ทุกสงครามไม่ว่าจะ สงครามสุริโยทัย สงครามช้างเผือก สงครามเสียกรุงครังที่ 1 สงครามเสียกรุงครั้งที่ 2 ก็ทัพเรือพม่านี้ละต้องพร้อมสุดขีด ให้กองทัพบกพร้อมยังไง ถ้าไม่มีกองทัพเรือที่แกร่ง ก็ไม่มีทางพิชิตอยุทธยาได้เลย เผลอๆ ก็ไม่มีทางที่จะเข้ามาตั้งค่ายล้อมอยุทธยาได้ กว่าจะผ่าน พิษณุโลกก็ต้องชนะกองทัพเรือที่พิษณุโลกก่อนละ เพราะพิษณุโลกเป็นเมืองอกแตก ถ้าจะเข้ามาทางสุพรรณบุรีก็มีทัพเรือที่แม่น้ำท่าจีนอยู่ กาญจนบุรีที่แม่น้ำแคว ก็ผ่านมาก่อน

พม่ามีการค้าขายกับพวกเบงกอง ยะไข่ ที่มีความชำนาญทางทะเลสูงอยู่แล้ว

เวลาพม่าจะยกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุทธยา ปืนใหญ่ต้องพร้อม เรือจากพม่าเองก็ต้องพร้อม แม้พม่าจะมีเรือรบ ก็ยังต้องเอาเรือจากทวาย ไม่ก็ยึดเรือของอยุทธยาจากพิษณุโลก เชียงใหม่ มาช่วยเสริม เพราะกองทัพเรืออยุทธยาก็ไม่ธรรมดา รวมทั้งปืนใหญ่บนเรือ

มีแค่ทัพบกที่โหดแต่ไม่มีทัพเรือ ให้ชาติหน้าก็ไม่มีทางพิชิตอยุทธยาได้ เผลอๆ ก็อยู่แค่ พิษณุโลก กาญจนบุรี ขยับไปไหนไม่ได้อยู่ดี

กว่าพม่าจะล้อมกรุงได้ ก็ต้องทำลายกองทัพเรือของอยุทธยาที่ประจำการจุดอื่นนอกกรุงศรี หรือหัวเมืองต่างๆ

อยุทธยา ฉายาเวนิสตะวันออก หรือเมืองน้ำอยู่ละ ในอดีตคนโบราณก็ใช้การเดินทางด้วยทางเรืออยู่ละ ในการพายเรือไปกับคลอง

ก็แสดงได้ว่าในอดีตกว่าพม่าจะพิชิตกรุงศรีอยุทธยาได้ ต้องลงทุนมหาศาลในการพิชิต กว่าจะฝ่าหัวเมืองของอยุทธยา ต้องกวาดต้อนเชลย เอาอาวุธจากที่อื่น เสบียง ต้องพร้อมจริงๆ แล้วอยุทธยาคือมหาอำนาจในภูมิภาคสุวรรณภูมิ ของฝั่งทะเลอ่าวไทย

พงศาวดารพม่าก็เขียนยกย่องตัวเองด้วยก็จริง แต่เขียนยกย่องอยุทธยาว่าแข็งแกร่งมากกว่าจะพิชิตได้ ยิ่งเป็นการยกย่องตัวเองว่ากูเก่งขนาดไหนที่ชนะมหาอำนาจอย่างอยุทธยา ซึ่งยุคทองของพม่าไม่ว่าจะ ราชวงศ์ตองอู ราชวงศ์คองบอง ตั้งแต่ยุคพระเจ้าตะเบ็งชะเวงตี้ จะเป็นยุคที่ชนะอยุทธยาได้เสมอ

กษัตริย์พม่าจะมีความคิดเป็นจักรพรรดิราช คือ เพื่อประกาศบารมีของตนเอง เป็นหน้าเป็นตา ต้องการเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์อาณาจักรอื่น ยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์อื่น แล้วยิ่งการชนะอยุทธยา ไม่ว่าจะ บุเรงนอง พระเจ้ามังระ ทำให้มีพลังบารมีอย่างมาก เพราะจะทำให้คุมอาณาจักรอื่นได้ง่ายขึ้น ทำให้อาณาจักรอื่นที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของพม่าไม่กล้าแข็งข้อ หรืองัดคอ แบบยุคบุเรงนอง กษัตริย์พม่าจึงเป็นนักรบ เป็นทหาร มีความเป็นนักรบสูง ไม่ได้เป็นแค่นักการค้า ไม่งั้นคุมอาณาจักรข้างเคียงไม่ได้ เพราะในดินแดนพม่ามี ชนเผ่าต่างๆ ที่ไม่ใช่พม่ามากมายมหาศาล ที่พร้อมจะแข็งเมืองตลอด

สงครามอยุทธยาเรือรบไม่ค่อยมีบทหรอกมีก็น้อยทัพเรือส่วนใหญ่มันเป็นเรือขนคนกับขนของ

เวลาพม่ามาล้อมเขาจะใช้ทัพบกล้อมจากวงนอกแล้วค่อย ๆ กระชับวงล้อมขึ้นมา ฝ่ายอยุทธยาก็จะตั้งรับนอกแนวกำแพงเป็นหลักไม่ให้พม่าเข้ามาใกล้กำแพงได้ พม่าก็ต้องไล่ยึดค่ายอยุทธยานอกแนวกำแพงให้จบถึงจะเริ่มเอาอาวุธหนักมาปล้นเมืองได้

คนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นชาวน้ำที่ว่ายน้ำเก่งมากตามหลักฐานของลาลูแบร์(ถ้าจำไม่ผิด)แต่รบทางน้ำได้ห่วยแตก สมัยอานัมสยามยุทธยุค ร.4 รบกับยวนทางน้ำแพ้ยับ

ถ้าไปเยือนอาณาจักรที่ติดทะเล ใกล้ทะเล ทัพเรือสำคัญเลยละครับ ช่วงอยุทธยา บุกไปมะละกา ที่ไม่ชนะเพราะทัพเรือไม่ดีพอ จีนสนับสนุน มายุคพระเจ้าปราสาททองไม่ชนะปัตตานีเพราะ ทัพเรือไม่ได้แกร่งกว่านี้ละ รวมทั้ง ไปซุ่มกองทัพเรือนอกทะเลไกลๆ จนถูกล้อม กว่าสยามจะชนะปัตตานีได้ ต้องรอให้ปัตตานีอ่อนแอก่อน พวกหัวเมืองทางมลายูอ่อนแอ ก็ยุค รัชกาลที่ 1 นี้ละครับ แต่ก็ต้องใช้ทัพเรือช่วยนะ

ยุคบุเรงนอง อยากจะไปตียะไข่ใจจะขาด แต่ทัพเรือยะไข่โหดนี้ละครับ เลยจำใจปล่อยไปก่อน พอจะไปตีก็ดันชรามากแล้ว

ยุค ร.3 ที่ไม่ชนะญวนเพราะ มีการทุจริตนี้ละครับ แล้วญวนตั้งตัวได้ เลยยาว อีกทั้งจำนวนทหารญวนมีเยอะด้วย แถมญวนตอนนั้นก็มีประสบการณ์รบไม่น้อยละครับ

ทัพเรือมันก็สำคัญแหละแต่มันไม่ได้ถูกใช้เป็นหัวหอกหลัก อย่างที่บอกทัพเรือสยามมันเป็นเรือขนคนกับขนสเบียงเป็นหลักมันไม่ได้เป็นเรือปืน

อีกสงครามที่เป็นตัวอย่างคือสงครามสมัยที่เป็นรัฐกรุงเทพแล้วคือสงครามรบกับทวาย ทัพเรือเราก็ขนคนกับขนของอย่างเดียว 555+

เห็นด้วยอย่างที่คุณปีศาจแดงดำบอก รัฐทางตอนล่างถ้ารัฐสยามมีความเข้มแข็งทางกองทัพเรือสักหน่อยมันก็ไม่ยากหรอก พวกมลายูไม่ได้เป็นกลุ่มเป็นก้อนอะไรมากแค่ทัพบกสยามไปทางฝั่งมลายูก็ตึง ๆ แล้ว

อีกเรื่องที่บ่งบอกว่ารัฐสยามไม่ให้ความสำคัญกับกองทัพเรือคือเวลาเราจะเดินทางไปจิ้มก้องที่ราชสำนักจีน รัฐกรุงเทพต้องจ้างกัปตันเรือชาวจีน ตรงนี้มันแสดงให้เห็นเลยว่าเราเดินเรือกันไม่ได้เรื่องเลยทั้ง ๆ ที่ติดทะเล

อยุธยาตอนนั้นน่าจะมีกองทัพของตัวเองไม่มาก ส่วนมากน่าจะเป็นกองทัพรับจ้างจากประเทศที่ค้าขายด้วยทั้งโปรตุเกส ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศที่มีค่ายทหารอยู่ ภายในและรอบๆ...ทหารรับจ้างก็ดี แต่ถ้ารู้ว่าแพ้แน่ให้เงินแค่ไหนก็ไม่มีใครเอา หรือถ้ามีใครให้เงินมากกว่าก็ไม่จำเป็นต้องสู้แล้ว

ตอนนั้นน่าจะชะล่าใจกันไป หย่อนยาน ทั้งการเมืองและการปกครอง บวกกับพม่าติดบัฟจากไหนมาไม่รู้ อาจจะอยากให้เมืองท่าของตัวเองเป้นศูนย์กลางการค้าขายละมั้ง

ผมจำไม่ได้เลยว่า เรือมีบทบาทยังไง ในสงครามกะพม่า
จำได้อย่างเดียว ทัพเรืออยุธยาเคยพยายามแหกวงล้อมพม่า ในสงครามเสียกรุงครั้งที่สอง
บันทึกพม่าบอก พระยาเพชรบุรี แม่ทัพเรือโดนยิงตาย พระยาที่ตากอยู่ในเหตุการณ์เลย หนีออกมาไม่กลับไปรักษาพระนครอีก
กรมพระยาดำรงบอก มีแต่ไพร่ราบทหารเลว เฮโลกันไปหวังขู่ให้พม่ากลัว มีทหารบ้าคนนึงเป็นหัวโจก ขึ้นไปยืนรำดาบบนหัวเรือ แล้วโดนพม่ายิงตาย

ทำไมพม่าไม่ไปตีประเทศด้านซ้ายของตัวเองบ้าง อย่างบังกลาเทศ อินเดีย

จุดเริ่มต้นการสิ้นชาติ ก็เพราะไปตีเมือง มณีปุระ ในอินเดีย ที่อยู่ในปกครองอังกฤษนั่นแหล่ะครับ