สหรัฐอเมริกาและยูเครนได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรด้านพลังงานและแร่ธาตุร่วมกัน หลังผ่านการเจรจาอันตึงเครียดมาหลายเดือน

ทั้งสองประเทศตกลงจัดตั้งกองทุนการลงทุนเพื่อการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของยูเครนให้ฟื้นตัวจากสภาพสงครามกับรัสเซีย

สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่าการลงนามในข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะสร้างสันติภาพและความเจริญที่ยั่งยืนในยูเครน

สำหรับรัฐบาลยูเครน ข้อตกลงนี้มีความสำคัญต่อการเข้าถึงความช่วยเหลือทางการทหารของสหรัฐฯ

เชื่อกันว่ายูเครนมีแหล่งสำรองของแร่ธาตุสำคัญจำนวนมหาศาล เช่น กราไฟต์ ไทเทเนียม และ ลิเธียม แร่เหล่านี้เป็นที่ต้องการอย่างมากในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน การทหาร และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ซึ่งอยู่ในรูปแบบวิดีโอว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วย "ปลดล็อคสินทรัพย์การเติบโตของยูเครน"

ขณะเดียวกัน ภาษาที่ใช้ในแถลงการณ์ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับยูเครนมากกว่าปกติ เมื่อเทียบกับท่าทีฝ่ายบริหารของทรัมป์ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาอ้างถึง "การรุกรานเต็มรูปแบบของรัสเซีย" และเสริมด้วยว่า "ไม่มีรัฐและบุคคลใดที่ให้เงินทุนหรือจัดหาเครื่องจักรสงครามให้กับรัสเซีย จะได้อนุญาตให้ได้รับประโยชน์จากการฟื้นฟูยูเครน"

ด้านยูเลีย สวีรีเดนโก รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน ซึ่งบินไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อลงนามในข้อตกลงดังกล่าว ได้กล่าวในโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์เดิม) ว่า กองทุนใหม่นี้จะ "ดึงดูดการลงทุนทั่วโลกให้เข้ามาในประเทศของเรา" โดยข้อตกลงนี้จะเกี่ยวข้องกับโครงการเกี่ยวกับแร่ธาตุ ก๊าซ น้ำมัน โดยที่ทรัพยากรเหล่านั้นยังคงเป็นทรัพย์สินของยูเครน

เธอกล่าวเสริมว่าคู่ค้าจะมีความเท่าเทียมกันในลักษณะ 50:50 และต้องได้รับการรับรองจากสมาชิกสภานิติบัญญัติของยูเครน และข้อตกลงใหม่กับสหรัฐฯ นี้ จะให้ความช่วยเหลือใหม่แก่ยูเครน อย่างเช่นระบบป้องกันภัยทางอากาศ

ที่มา ...... https://www.bbc.com/thai/articles/cjr7vwpzrn2o


น่าจะเป็นผลมาจากที่ทรัมป์กะซิลินสกี้ได้คุยกันตัวต่อตัวที่วาติกันล่ะนะ

หวานเจี๊ยบ

ทรัมป์สงสัยถึงความปรารถนาในสันติภาพของปูติน หลังจากพบกับเซเลนสกีที่วาติกัน



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตั้งคำถามถึงความตั้งใจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในการยุติสงครามในยูเครน หลังจากได้พูดคุยนอกรอบกับผู้นำยูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในพิธีปลงพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส

ทรัมป์โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียหลังออกจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี ว่าเขาเกรงว่าปูตินได้ "หลอกล่อผม" หลังรัสเซียโจมตีกรุงเคียฟเมื่อต้นสัปดาห์ พร้อมระบุว่า "ไม่มีเหตุผลใด ๆ เลยที่ปูตินจะยิงขีปนาวุธเข้าไปในพื้นที่พลเรือน"

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ทรัมป์และเซเลนสกีได้หารือกันอย่างจริงจังในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ไม่นานก่อนที่พิธีปลงพระศพจะเริ่มต้นขึ้น

ทำเนียบขาวอธิบายการหารือราว 15 นาทีกับเซเลนสกีว่า "มีประสิทธิผลมาก" ขณะที่ประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า การพูดคุยดังกล่าว "มีแนวโน้มที่จะเป็นประวัติศาสตร์"

แต่ทำเนียบขาวแสดงท่าทีเชิงบวกมากขึ้นต่อการพบกันของสองผู้นำเมื่อวันเสาร์ ขณะที่เซเลนสกีอธิบายการนั่งคุยดังกล่าวว่าเป็น "การพบกันที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ และมีแนวโน้มที่จะเป็นประวัติศาสตร์ หากเราบรรลุผลลัพธ์ร่วมกันได้"

ภาพการพูดคุยดังกล่าวถูกปล่อยออกมา 2 ภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นผู้นำสหรัฐฯ ในชุดสูทสีน้ำเงิน และประธานาธิบดียูเครนในเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวสีดำ นั่งเผชิญหน้ากันในการสนทนาอย่างเข้มข้น

อันดรีย์ ซือบีฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน โพสต์ภาพดังกล่าวลงบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) เช่นกัน โดยระบุว่า "ไม่จำเป็นต้องหาคำใด ๆ มาอธิบายถึงความสำคัญของการพูดคุยครั้งประวัติศาสตร์นี้ ผู้นำทั้งสองกำลังทำงานเพื่อสันติภาพ ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์"

ที่มา ...... https://www.bbc.com/thai/articles/cgm8pnnelzvo


รูปนี้ดูมีพลังดีจัง ออกมานอกบ้านคุยกันง่ายขึ้นนะ

ทรัมป์บอกมาเลย พรี่สี พร้อมจะปั่นหุ้นอีกรอบแล้ว 55

หวานเจี๊ยบอเมริโกยเลยแบบนี้ เสียครึ่งดีกว่าเสียหมดให้รัสเซีย

ยูเครนยอมทุ่มหมดตัวกับเมกาละงานนี้ ดีกว่ายอมสยบให้รัสเซีย