4-2-3-1 ครับ

ตอนบุก 3-1-6

แต่ แบคมันไม่ได้เติมสุดเส้น ขนาดนี้

ช่วง รัชฟอร์ด กำลังหมดสัญญา

ยิงยังไงก็เข้า สร้างอิมแพคเกมรุกได้ดีมาก

ฟอร์มระดับตัวท็อปเลย ไม่แปลกใจที่จะมีประสิทธิภาพมาก

ปีแรก เกมรับก็ไม่ได้ดีครับ ยืนเป็นกรวยแบบนี้แหละท่าน

แต่เราได้อภินิหารจาก เดเกอา คนดี คนเดิม ไม่งั้นไม่ได้ถุงมือทองคำร๊อกกก

ประเด็นคือ เป็นจังหวะต่อยอดมาจากโอเล่ เล่นคล้ายๆกัน ตามธรรมชาตินักเตะ + เพลสซิ่งแดนบน เติมแท๊คติกตาฮากไป หน้าที่ตามธรรมชาตินักเตะก็

แรช วิ่ง ล๊อค ยิง
บรูโหน่ง ไม่ต้องวิ่งพล่าน ขึ้นๆลง รอจังหวะแทง รอจังหวะยิง
คาเซ-อิริคเซ่น คุมจังหวะดี ยืนคอมแพคกันดี คนนึงตัด คนนึงรอรับบอล จับ-จ่าย
และที่สำคัญ แบค อย่างอิชอว เติมเกมเป็น ดูจังหวะเป็น มีเหม่อเกมรับนิดหน่อย แต่จังหวะเติมอิชอว เชื่อใจได้ว่าเติมในจังหวะที่ถูกต้อง ซึ่งอีกฝั่งยังลูกผี-ลูกคนระหว่าง ดาโลท์ กับ AWB
เซนเตอร์อย่าง ลิซ่ามาช่วยแบก ในจังหวะที่แมคไกรว์มีปัญหาชีวิต พอดี พร้อมกับการจ่ายทะลุช่อง

ที่สำคัญ จังหวะเกมส์ จังหวะทีม มันบาลานซ์พอดี ทีมมันเลยไปได้เรื่อยๆ

จำได้เลยพอจะจบฤดูกาล คอนเฟิร์มที่ 3 หรือหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์แล้วนี่แหละ ตาฮาก เปลี่ยนแผนเลย มาลองใช้แผนที่ใช้อยู่ปัจจุบันนี่แหละ ปีต่อมานักเตะเจ็บกระจายยยย (สังเกตุว่าช่วงปีแรกจนเกือบถึงปิดฤดูกาล ไม่ค่อยมีคนเจ็บ)

ถึงบอกว่า ตาโล้นมันดื้อ จะเอาชนะด้วยวิธีคิด ด้วยแผนตัวเองให้ได้ ก็หวังว่าจะตาสว่างโดยไว หรือไม่ก็กลับไปสว่างคาตาที่ ฮอลแลนด์ละนะปีนี้

เล่นชิดกันกว่านี้ คาเซ่ชนหนีจบ อิริกเซ่นเป็นตัวคุมจังหวะจะยืนใกล้คาเซ่ สองคนนี้จะไม่หนีกันมากเวลาเซตบอล ส่วนบรูโน่จะวนมารับบอลจากสองคนนี้และไม่ขึ้นสูงตลอดเหมือนตอนนี้

โดยรวมไม่โดนล่อเป้าโง่ๆ กลางไม่แพ้ทีมอื่น แผนเข้าทางแรชเพราะได้บอลจากที่คาเช่ตัดส่งให้บรูโน่แล้วบอลไวจะทำงานทันที

น่าจะประมาณนี้เท่าที่จำได้

ไม่ได้ตะบี้ตะบันโอเวอร์โหลดทุกจังหวะแบบตอนนี้

สถานการณ์จากเกมรับตอนตัดบอลได้คือ หลัง 4 ยืนครบ คาเซ+อีริคเซ่นยืนต่ำแถวๆหน้าหัวกะโหลก
บอลมาถึง 2 คนนี้ก็ถ่ายกันไปมา ยืนชิดกัน ขึ้นหน้าไม่ไหวก็ค่อยๆเคาะขึ้นมา ถ้าอีกฝั่งเคาน์เตอร์เพรสแดนบนใส่ก็ยังคืนมาร์ติเนซคืนชอว์ได้ มีอย่างน้อย 4 คนคอยถ่ายบอลหนีเพรสกัน
shape การขึ้นบอลหนักซ้ายนิดหน่อย
บรูโน่อยู่แถวกลางสนาม ดรอปลงมารับบอลแนวลึกแล้วแทงเร็วข้ามให้แรชบ้าง แต่ส่วนใหญ่บอลจะผ่านอีริคเซ่นก่อน บรูโน่ได้บอลก็เป็นครึ่งสนามขึ้นไปแล้ว

แบคเติมขึ้นไปพร้อมการถ่ายบอล ส่วนใหญ่ขึ้นไปแค่ข้างเดียว อีกฝั่งจะไม่ขึ้นสูงเท่า แต่มาอยู่ไลน์เดียวกับคาเซ/อีริคเซ่น ไม่ได้รีบตีรถขึ้นไปทั้งสองข้างตั้งแต่ตัดบอลได้


สถานการณ์ที่บุกไปแล้วโดนตัดได้ อีริคเซ่นยืนกลางสนามสูงกว่าคาเซนิด คอยบังทาง สกรีนจังหวะให้ช้าลง
คาเซคอยตามเก็บถ้าผ่านอีริคเซ่นมาได้ หลังมี 3 คน (อย่างที่บอกตอนแรกว่าสมัยนั้นแบคไม่ได้ตีรถคู่ขึ้นไปพร้อมกันบ่อย) เกมรับมันเลยเจอสถานการณ์ 2:3 หรือ 2:4 น้อยกว่า

ครองบอลได้เยอะ ไม่มีโยนยาวมั่วซั่วขนาดที่เล่นอยู่ตอนนี้

กองกลางกันปีกต่อบอลเล่นกันบ่อยกว่าตอนนี้มากๆๆๆๆ ตอนนี้กลายเป็นแบ็คแม่งวิ่งหนีกองกลางไปนู่นแล้ว

ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ แค่พอโดนทีมในลีกสอนบอล

ก็เล่นรัดกุมขึ้นมาหน่อย

ความแตกต่างอยู่ที่แรชองค์ลง ยิงเป็นเข้า

ถ้าฟอร์มเหมือนปัจจุบัน ประตูติดลบตั้งแต่ซีซั่นแรกไม่ต่างกับปีที่ 2