คนแม่สายเศร้าขาย-รื้อบ้าน โอดอยู่มา 20 ปีเพิ่งรู้ไม่ใช่แผ่นดินไทย หลังมีการแบ่งเส้นเขตแดนแก้น้ำท่วม ผู้นำหมู่บ้านบอกเพียงให้ทำใจ ต้องรื้อกว่า 30 หลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณลำน้ำแม่สาย ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ขณะนี้ ทางฝ่ายเมียนมา ได้นำรถแบคโฮ มาขุดก่อกำแพงกั้นน้ำ 2 จุด คือบริเวณข้างสะพานแม่สายแห่งที่ 1 ไทย-เมียนมา และตรงข้ามบริเวณตลาดสายลมจอย หรือบริเวณอัลลัวร์ เพื่อเตรียมก่อกำแพงฝังท่อซีเมนต์ หลังมีการตีเส้นแบ่งเขตแดนไทย-เมียนมาอีกครั้ง ซึ่งในส่วนของฝั่งไทย หลังเจ้าหน้าที่ตีเส้นแบ่งเขตแดน ก็ได้นำเสาปูนแท่งทาสีแดงมาปักให้เห็นชัดเจน

อย่างบริเวณหลังวัดเกาะทราย ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ต้องทุบกำแพงด้านหลังทิ้ง เนื่องจากหลังจับพิกัดแล้วพบว่า ล้ำแดนเขตประเทศเมียนมา และยังพบว่ามีอาคารขนาด 3 ชั้นเป็นห้องเช่าพักอาศัย ถูกตีเส้นผ่ากลางตึก ซึ่งต้องทุบทิ้งบางส่วน และยังพบบ้านบริเวณใกล้แม่น้ำสาย มีการขึ้นป้ายประกาศขายจำนวนมาก

ส่วนซอยไม้ลุงขน 12 ซึ่งเป็นซอยที่ติดกับแม่น้ำสาย พบว่ามีตึกอาคารพักอาศัย 5 คูหา ที่อยู่ในซอยล้ำเข้าไปในเขตเมียนมา นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงจุดที่มีการตีเส้นแบ่งเขตแดน ซึ่งชาวบ้านบอกว่าไม่มั่นใจว่าจะต้องรื้อบางส่วนด้วยหรือไม่

สอบถามชาวบ้านคือ นายสาม และนางเพ็ญ สองพี่น้อง ทราบว่า มาซื้อบ้านอยู่บริเวณนี้ประมาณ 20 ปี ตอนที่ซื้ออยู่คิดว่าเป็นแผ่นดินไทย อยู่มานานไม่เห็นมีใครมาว่าอะไรให้ จึงอยู่มาเรื่อยๆ ทำมาหากินเก็บเงินออมช่วยกัน 2 คนพี่น้องสร้างตึกขนาด 3 ชั้น จนเงินหมด ขณะที่ทางผู้นำชุมชนได้แจ้งให้ลูกบ้านทำใจ

ทีมข่าวไปพูดคุยกับนายปวเรศ ปัญญายงค์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง รักษาการแทนนายอำเภอ เปิดเผยว่า โครงสร้างบ้านเรือนที่อยู่ติดริมแม่น้ำสายที่ลุกล้ำไปในเขตเมียนมา จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามอำเภอแม่สาย นั้นมีทั้งหมด 6 จุด ประมาณกว่า 30 ครัวเรือน

ซึ่งการลุกล้ำมีทั้งแบบทั้งหลัง และครึ่งหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำเครื่องหมายแบ่งเขตแดนไปแล้วกว่า 20 หลัง และยังมีบางโซนที่เตรียมที่จะเข้าไปปักหลักเพื่อให้เห็นชัดเจน และเพื่อให้ประชาชนที่อาศัยริมแม่น้ำสายทราบว่า บ้านเรือนอยู่ในเขตพื้นที่ใด เพื่อป้องกันการก่อสร้างรุกล้ำเข้าไปในประเทศเมียนมา

ส่วนการตีเส้นพ่นสีแดง ไทย-เมียนมา นั้น นายปวเรศ อธิบายว่า เส้นดังกล่าวเป็นการตีเส้นกึ่งกลางร่องน้ำลึกเดิม หรือเป็นเส้นที่อยู่กลางแม่น้ำสายเดิม ซึ่งยังจะมีขยายของจากเส้นสีแดงไทย-เมียนมาร์ไปอีกข้างละเท่าไหร่นั้น ต้องรอสรุปกันอีกครั้ง ซึ่งตามที่ประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-เมียนมา เกี่ยวกับเขตแดนคงที่ช่วงแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก หรือ JCR
ตามข้อตกลงให้ขุดร่องน้ำลึกเดิมไปก่อน เพื่อให้น้ำลึกมากยิ่งขึ้น

ส่วนแนวทางการรื้อถอน นายปวเรศบอกว่า ยังต้องเรียกชาวบ้านมาทำความเข้าใจอีกครั้ง ซึ่งตามหลักแล้วบ้านเรือนที่อยู่ในเขตเมียนมา กฎหมายไม่รองรับเรื่องการชดเชย แต่จะให้ผู้ใหญ่บ้านรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา อย่างไรก็ตามอยากจะให้ชาวบ้านเตรียมการเคลื่อนย้ายไว้ด้วย




ที่มา .....https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/245247


รูปภาพคือ ตัวอย่างสิ่งก่อสร้างที่ล้ำเข้าไปในเขตแดนระหว่างประเทศนะครับ แล้วยังมีที่ติดตลิ่งอีกซึ่งต้องรื้อถอนเพราะล้ำไปในแม่น้ำ อีกทั้งเค้าพยายามขุดขยายแม่น้ำให้กว้างขึ้นเพื่อรองรับน้ำในปีถัดไป ก็ไม่น่าแปลกใจนะ เพราะผิดมาตั้งแต่แรก

งานเข้าจัดๆ

แนวเขตไทยพม่าที่แม่สาย นี่เข้าใจว่าเราใช้วิธีปักหลักเขตแดนแบบคงที่ (fixed boundary demarcation) ไม่ได้ยึดตามลำน้ำสาย มันจึงจะงงๆกับชีวิตหน่อย

บางส่วนก็มีพื้นที่ของไทยที่ไปอยู่ฝั่งพม่าก็มี

แล้วโฉนดล่ะครับ เวลาก่อสร้างไม่ได้ขออนุญาต สร้างตามโฉนดรึ
ที่เป็นหอพักยิ่งแล้วใหญ่ หรือโฉนดก็มีการแก้ไขด้วยครับ

ถมที่ทับสันดอน แม่น้ำ บอกไม่รู้

ทีนี้คนพม่าก็ข้ามมาไทยง่ายละ แค่เปิดประตูบ้าน

สร้างบ้านรุกล้ำที่สาธารณะ
จนเห็นว่าเป็นที่ของตัวเอง ลงทุนสร้างแบบถาวร
ทั้งๆที่ไม่มีเอกสารสิทธิ พอโดนรื้นถอน มาโวยวาย

คุยกับยายของภรรยา บอกเมื่อก่อนลำน้ำรวก (แม่น้ำระหว่างแม่สาย กับ พม่า) อย่างกว้าง

เดี๋ยวนี้สร้างอาคารล้ำเข้าไปเยอะมาก พอเจอโคลนจากเขามาอุด น้ำท่วมแล้วมาบ่นกัน

ใช้คำยาก ที่เข้าใจคือมันต้องลากเส้นร่องน้ำลึกแล้วขยับถอยออกจากร่องน้ำกี่เมตรก็ว่ากันไป ในรูปมันเหมือนเข้าไปชนร่องน้ำเลยเหมือนเป็นกำแพงกั้นกันเฉยๆเหมือนแถวเจดีย์สามองค์

น่าจะถมที่กันจนล้ำเส้นแบ่ง จำได้ตอนเด็กๆพ่อพาไปเที่ยวแม่น้ำสายอย่างกว้าง เห็นอีกทีตอนมีข่าวน้ำท่วมแคบไปเยอะเลย