พลังงานฟอสซิล ถือเป็นแกนหลักของระบบพลังงานทั่วโลกตลอด 200 กว่าปีที่ผ่านมา เราต่างเคยได้ยินว่าพลังงานฟอสซิล ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก อันเป็นสาเหตุเกิดสภาพภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า “โลกเดือด” https://www.thaipbs.or.th/now/infographic/267

ในรูปนั่น ของไทยน่าจะไม่ได้คิดถึงภาคอุตสาหกรรม
โดยเฉพาะโรงไฟฟ้า ที่ผลิตด้วยถ่านหินล้นๆ เลย

พูดในแง่เทคนิค

เป็นเรื่องที่ นักวิทย์ทุกคนรู้ แต่ไม่มีปัญญาทำอะไร
ไม่เผาแล้วจะให้ทำยังไงหว่า

มันไม่มีตัวเลือกอะไรเลยที่เอามาแทนได้
จะบอกว่า นิวเคลียร์ หรือพลังงานสะอาด
ไอ้ของที่เอามาก่อสร้างโรงงาน สร้างแผงโซล่า สร้างกังหัน
คิดถึงการผลิต+ขนส่ง+อายุการใช้งาน เผลอๆ ปล่อยมลภาวะมากกว่าถ่านหินอีก

พูดในแง่ความรับผิดชอบ

ประเทศตะวันตก ก็จะชี้นิ้วมาทางจีน อินเดีย ว่าปล่อยมลภาวะสูง
แต่ถ้ามองกลับไปว่า ประเทศพัฒนาแล้ว มันพัฒนากันได้ก็เพราะปล่อยมลภาวะทิ้งไว้เพียบ
ประเทศที่ก้ำกึ่งจะพัฒนา ถ้าจะก้าวหน้าไปก็ไม่มีทางเลือก ก็ต้องใช้พลังงาน
คลิปนี้มีข้อมูลครบอยู่ ประมาณนาทีที่ 3.4 จะเห็นภาพชัด

พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจลจากคลื่น นำมาใช้ให้หมด มันคือพลังงาน บริสุทธิ

พลังงานลมสร้างมลพิษเสียงรบกวน พลังงานแสงอาทิตย์ทำให้พื้นที่ผลิตไฟฟ้าจากแสงร้อนขึ้น พลังงานจากคลื่นจะทำลายแนวประการังแนวชายฝั่ง ผมได้ยินข่าวแบบนี้จาก ngo จากพวกต่อต้านต่างๆในไทยบ่อยมากครับ จะสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มก็บอกต้องบุกรุกที่ป่า จะทำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็อ้างว่าไม่ปลอดภัย ทางเลือกเดียวที่เค้าบังคับให้เรามีคือซื้อไฟจากเพื่อนบ้านครับ บางทีก็อิจฉาจีนนะครับอยากทำอะไรทำได้หมดไม่มีพวกคัดค้านเลย

5-10ปีก็ไปหวันกันหมดละ

ทำโรงงานนิวเคลียร์ซะก็หมดเรื่อง
การคุมพลังงานเดี๋ยวนี้ก็ทำได้ดีกว่า 30-40 ปีก่อนตั้งมากมาย
เผื่อใครไม่รู้ ตอนนี้เค้ากำลังพัฒนา เตาปฏิกรณ์ขนาดเล็กย่อยๆมารวมกัน ฟีลต่อวงจรขนาน
ไม่ได้เป็นเตาเบิ้มๆ เหมือนสมัยก่อนแล้ว น่าสนใจมากว่า ถ้าเสีย พัง ก็จัดการเป็นส่วนเล็กๆได้ ปัญหาไม่มากเหมือนเตาเบิ้มๆ อีก

ลงนิวเคลียร์ซัก 3000ลูก ลดประชากรก่อนเลย ได้ให้โลกพักฟื้นตัว

จะใช้พลังงานแบบไหนโลกก็ไม่หายร้อน หลายประเทศบอกประชากรลดลง ก็หาวิธีเพิ่มประชากรอยู่ดี ทรัพยากรไม่พออยู่ดี