พอดีผมออกจากงานประจำ คิดว่าประกันสังคมไม่พอ ไม่อยากเข้า รพ รัฐ คิวเยอะ ร้อน ดูวุ่นวาย

ถ้าซื้อประกันสุขภาพ ปีละ 25-30kเรทแถวๆนี้เพียงพอไหมครับ

วงเงินค่าใช้จ่ายทั่วไปได้เท่าไหร่ เช่นป่วยทั่วไป 2000-4000บาท ไม่ได้ค้าง

แล้วมีพวกนอน รพ รวมด้วยไหม หรือผ่าตัดหลักหมื่น-แสนอะไรแบบนี้



ถามคร่าวๆนะครับ ไว้ผมไปศึกษาเพิ่มเติม ขอบคุณมากครับ


ผมอายุ 30-31ปีนี้ ไม่มีโรคประวัติเสีย

ถ้า opd ครั้งละ 2-4 พัน
ค่าเบี้ยปีละ 25k อาจไม่พอ

ไม่ต้องเน้น opd ครับ

ถ้ามีไข้สูงไปหาหมอ ยังไงเขาก็ให้แอดมิดครับ

ผมทำเหมาจ่าย 3 ล้าน เบี้ยราวๆ นั้นครับ

25-30 เค

ถ้า อบ. มาส่วนมากจะให้ opd ครับ

ต้องดูอายุประกอบด้วยครับ​ ของผม​ 29​ เฉพาะ​ IPD​ ทุนประกัน​ 6ล้าน​+ได้ค่าห้องคืนละ5000
เบี้ย​ 24,000/ปี​ ยังไงทักมาสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ​ ยินดี

ประกันแบบมี opd ไม่คุ้มหรอกครับ มันต้องเพิ่มค่าเบี้ยอีกเยอะ
ประกันเหมาจ่ายที่ไม่มี opd ก็พอแล้วครับ หากมีต้องส่องกล่อง ผ่าตัดเล็ก ประกันเหมาจ่ายcover อยู่แล้วครับ

ผมเป็นตัวแทนประกันนะ

คำถามแรก ออกจากงาน แล้วมีรายได้อื่นมั้ย?

ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย คุณซื้ออะไรก็ได้ตามสะดวกคุณเลย

แต่ถ้ามีงบจำกัด แนะนำว่าควรซื้อไม่เกิน 20% ของรายได้ต่อปี

ยกตัวอย่าง ผมมีรายได้ 1แสนต่อปี ไม่ควรซื้อเกิน 2หมื่นบาท

ส่วน OPD ผมไม่ซื้อนะ เข้าคลีนิกถูกกว่า เว้นแต่ว่าลูกค้าหาหมอ 6 ครั้งขึ้นไปต่อปี แนะนำซื้อ OPD เสริม
ครับ

เพิ่มเติม จากเจ้าของมู้ อยากซื้อประกัน opd เพิ่ม ซื้อยังไงดีครับ
ทุกวันนี้ผมปงดหลัง เลยกายภาพบ่อย ของที่บริษัทมันให้ 30 ครั้งต่อปี แต่คิดว่าไม่พอ อยากซื้อเพื่ม อีก 20 ครั้ง ครั้งละ 2,500 บาท ครับ มันจะมีไหมแบบนี้

ของผมไม่มี opd
นอนโรงบาลเหมาจ่ายปีละ1ล้าน
โรคร้ายแรง อุบัตเหตุ
จ่ายปีละเกือบๆ30k
อายุ38ครับ

ลองถามคุณ James Bourne ดูครับ เห็นเคยแนะนำเกี่ยวกับประกันอยู่ครับ

ผมที่เพิ่งยกเลิกประกันทั้งหมด เพื่อเอาเงินมาใช้กินเที่ยว ดูทรงโลก

จะเดือดก่อนได้ใช้ประกัน ผมอาจจะคิดผิดก็ได้

ขอนอกประเด็น ประกัน นะครับ

เรื่อง รพ รัฐ กับ รพ เอกชน อยากให้ลองเปลี่ยนความคิดหน่อย อันนี้เจอมากับตัวเอง
รพ รัฐ ที่หลายๆคน ไม่อยากไป รอนาน บริการไม่ดี คนเยอะ อากาศร้อน ไม่เหมือน เอกชน เข้าไป ใช้บริการได้เลย แอร์เย็น สะอาด มีสตาบัค มีอาหารญี่ปุ่น ใน รพ

แต่ เวลาที่เป็นโรคทั่วไป เช่น ไข้หวัด ไรงี้ก็โอเคดี แต่ถ้าโรคที่ต้องใช้ วินิจฉัยแม่นๆ ผมแนะนำ รพ รัฐ นี่แหละ หมอเก่งจริงๆ ไม่วินิจฉัย แบบลองผิดลองถูก ไม่หายกลับมาใหม่ กินเงินไปเรื่อยๆ

แต่หมอรัฐ ค่อนข้างถูกจุดมากครับ อาจเป็นหมอรุ่นใหญ่ ด้วยครับ

ถ้าเป็นโรคประจำตัวไปแล้วก็ไม่คุ้มครองครับ

ประกันสุขภาพในเรท 25k+ต่อปี เรทนี้ทำแบบเหมาจ่ายได้แล้วครับ แต่ไม่มี OPD นะครับ และผมแนะนำว่าไม่ต้องทำแบบ OPD ครับเพราะเทียบกันแล้วแบบมี OPD ส่วนต่างมันแพงกว่าถ้าเทียบกับจ่ายเอง


หมอรพ.เอกชนส่วนใหญ่ก็มาจากรพ.รัฐนั่นแหละครับ แต่ทำรพ.รัฐหมอไม่ต้องมาปกป้องผลประโยชน์ของรพ.เหมือนเอกชน พอไปเอกชนมันก็จะพาณิชย์มากกว่า

เวลาสมัครทำประกันเราต้องบอกความจริงครับว่าป่วยเป็นอะไรบ้าง และมีแนวโน้มจะโดนยกเว้นโรคครับถ้าทำได้

ตอบเป็นประเด็นๆ ไปแล้วกันนะครับ

1. บริษัทประกันส่วนใหญ่ แผนประกันสุขภาพแบบเริ่มต้น (ไม่แพง) มักไม่มีส่วนของ OPD
จะไปเน้นที่ IPD คือต้องแอดมิทนอนรพ.ถึงเบิกได้ หรือเป็นพวกผ่าตัดเล็ก (ตามคำวินิจฉันแพทย์) ที่อาจจะอยู่รพ. 6 ชม. แต่ไม่ต้องนอนก็ได้
เหตุผลมีสองอย่าง
อย่างแรก คือ เวลาเราป่วยแบบ OPD แล้วต้องไปรพ. จ่ายค่ารักษา 1,500-3,000 มันไม่ทำให้เราล้มละลาย ชีวิตลำบากไปเลย พูดง่ายๆ คือ จ่ายไหว
แต่ถ้าป่วยแบบต้องแอดมิท เช่น ตรวจเจอเนื้องอก ต้องทำบอลลูน ผ่าตัดไส้ติ่ง มะเร็ง ปอด หัวใจ สมอง
ป่วยทีหนึ่ง ถ้าไม่มีประกันเลย บางทีแทบล้มละลาย ชีวิตหมดเนื้อหมดตัวเลย
ประกันมันมีวัตถุประสงค์หลัก คือ คุ้มครองความเสี่ยงครับ

อย่างที่สอง ให้พูดตรงๆ ก็คือ บริษัทประกันเขาไม่ค่อยคุ้มที่จะให้ OPD เข้ามาอยู่ในแผน
ยกตัวอย่าง สมมติซื้อประกันสุขภาพปีละ 30,000 บาท แล้วมีวงเงิน OPD 2,000 ใช้ได้ 30 ครั้งต่อปี
สมมติป่วยเล็กน้อย ปวดหัว เป็นไข้ ท้องเสีย ผื่นคัน ไปรพ. 10 ครั้ง เขาก็ขาดทุนแล้วครับ
เพราะประกันเก็บเบี้ยไป 30k แต่จริงๆ เขามีค่าใช้จ่ายอื่นอีก ค่าคอมตัวแทน ค่าจ้างพนง. สนง.ต่างๆ เอกสาร ภาษี ฯลฯ

2. แต่ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย หลายบริษัท ก็จะมีแบบ OPD ให้ ในแผนประกันที่สูงๆ หน่อยครับ แต่พวกแผนเริ่มต้นไม่ค่อยมีกัน
เช่น ของ AIA (ผมรู้แค่ที่นี่ ที่อื่น ลองสอบถามเพื่อนๆ ใกล้ตัวว่ามีใครทำอยู่บ้างกันดูเองนะคัรบ)
แผนประกันแบบเหมาจ่ายของ AIA เบสิค มีสี่ตัว
คือ 1 ล้าน 5 ล้าน 15 ล้าน 25 ล้าน
อันนี้คือวงเงินรักษาต่อปี มีแค่แผน 25 ล้านเท่านั้นที่มี OPD ให้ครั้งละ 2,000 บาท 30 ครั้งต่อปี

3. ถ้าซื้อประกันแบบเหมาจ่าย หมายความว่า วงเงินค่ารักษาในแบบ IPD จะเหมารายปี
เช่น ถ้าให้มา 5 ล้าน จะผ่าตัดครั้งแรก 3 แสน ก็หักวงเงินไป เข้ารักษาครั้งที่สอง เจอไป 2 ล้านก็หักไป
ถ้าภายในหนึ่งปี ใช้ไม่เกิน 5 ล้านก็ไม่ต้องจ่ายส่วนต่าง

ประกันสุขภาพแบบไม่เหมาจ่าย (สมัยก่อนเป็นแบบนี้) มักจะกำหนดวงเงินยิบย่อยไว้เป็นต่อครั้ง เช่น รักษาครั้งแรก ส่วนของห้องผ่าตัด ได้เท่านี้ ค่าหมอได้เท่านี้ ค่าหัตถการได้เท่านี้
ซึ่งจะมีวงเงินแต่ละครั้ง สมมติกำหนดไว้ว่าผ่าตัดเบิกได้ครั้งละ 80k ถ้าใช้ได้ 100k เราก็ต้องจ่ายส่วนต่างเอง
หลังๆ มาคนเลยนิยมแบบเหมาจ่าย มันง่ายดี
แต่ทั้งนี้ ต้องไปดูรายละเอียดอีกทีนะครับ เพราะไม่ใช่ทุกอย่างจะเหมาจ่ายหมด จะมีอยู่บางรายการ
เช่น ค่าห้อง เขาจะมีวงเงินลิมิตอยู่ว่าได้คืนละเท่าไหร่ ในแต่ละแผน เช่น คืนละ 3,000-5,000-9,000 แล้วแต่แผน

4. สำหรับท่านอายุ 31 เพศชาย สมมติว่าไม่สูบบุหรี่นะ และไม่มีปัญหาสุขภาพใดๆ เลย
ถ้าเป็น AIA ประกันแบบเหมาจ่ายเริ่มต้น แผน 1 ล้าน
ค่าเบี้ยปีละ 17,301 บาท (อันนี้คร่าวๆ นะ)
โดยจะรวมกับเบี้ยประกันชีวิตด้วย เพราะต้องมีประกันชีวิตเป็นตัวหลัก
ค่าเบี้ยประกันชีวิตคงที่ทุกปี แต่ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ จะปรับเพิ่มทุกอายุที่ลงท้ายเลข 1,6 เช่น 36-41-46-

แต่ถ้าท่านจะทำแบบที่มี OPD ด้วย แผน 25 ล้าน
ค่าเบี้ยปีละ 40,001 (คร่าวๆ นะ)

อันนี้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่า ถ้าอยากได้ OPD มันต้องเพิ่มเยอะ คำนวณแล้วบางคนมีเงินเหลือเยอะ ทำคุ้ม บางคนไม่ได้มีเหลือเยอะ ไม่คุ้มครับ

5. จริงๆ แล้วผมเหมือนเห็นบริษัทประกันอื่นๆ จะมีแผน OPD เฉพาะทำออกมาขายเหมือนกันนะ
เช่นของ FWD ท่านลองศึกษาดูเพิ่มเติมแล้วกัน

6. แต่ถ้าจะทำประกันสุขภาพ ขอแนะนำให้ทำกับบริษัทประกันที่เขาพ่วงตัวประกันสุขภาพไว้กับประกันชีวิตนะครับ อย่าไปทำประกันสุขภาพเดี่ยวๆ อันนั้นอาจจะประหยัดเงินไปได้ 2-3 พันค่าเบี้ยประกันชีวิต แต่มีความเสี่ยงที่วันหนึ่งเกิดท่านป่วยเรื้อรัง รักษาต่อเนืื่อง เคลมค่ารักษาปีละเยอะๆ แล้วเขาอาจจะขอยกเลิกในปีถัดไปได้

7. ถ้าท่านยังมีประกันกลุ่มอยู่ แล้วเกิดประกันกลุ่มนั้นเป็นของ AIA ท่านสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มจาก AIA ได้ ซึ่งประหยัดกว่าคนที่ซื้อเองต่างหากโดยไม่มีประกันกลุ่ม
ส่วนของบริษัทอื่น ผมไม่ทราบ ลองสอบถามกันดูอีกที

8. ถ้าท่านออกจากงานแล้ว มีสองทางเลือกครับ
8.1 ส่งประกันสังคมต่อ แบบมาตรา 40 ใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้เหมือนสมัยยังทำงาน อย่าปล่อยให้ขาด
8.2 ใช้สิทธิบัตรทอง แต่ท่านต้องทิ้งประกันสังคม
ถ้าเป็นพวกโรคเล็กน้อย บัตรทองไปคลินิคที่อยู่ในลิสต์ของท่าน ไปช่วงบ่ายๆ คนน้อยมากครับ
ผมเป็นเกาต์ ไปใช้บัตรทองที่คลิินิค รับยากินประจำ ไปแปปเดียว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงได้ยาแล้ว
แต่ถ้าต้องไปรพ. จะนานและยุ่งยากกว่า

9. ที่ท่านบอกว่ามีปัญหาเรื่องหลังต้องกายภาพ อันนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประวัติสุขภาพ ที่ต้องแถลงตอนสมัคร หมายความว่า ต่อให้ท่านซื้อ OPD แต่ท่านมีประวัตินี้แล้ว ท่านก็ไม่ได้รับความคุ้มครองในส่วนนี้อยู่ดี เขาจะยกเว้นอาการนี้
ประกันเขาไม่สามารถคุ้มครองโรคหรืออาการที่เป็นอยู่แล้วได้ เขาคุ้มครองตอนที่ยังไม่ได้เป็นครับ
อย่างผมเป็นเกาต์ เขาก็ไม่คุ้มครอง ผมก็เลยไปใช้สิทธิบัตรทองแทน