จะได้จบๆ ไอ้เวร

เอาที่ตอบไว้กระทู้เก่ามาตอบใหม่นะ


1. ลอนดอน เจ้าของเชลซี มันหาทีมในลอนดอน ก่อนหน้านี้ ไอ้ท็อดด์ ก็เคยพยายามไปซื้อ สเปอร์ส แต่ เลวี่ ไม่ขาย


2. เพดานการเงินของ เชลซี ดีกว่ามาก เพราะ เสี่ยหมี ทำไว้ดี ( เชลซี 10 ปีหลังขายนักเตะได้กำไรมากสุด )

เพราะงั้น เชลซี เลยเป็นเป้าหมายที่เหมาะกับการเข้ามาเทคโอเวอร์แล้วทุ่มซื้อนักเตะเยอะๆได้ในทันที เพราะสามารถใช้เงินได้มาก ยิ่งมาบวกกับทริค เซ็น 8 ปี ยิ่งทำให้ซื้อตัวได้เยอะขึ้นอีก

ดูอย่าง นิวคาสเซิล ดิ เจ้าของโคตรรวยแต่ก็ทุ่มซื้อไม่ได้มากเพราะเพดานการเงินของสโมสรไม่ได้ดีมากต้องใช้เวลาปั้นบัญชีอีกซักพัก ( 2-3 ปีนู่นเลย ) ถึงจะทุ่มเงินซื้อนักเตะเยอะๆได้

ไบรท์ตัน นี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าไม่มี เชลซี ไปทุ่มซื้อมารัวๆในยุคเจ้าของใหม่นี้ ไบรท์ตัน ก็คงไม่ได้เพดานการเงินดีขนาดปัจจุบันนี้หรอก ถ้า ท็อดด์ ซื้อ ไบรท์ตัน ตั้งแต่ตอนนั้น ก็คงใช้เงินประมาณ สตราส์บรูก นี่แหละ ซื้อได้นิดๆหน่อยๆก็เสี่ยงผิดกฏการเงินละ


3. แบรนด์ เชลซี ดังแล้ว ตอนปีที่ เชลซี โดนเทคโอเวอร์ ไบรท์ตัน ฤดูกาลก่อนหน้านั้นจบที่ 9 เอง ชื่อเสียงไม่ได้ต่างอะไรกับพวก บอร์นมัธ ,วูล์ฟ ตอนนี้เลย

และความดึงดูดนักเตะ เชลซี ดีกว่า ไบรท์ตัน แน่นอนอยู่แล้ว คิดว่าตอนนั้นถ้า ไอ้ท็อดด์ ซื้อ ไบรท์ตัน แล้วตลาดมกราไปซื้อ เอ็นโซ่ ที่พึ่งได้แชมป์โลกมา คิดว่ามีโอกาสที่ เอ็นโซ่ จะเลือกมา ไบรท์ตัน มากแค่ไหนละ



ประมาณ 3 อย่างนี้แหละที่ผมคิดออก จะไปซื้อทีมเล็กทำไม ซื้อทีมใหญ่ที่มีตลาดใหญ่กว่า ชื่อเสียงมากกว่า บัญชีการเงินดีกว่า ใช้เงินได้มากกว่า แล้วค่อยเอาเงินไปดูดตัวเก่งๆที่คุณชอบมาจากทีมเล็กซิ

เหมือนคุณรวยมาก แล้วไปชอบอาหารร้านข้างทางร้านนึง คุณจะซื้อร้านนั้นแล้วรีโนเวทใหม่ ทำการตลาดใหม่ แล้วรอให้ร้านนี้ดัง หรือไปซื้อร้านดังๆในห้างที่มีชื่อเสียงมีคนรู้จักอยู่แล้ว แล้วค่อยมาซื้อแม่ครัวจากร้านข้างทางร้านนั้นไปทำอาหารบนห้างแทนละ

ไม่ได้ดิ แบรนด์เชลซีมันมีดีอยู่แล้ว

ผมว่าในความคิดท็อด์+เอ็กซ์และทีมงานคงคิดว่า เชลซี+ไบร์ทตัน=perfect

เขาไม่ขายอะดิ

เชลซี แอ่น โอบ อัลเบียน แม่งเอ้ย

ฉายาใหม่ สิงห์(เชลซี)+นกนางนวล(ไบรตัน) = สิงห์นางนวล โครตเท่

เอาที่ตอบไว้กระทู้เก่ามาตอบใหม่นะ


1. ลอนดอน เจ้าของเชลซี มันหาทีมในลอนดอน ก่อนหน้านี้ ไอ้ท็อดด์ ก็เคยพยายามไปซื้อ สเปอร์ส แต่ เลวี่ ไม่ขาย


2. เพดานการเงินของ เชลซี ดีกว่ามาก เพราะ เสี่ยหมี ทำไว้ดี ( เชลซี 10 ปีหลังขายนักเตะได้กำไรมากสุด )

เพราะงั้น เชลซี เลยเป็นเป้าหมายที่เหมาะกับการเข้ามาเทคโอเวอร์แล้วทุ่มซื้อนักเตะเยอะๆได้ในทันที เพราะสามารถใช้เงินได้มาก ยิ่งมาบวกกับทริค เซ็น 8 ปี ยิ่งทำให้ซื้อตัวได้เยอะขึ้นอีก

ดูอย่าง นิวคาสเซิล ดิ เจ้าของโคตรรวยแต่ก็ทุ่มซื้อไม่ได้มากเพราะเพดานการเงินของสโมสรไม่ได้ดีมากต้องใช้เวลาปั้นบัญชีอีกซักพัก ( 2-3 ปีนู่นเลย ) ถึงจะทุ่มเงินซื้อนักเตะเยอะๆได้

ไบรท์ตัน นี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าไม่มี เชลซี ไปทุ่มซื้อมารัวๆในยุคเจ้าของใหม่นี้ ไบรท์ตัน ก็คงไม่ได้เพดานการเงินดีขนาดปัจจุบันนี้หรอก ถ้า ท็อดด์ ซื้อ ไบรท์ตัน ตั้งแต่ตอนนั้น ก็คงใช้เงินประมาณ สตราส์บรูก นี่แหละ ซื้อได้นิดๆหน่อยๆก็เสี่ยงผิดกฏการเงินละ


3. แบรนด์ เชลซี ดังแล้ว ตอนปีที่ เชลซี โดนเทคโอเวอร์ ไบรท์ตัน ฤดูกาลก่อนหน้านั้นจบที่ 9 เอง ชื่อเสียงไม่ได้ต่างอะไรกับพวก บอร์นมัธ ,วูล์ฟ ตอนนี้เลย

และความดึงดูดนักเตะ เชลซี ดีกว่า ไบรท์ตัน แน่นอนอยู่แล้ว คิดว่าตอนนั้นถ้า ไอ้ท็อดด์ ซื้อ ไบรท์ตัน แล้วตลาดมกราไปซื้อ เอ็นโซ่ ที่พึ่งได้แชมป์โลกมา คิดว่ามีโอกาสที่ เอ็นโซ่ จะเลือกมา ไบรท์ตัน มากแค่ไหนละ



ประมาณ 3 อย่างนี้แหละที่ผมคิดออก จะไปซื้อทีมเล็กทำไม ซื้อทีมใหญ่ที่มีตลาดใหญ่กว่า ชื่อเสียงมากกว่า บัญชีการเงินดีกว่า ใช้เงินได้มากกว่า แล้วค่อยเอาเงินไปดูดตัวเก่งๆที่คุณชอบมาจากทีมเล็กซิ

เหมือนคุณรวยมาก แล้วไปชอบอาหารร้านข้างทางร้านนึง คุณจะซื้อร้านนั้นแล้วรีโนเวทใหม่ ทำการตลาดใหม่ แล้วรอให้ร้านนี้ดัง หรือไปซื้อร้านดังๆในห้างที่มีชื่อเสียงมีคนรู้จักอยู่แล้ว แล้วค่อยมาซื้อแม่ครัวจากร้านข้างทางร้านนั้นไปทำอาหารบนห้างแทนละ

ถามแซวให้ซื้อไบรท์ตันไปงั้นแหละ

แต่ติดใจทำไมถึงยึดติดกับนักเตะ ทีมงาน โค้ช ไบรท์ตันขนาดนี้

ทีมอื่นๆบนโลกประสบความสำเร็จกว่านี้ก็มีเยอะแยะ

เริ่มแรกผมว่ามาจากความบังเอิญ เริ่มมาจาก ทูเคิ่ล อยากได้ แบ๊ค ที่เล่นเซ็นเตอร์ในแผนหลัง 3 ได้ พลาดทั้ง อาเก้ ทั้ง คุนเด้ สุดท้ายมาจบที่ คูคูเรย่า

แล้วตอนเจรจา คูคู เนี่ยมีข่าวว่า ไอ้ท็อดด์ สอบถาม คูคู กับ เอเยนต์ ว่า พ็อตเตอร์ เป็นยังไง ทำงานด้วยแล้วเป็นยังไง แล้วได้คำตอบกลับมาเป็นคำชมเยอะเลย พ็อตเตอร์ เลยอยู่ในลิสต์ผจกใหม่ของ ไอ้ท็อดด์

พอตอนตั้ง พ็อตเตอร์ กับทีมงานแล้ว เชลซี ไปเอาโมเดลแมนซิมา อยากทำเหมือนเขา ที่ เป๊ป มี ซิกิ ผู้บริหารที่เคยทำงานด้วยกันตอนอยู่ บาร์ซ่า มา เลยทำงานเข้าขากันตอนอยุ่ แมนซิ

เชลซี ก็เลยไปเอา วินสแตนลี่ย์ มาเป็นทีมงานในบอร์ดบริหาร เพื่อให้ทำงานเข้าขากับ พ็อตเตอร์ เหมือน ซิกิ กับ เป๊ป

จากนั้นก็เลยเถิดไปเรื่อยเลย แต่ส่วนนึงพวกเจ้าของทีมน่าจะชอบสไตล์มันนี่บอลของ โทนี่ บลูม ด้วย คำนวณหานักเตะด้วยสถิติ ข้อมูล อันนี้คือพวกเจ้าของทีมชอบมาก ถ้ามันซื้อ โทนี่ บลูม ได้มันคงซื้อไปแล้ว

ตอบแบบไม่กวนตรีน ก็แบรนด์ล้วนๆนั่นล่ะ ลองนึกภาพลิเวอร์พูลก็เคยมียุคตกต่ำก่อนยุคJK แต่แบรนด์ลิเวอร์พูลก็คือลิเวอร์พูลขายได้ตลอด ยิ่งพอฟอร์มพุ่งก็ขายได้เพิ่มอีกทันที แบบไม่ต้องทำการตลาดไรแล้ว

แบรนด์เชลซีก็อยู่ในสถานะเดียวกันแล้วตอนนี้ (แต่จำนวนแฟนทั่วโลกอาจไม่เท่า ผี,หงส์) แต่เป็นแบรนด์Hi-End ของสโมสรฟุตบอลแน่นอน

อันนี้แฟนเชลซีรับกรรมเลยนะฮะ..

เหมือนมหาเศรษฐีไปซื้อแบรนด์ร้านอาหารหรู แล้วไปจ้างแม่ครัว+ทีมงานร้านลาบข้างทาง (เพราะชอบเมนูลาบ อีกหน่อยขายดีแน่ๆ)

แล้วมาทำแต่เมนู street food ขาย แถมเด้งพ่อครัวเก่าที่ทำแต่เมนูอาหารหรูที่เจ้าของเก่า(เสี่ยหมี)จ้างไว้ ออกไปอีก

ต่างกันนิดนึงลูกค้าปกติ ไม่ชอบแนวนี้ก็เปลี่ยนร้านได้ แต่แฟนบอลเจอแบบนี้ ทำใจลำบาก เปลี่ยนทีมเชียร์มันไม่ง่ายเลย

ใจมันรักร้านนี้(ทีมบอล)ไปแล้ว กลายเป็นต้องฝืนกินลาบไป กดดันร้านไล่แม่ครัวคนนี้ เจ้าของแม่มก็ไปจ้างแม่ครัวร้านลาบร้านอื่นแทนอีก

ก็เหมือนซื้อขายเพจ ที่มีFollower ยอดlike ยอมติดตามสูง มูลค่ามันก็แพง
คนซื้อมาทำต่อ ก็ไม่ต้องเสียแรงหาผู้ติดตามมาก
แล้วฟุตบอล แฟนมันก็โรยัลตี้ โอกาสเปลี่ยนทีมเชียร์ก็น้อย

ไอ้ที่ผมสงสัยเรื่องขายนักเตะเนี่ย มันมาทำกับยุคนี้ มันน่าจะเล่นยากขึ้นนะ
ผมไม่ค่อยเชื่อเพราะซื้อมาโคตรแพง คือมันต้องขายเฟ้อ หนีราคาทุน
มีแต่ซาอุที่พึ่งเปิดโลก ที่ทำเหมือนลีคจีนตอนเปิดใหม่ ถ้ายังเป็นที่ปล่อยแพงๆ ก็เหมือนของเล่นคนรวย
มันต้องมีจุดที่มันต้องชะลอการซื้อบ้างละ เพราะสตาร์มันต้องล้นแล้ว เหลือรอช้อนแค่มีชื่อขึ้นหิ้งจริงๆ

อยากได้ทีมแบบ โมนาโก อาแจ๊ก ปอร์โต้ เบนฟิก้า สปอนติ่ง
ผมยังคิดว่ายากวะ
ชะตากรรมอาจเป็นว่า นักเตะอาจได้รอหมดสัญญาแทน จะเล่นเป็นการปล่อยเช่ายืมเอาอ่ะดิ
การเซ็นยาวๆ แล้วไม่รู้ทัศนคติ และคุณภาพนักเตะ แล้วผู้จัดการทีมไม่เอา เนี่ยละปัญหาที่ควบคุมยาก