ริมเส้นซ้ายแล้วเลือกเปิดเข้าไปในเขตโทษให้ มันดราโกร่า สอดมาตรงกลางโหม่งได้แต่โดนบางไปบอลลอยหลุดเสาสอง
ฟิออฯต้องเปลี่ยนตัว คาตัลดี้ เจ็บ อัดลี่ ลงแทน
ฟิออฯ ต้องเปลี่ยนตัวไวเสียแล้วเพราะ คาตัลดี้ ดันพบกับอาการเจ็บจากจังหวะยิงติดบล็อกหน้าเขตโทษเล่นต่อไม่ไหว อัดลี่ เลยต้องลงสนามมาแทน
ช่วงหลังไม่มีทีมไหนหาโอกาสลุ้นได้
เกมผ่านมาจนถึงท้ายครึ่งแรกยังไม่มีจังหวะลุ้นเพิ่มให้เห็นเลย ส่วนใหญ่แล้วเป็น เบติส ที่ครองบอลทำได้ดีกว่าโดย ฟิออฯ ยังหาจังหวะเอาประตูคืนลำบากลำบน
เบติสเกือบ! เตะมุมหลุดถึง บาร์ตรา ยิงข้ามคาน
เบติส มาได้โอกาสงามที่จะเอาประตูเพิ่มกับเตะมุมทางขวาเปิดไปแล้ว ฟิออฯ สกัดกันไม่ขาดเข้าทาง บาร์ตรา ยิงจากแถวๆจุดโทษส่งบอลข้ามคาน
ฟิออฯลุ้นกันใหม่ กุดมุนด์สัน ยิงไม่ผ่านเซฟ
ต่อกันครึ่งหลัง ฟิออฯ มีลุ้นให้ตีเสมอทันทีด้วยจังหวะที่ ปาริซี่ ริมเส้นขวาแทงขึ้นหน้าส่ง กุดมุนด์สัน โฉบมาเอาบอลเข้าเขตโทษแต่ยิงไม่ผ่าน วิเอเตส ที่ออกมาปิดมุมไว้
ไม่สอง! บาร์ตรา โหม่งได้แต่ ลามะ ปัดทัน
ยังเป็น เบติส ที่มีลุ้นจะเอาประตูเพิ่มหลังจากฟรีคิกทางขวา อิสโก้ เปิดโค้งเข้าไปแล้วมี บาร์ตรา ขึ้นโหม่งได้บอลกดลงพื้นแต่ เด เกอา ยังไวทิ้งตัวปัดทันหวุดหวิด
เบติสสองแล้ว! แอนโทนี่ ตะบันด้วยขวาตุงตาข่าย
แล้วหลังจากนั้นโอกาสเป็นของ เบติส และก็ได้ประตูนำเพิ่มไป กับการสวนกลับจ่ายให้ แอนโทนี่ ทางขวาเลี้ยงตัดมาหน้าเขตโทษยิงติดบล็อกแต่บอลไม่ไปไหน แอนโทนี่ เลยตะบันด้วยขวาส่งบอลพุ่งตุงตาข่าย เบติส นำ 2-0
เบติสลุ้นต่อ! สวนกลับ บาคัมบู เขี่ยส้นให้ ฟอร์นาลส์ ยิงตรงตัว
ยังคงเป็น เบติส มาเรื่อยๆและเกือบจะได้ประตูเพิ่มไปอีกจากการโต้กลับอีกแล้ว ฝากบอลที่ แอนโทนี่ คนเดิมพาบอลต่อถึงเขตโทษแล้วจ่ายมาตรงกลาง บาคัมบู ตอกส้นย้อนให้ ฟอร์นาลส์ เป็นคนยิงแต่ตรงตัว
ขอคืน! โกเซนส์ หักให้ รานิเอรี่ ยิงตีไข่แตก
แต่ทาง ม่วงมหากาฬ ก็ทวงประตูคืนกลับมาได้สักที เป็นจังหวะที่แนวรับวางบอลยาวขึ้นหน้าไปเลยแล้ว โกเซนส์ สอดไปเอาบอลลงมุมแคบก่อนหักมาให้ รานิเอรี่ ยิงทะลุเซฟเข้าประตูไล่มา 2-1
เกือบเสมอ!! โกเซนส์ โหม่งสะบัดออกเสาสอง
ฟิออฯ กดดันต่อหวิดมีประตูตีเสมอด้วยเตะมุมจากทางขวา มันดราโกร่า เปิดเข้าไปหน้าประตูแล้ว โกเซนส์ ขึ้นโหม่งสะบัดแถวเสาแรกส่งบอลกระดอนออกเสาสองหน่อยเดียว
เขาอีกแล้ว! บาร์ตรา โหม่งยังส่งบอลหลุดเสา
ท้ายเกม เบติส ได้โอกาสอีกแล้วด้วยจังหวะเตะมุมทางขวาไม่เปิดแต่เล่นสั้นย้อนออกมาก่อนที่จะวางบอลเข้าไปให้ บาร์ตรา วิ่งสอดมาโหม่งส่งบอลย้อนออกเสาแรก
จบเกม เบติส เบียดเอาชนะ ฟิออฯ 2-1 กุมความได้เปรียบไว้ก่อนแต่นัดหน้าพวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายไปเยือนอิตาลีบ้าง
ฟิออเรนติน่า
Starting Formation: 3-5-2
65.
ฟาเบียโน่ ปาริซี่

68'
32.
ดานิโล่ คาตัลดี้

29'
44.
นิโคโล่ ฟาจอลี่

68'
9.
ลูคัส เบลตราน

45'
10.
อัลเบิร์ต กุนมุนด์สัน

85'
ตัวสำรอง
17.
นิโคโล่ ซานิโอโล่

85'
20.
มอยส์ คีน

45'
24.
อาเมียร์ ริชาร์ดสัน

68'
29.
ยาซีน อัดลี่

29'
90.
มิเชล โฟโลรุนโช่

68'
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Fri May 02, 2025 04:12, ทั้งหมด 5 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ