คุณบอกว่าคุมกัลโช่มีลุ้นแชมป์ ผมเลยอยากมาตอบ

แต่เด เซบี้ ไม่ได้ฝีมือขนาดนั้นหรอกครับ ถ้าอยู่กัลโช่

ผลงานก็บอกอยู่ กลางๆ จะเอาให้ไปยุโรปเอาให้รอดยังยาก

จะถามหาแชมป์ได้ยังไง

จะเอาแชมป์กัลโช่ ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นครับ อันนี้เหมือนดูถูกกัน

คนเก่งกว่าทำได้ดีกว่า เงื่อนไขยากกว่านี้ อย่างซารี่ อินซากี้ เค้าพิสูจน์มาแล้วครับว่าดีกว่า

แล้วนาโปลี กับ ลาซิโอ้ นี่อย่าเพิ่งมาบอกว่าทีมใหญ่กว่าซัสซูนะครับ ช่วงนั้นก็เละเทะเหมือนกันนั่นแหละ

ไม่ได้ต่างกันหรอก ในกัลโช่ มีแค่ 2-3 ทีมแค่นั้นแหละที่พื้นฐานเด่นกว่าทีมอื่น คือยูเว่ กับ อินเตอร์
มิลาน ตอนนั้นก็ลูกผีลูกคนเหมือนกัน
และมันต้องดีระดับนี้ ถึงได้ลุ้นแชมป์


หรือจะเอาปัจจุบันอย่างม็อตต้า ทำโบโลญญ่าก็ได้ครับ ผลงานแบบนี้มันดีกว่าที่เดเชบี้เคยทำแล้ว

ถ้ามาคุมยูเว่ ผมว่าแฟนยูเว่ก็คงไม่กล้าพูดหรอกมั้ง ว่าจะได้ลุ้นแชมป์อะไร เพราะอินเตอร์ ช่วงนี้แกร่งจริง

*** แก้ม็อตต้า คุมโบโลญญ่าครับขออภัย

อิตาเลียน เดี๋ยวมาซ้อมชิลซ้ำรอยน้าแจ้ไหมนะ

ไม่น่ารอดครบจนจบฤดูกาล ปัจจุบันทำทีมก็ไม่ใช่จะประสบความสำเร็จเท่าไร ถ้าทำได้อย่างผจกทีมวิลล่าก็ไปอย่าง กลัวจะเหมือนพอตเตอร์เอา

ท่านน่าจะพิมผิดม็อตต้าโบโลญญ่าหรือเปล่าครับ

แฮร์รี่ เคนไม่ถูกใจสิ่งนี้ 555

อา ใช่ครับ ขอบคุณมากที่แก้ให้ครับ

รีบๆเอาไปเลย ไอ้ท็อดด์จะได้ตัวเลือกน้อยๆ

น้ามูมั้ย 555

แฮรี่ เคน อะไรจะจังหวะนรกขนาดนี้

อิตาเลียนกับเยอรมัน มันไปด้วยกันไม่ได้

(ยกเว้นช่วงสงครามนะ 555)

ไปคุมเอฟซีฮอลลีวู้ดมารอให้ทำผลงาน ค่อยๆ ปั้น ไม่ได้นี่สิ

กรณีนี้ ให้เอารังนิคมาคุม ยังจะดีกว่าเอา เด แชร์บี้ มาคุมทีม

แต่เมื่อรังนิคขอคุมทีมชาติออสเตรียต่อไป ตัวเลือกเฮ้ดโค้ชที่เสี่ยงมารับงานนี้ก็เหลือไม่มากแล้ว จะลอง มูริญโญ่ ดีไหม
หรือว่าฟลิค เผื่อได้ผลอีกรอบ หลังจากชาบี้เปลี่ยนใจคุมบาร์ซาต่ออีกฤดูกาล

เอาคนอื่นเถอะ คนนี้ใครยังไม่รู้จักเลย

เป็นโค้ชที่น่าจับตามองของเซเรีย อา มาซักพัก
เซเรีย อา จะมีโค้ชแนวนี้โผล่มา ประมาณ 1-3 ปี ต่อคน

อย่างปีก่อน ก็อิตาเลียโน่
ถ้าปีนี้ ก็มอตต้า

ขนาดอันเช่ยังคุมได้ปีกะไม่กี่เดือนละโดนไล่ออกเลยครับ อิตาลี่ แค่พูดเยอรมันก็ยากละ

พูดยากเหมือนกัน 2 คนนี้ ดูจะเป็นคนละสไตล์อะ

อันเช่ นี่จะแบบ เน้นสร้างทีมด้วยความเป็นองค์รวม ภาพรวม จูนภาพรวมให้เข้ากัน แล้วก็กลบจุดด้อย ขับเน้นจุดเด่น
แล้วก็เลือกการ์ดกลยุทธ์ตามจังหวะ ในเกม

ความเข้มข้น ความดุดัน ในการทำงาน หรือ ในการซ้อม อาจจะไม่เข้ากับแนวทางเยอรมัน

แต่ของเดอ แซร์บี้ น่าจะอีกแบบไปเลย