เห็นเจ๊เจ้าของอาหารเสริมแบรนด์หนึ่ง ทำการตลาดแนวขายตรง ตอนนี้เพจแบรนด์ขายอาหารเสริมของเจ๊เขาเริ่มซบเซา ตัวแทนก็ย้ายไปขายสินค้าอื่นกันเกือบหมดแล้ว สภาพน่าจะอยู่ได้อีกไม่นานก็ไม่น่าจะไปต่อได้ไหวแล้ว
.
ตอนนี้เจ๊เขาเปิดร้านอาหาร ขายสบู่/ขายเซรั่ม ทำพูลวิลล่า แล้วมาโพสต์ใน fb / tiktok ว่าธุรกิจใหม่ของเจ๊เขาปังทุกอย่างเลย ร้านอาหารยอดขายสาขาเดียว 2 ล้านบาทต่อเดือน แบบนี้เชื่อได้ไหมครับ
.
ผมเห็นพวกเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมแนวขายตรง มักจะชอบมาแนวคล้ายๆกันและเหมือนๆกัน คือ ชอบโพสต์อวดความสำเร็จบน เฟสบุคส่วนตัว หรือ ใน tiktok ของตัวเองบ่อยๆ

111111111111111

กี อินฟู มันมีราคามากกว่า กี ตามร้านนวด หลายเท่าตัวนะ

เขามีทุนแหละมั่ง มีทุน มันก็ไปต่อได้อีกเยอะ

แต่หลังบ้านเราไม่รู้เขา หนี้เท่าไร กำไรเท่าไร

โลกโซเชียล มันเชื่ออะไรได้ง่ายๆ

ยอดเลขในบัญชีมันปั๊มกันได้ครับ ยืมมาโพสก่อนก็ยังได้ อย่าไปเชื่อมาก

เขาก็โพสว่าธุรกิจเขาปังหมดแหละ เพื่อหลอกคนมาซื้อของไปขายต่อล๊อตใหญ่ๆ หรือหลอกคนมาซื้อแฟรนไชส์ 9ล9

พวกขายสบู่เซรั่มเน้นกินเงินตัวแทนอยู่แล้ว แบรนด์เก่าเริ่มขายไม่ได้ก็ทิ้งไปทำแบรนด์ใหม่วนลูปไปเรื่อยๆ แล้วพวกนี้ต้นทุนโคตรถูกเจ้าของฟันกำไรเยอะมากๆ

อาจจะขายดีจริงก็ได้ครับ เราบอกเป๊ะๆไม่ได้หรอก
แต่คนที่มีskillการขาย skill marketing เจ๋งๆนี่ ขายไรก็ขายได้จริงๆนา

ความจริงมันเรื่องปกติเลยอะไรกำลังจะโตก็โดดไปจับ พอได้กำไรก็เตรียมชิ่ง
อย่างไม้ด่างโดดเข้ากันตอนสามสี่พัน พอขึ้นหมื่นก็โดดออกละ พวกครีม
พวกพูลวิลล่าก็เหมือนกัน แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องฟอกเงินมันก็มี

เจ๊งก็ไม่บอกครับ

ถ้าจะหาดาวน์ไลน์ เป็นอินฟลูมันเจ๊งไม่ได้ครับ

ถ้าจะเจ๊งต้องหาตัวที่มาหักลบกลบหนี้ให้ตัวเองดูดีครับ

ดูให้ดีละกัน ไอพวกร้านพวกนี้ บางทีมันเป็นแค่แหล่งฟอกเงิน เฉยๆ 100 ได้ 70 มันก็เอาแล้ว

หลังบ้านเราไม่รู้หรอกครับ อาจจะเมคยอดขายอย่างที่หลายๆคนบอก หรืออาจจะจริงตามนั้นก็ได้

ลักษณะนี้มันคือการสร้าง Personal Branding ครับ Value มันอยู่ที่ตัวบุคคล ไม่ใช่ตัวสินค้า ฉะนั้นสินค้าจะดีไม่ดี ยอดขายตก ก็ไม่เป็นไรครับ แต่เจ้าตัวต้องดูมีคุณค่าอยู่เสมอ

บางคอนเท้นต์ก็โกหก เพื่อสร้างภาพให้เจ๊เขาดูดี ถ้าเมคเรื่องขึ้นมาว่าประสบความสำเร็จ อันนี้ผมว่าเป็นการทำ personal branding ที่น่าเกลียด มากกว่าน่าชื่นชม