เน้นดูหนัง เล่นโซเชี่ยว (line facebook youtube) เป็นหลัก
เกมส์ไม่เล่น ตัดต่อไม่มีครับ


iPad Pro M2 (12.9 นิ้ว) 2022 cellular 256 GB ประมาณ 50,000 บาท
iPad Air M2 (12.9 นิ้ว) 2024 cellular 256 GB ประมาณ 39,900 บาท

จอ Mini-Led (Pro) กับ จอ Liquid Retina (Air) มันแตกกต่างกันมั้ยครับ

ตอนแรกเห็นแค่ใช้ดูหนัง เล่นโซเชียล ไม่ได้จะทำงาน เลยอยากแนะนำแค่ Air พอ

แต่พอไปดูว่า Air ตัวใหม่ จอยังเป็น 60 Hz แค่นั้น ก้เลยเลือก Pro ครับ

ปล.ผมใช้ Pro 11 นิ้วตัวแรกเลย ชอบจอมากที่เป็น 120 Hz ถ้าให้กลับไปเป็นจอ 60 Hz รู้สึกแปลกๆ ชินแล้ว แต่ถ้าท่านคิดว่าใช้จอ 60 Hz ได้ไม่เป็นปัญหา ก้ไป Air ครับ

ถ้างบถึง pro ยังไงก็คุ้มกว่าครับแค่จอ pro motion ก็คุ้มแล้ว

ถ้าไม่ได้ทำงาน ประมานนี้ ผมกดAir ใหม่ครับ

ปล.เรื่องจอ ต้องลองไปคลำๆดูครับว่าโอเคไหม อย่างของผม เคยเล่นโปรแล้ว ไปจับแอร์มันดูหน่วงจริงๆ
ส่วนแฟนผม แอร์มาตลอด ไปได้รู้สึหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใด5555

ถ้าไม่ได้สนใจเรื่องใช้ประโยชน์จากชิพประมวลผลหรือใช้ทำงานท่านคงต้องไปดูภาพที่ออกจอเทียบกันตรงๆแล้วล่ะครับ

ว่าจะแยกกันออกไหมระหว่างภาพที่ออกจากตัวProกับAir ถ้าแยกไม่ออกก็กดAirประหยัดไปเป็นหมื่น

แต่ส่วนตัวผมว่าจอLiquid Retinaภาพก็สวยมากแล้วนะ ถ้าต้องจ่ายระดับ50kเพื่อเอาไว้ดูหนังโดยเฉพาะ

ผมคงเลือกไปซื้อทีวีOLEDไว้ดูจริงจังเลยอาจจะเหมาะกว่า ยิ่งหนัง4k ใหม่ๆผมก็ซื้อเก็บไว้ในApple TV

ในไอแพดจะดูแค่สตรีมมิ่งอนิเมะหรือหนังเก่าๆที่ไม่ได้อัพสเกลเป็น4kพอแก้ขัด

ใช้แค่นั้นผมว่า ipad gen 10 ก็พอแล้วสำหรับผมครับ

ถ้าไม่ติดเรื่องงบแนะนำไปโปรเลยครับ

หรือถ้าติดเรื่องงบ หามือสอง สภาพดี จะประหยัดได้เยอะเลย

ผมคิดว่า Air พอครับ แต่ถ้าจะดูหนังจริงจัง แบบที่ความเห็นด้านบนบอกไปซื้อทีวีดีๆมาดูเลยดีกว่าครับ ไม่ก็โปรเจคเตอร์สักตัวก็ยังได้ ราคา 5 หมื่น เอาแบบดูหนังจอใหญ่ๆดีกว่า

ไม่ได้ใช้ทำงาน ถ้าเปนผม ซื้อตัว air คับ อยากเสพความสุนทรีจริงๆ ไปจอใหญ่ๆดีกว่า

แต่ถ้างบไม่ใช่ปัญหา ไปตัวแพงสุดคับ

ส่วนต่างหมื่นนึง ผมว่าน่าไปโปรครับ กล้อง LiDAR จอดีกว่า ลำโพงดีกว่า

ผมว่ารายละเอียดเล็กๆ อื่นๆ อาจจะมีมากกว่านี้อีก แต่แค่สามอย่างบนผมว่าก็คุ้มแล้ว

เพิ่มเติมนิดนึง ถ้าเน้นใช้กับที่ แต่เปลี่ยนที่บ่อยแบบ บ้านขั้น 1-2 ที่ทำงาน โรงแรม แต่ไม่ได้ใช้ระหว่างทางแบบ บนหรือฟ้าไรงี้ และไม่สนเรื่องใช้แนวตั้ง ผมว่า MacBook Air m2 ก็น่าสนใจครับ เน็ตเเชื่อม iPhone ได้ไม่ยาก

ส่วนตัวมี iPad Pro 10.5 กับ MacBook Air เวลาไปเที่ยวก็ preferred พก MacBook ไปดูบอลมากกว่า ขี่เกียจหาที่ตั้ง iPad เพราะใช้แบบไม่มีเคส ถ้าใส่เคสก็หนักขี้เกียจพกไปวันง่ายๆ อีก แล้ว MacBook มันตั้งโต๊ะกับ laptop ได้เลย สบายกว่าไม่ต้องใช้มือคอยตั้ง

จอมันตั้งได้เลย ถ้า iPad บวกเคสที่ตั้งได้ หรือ Magic Keyboard (ซึ่งเพิ่มตังอีกหลายอยู่) ผมว่าน้ำหนักไม่น่าต่างกันเท่าไหร่

เงินเหลือ แถมใช้งานอย่างอื่นได้

เพิ่งดูให้น้องแหมบๆจะเอาไปเรียนต่อ

ส่วนต่างหมื่นนึงที่จะได้คือ
- กล้อง Wide & LiDAR
- สแกนหน้าแทนสแกนนิ้ว
- ลำโพง 4 ตัว
- ไมค์ 4 ตัว
- ระบบประมวลผลภาพซัมติงๆ มีแค่ในตัวโปร
- จอ 120
- ยังรองรับ Folio อยู่ (ไอเคสแบบปุ่มนิ่ม)

ที่จะไม่ได้คือ
- ซัพพอร์ตดินสอโปรซึ่งราคาเท่ากับตัวเจน 2 แต่มีฟีเจอร์ดีกว่าหน่อยนึง

ก็ลำบากอยู่ เพราะน้องผมเองก็ไม่ได้อินกับจอ 120 อะไรขนาดนั้น (เขาใช้ XR + iPad Gen 6-7 มั้ง) แต่อยากซื้อตัวบนๆเพราะได้อัพเดทจนเรียนจบ + มี Overhead ไว้หน่อยเพราะพวกแอพทางการแพทย์มันกินสเปคเอาเรื่องอยู่

Pro ครับยังใช้ได้อีกหลายชาติถ้าจะใช้นานใช้ 120hz ดีกว่า ถ้าจำไม่ผิด miniled ด้วยมั้ง จริงไปair5ก็ได้มั้งครับ แต่คงอยากได้จอ 12.9เลยเล็งสองตัวนี้ ถ้าจะเปลี่ยนจากair4ผมก็คงเล็งสองตัวนี้เหมือนกัน เอาจริงผมกระแดะ120hzมากนะชอบมาก แต่ผมใช้ไอแพดก็ไม่เคยเสียอารมณ์เลยแม้แต่น้อยเรียกว่าไม่ส่งผลเลย55555 ทั้งที่กระแดะชอบนะ