กลายเป็นประเด็นดราม่าที่คนกำลังถกเถียงกันอย่างหนักหน่วงในโลกออนไลน์ตอนนี้เลยล่ะครับ

เรื่องเริ่มต้นมาจากมีลูกบ้านจากหมู่บ้านโครงการหรูแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ บางกรวย-ไทรน้อย จ.นนทบุรี

เข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอดว่าได้รับความเดือดร้อนหนักมากกกกกก หลังจากที่มัสยิดแห่งหนึ่ง เปิดเสียงละหมาดออกลำโพงเสียงดังสนั่น วันละ 5 เวลา

รายละเอียดจะขอแยกเป็นข้อ ๆ นะ จะได้เข้าใจง่าย ๆ

- มัสยิดอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร

- เจ้าของบ้านซื้อบ้านอยู่มาแล้ว 2 ปี ก่อนซื้อทราบรายละเอียดนี้แล้ว ว่ามีมัสยิดอยู่ใกล้ ๆ

- ก่อนซื้อบ้านเจ้าของบ้านเคยมาทดสอบฟังตอนละหมาด พบว่าไม่ดังเท่าตอนนี้ จึงตัดสินใจซื้อ

- เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงหลัง ๆ มานี้ มัสยิดมีการติดลำโพงเพิ่ม ทำให้เสียงละหมาดดังกว่าเดิม

- การละหมาดจะมีวันละ 5 เวลา เริ่มตั้งแต่ช่วง ตี 4 - 1 ทุ่ม ทำให้ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิต และไม่ได้มีแค่บ้านตนที่เดือดร้อน บ้านหลังอื่น ๆ ก็เดือดร้อนด้วย โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก และผู้สูงอายุ

- เจ้าของบ้านเคยวัดระดับเสียง พบว่ามีบางช่วงสูงถึง 89 เดซิเบล ทั้งที่อยู่ห่างจากจุดขยายเสียงถึง 1 กม.

- เคยแจ้งไปยัง อบต. แล้ว ก็มีการปรับลดเสียงให้ แต่ก็เป็นแค่ระยะสั้น สักพักกลับมาเปิดดังเท่าเดิม

- เจ้าของบ้านไม่ได้ต้องการให้ยกเลิกการละหมาด แต่ขอให้มัสยิดลดความดังลง

- เจ้าของบ้านเผยว่าได้รับผลกระทบหนักมาก เครียดจนนอนไม่ได้ ต้องไปพบจิตแพทย์ และต้องกินยานอนหลับ ถึงจะหลับได้สนิท

ด้านเจ้าหน้าที่ ก็จะประสานไปยังมัสยิด เพื่อขอความร่วมมือตามนี้ครับ

- ลดความดังของลำโพงลง จากระดับ 5 เหลือซัก 2

- รอติดตามผลการดำเนินงาน 1 เดือน ว่าลูกบ้านพึงพอใจหรือไม่

ส่วนนี่ เป็นข้อมูลจากฝั่งโต๊ะอิหม่ามนะครับ

- อิหม่ามประจำมัสยิด เปิดเผยว่าการใช้ลำโพงขยายเสียง ไม่เคยใช้ตอนละหมาด ใช้แค่ประกาศเรียกเตือนชาวมุสลิมว่าใกล้เวลาละหมาดแล้ว

- ส่วนเวลาละหมาดก็จะเป็นการใช้เสียงภายใน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกันแล้ว

- อิหม่ามบอกว่าสุเหร่าแห่งนี้สร้างมา 60 ปีแล้ว มีการปฏิบัติอย่างนี้มาตลอด

- อิหม่ามเปิดเผยว่าไม่เคยเพิ่มระดับเสียงของลำโพง หากลูกบ้านสงสัย ก็อนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบดูได้

- แต่หากจะให้ลดความดังลง ก็จะปรับลดให้ จากระดับ 5 (เต็ม Max) เหลือระดับ 2 ตามที่ขอความร่วมมือมา

เอาล่ะพอมีประเด็นนี้ขึ้นมาก็เกิดการถกเถียงขึ้น ว่าสรุปแล้วต้องทำตัวยังไงกันแน่!?

บางคนก็บอกว่า "อะไรที่มีอยู่ก่อน เรามาทีหลัง ต้องปรับที่เรา ไม่ใช่ให้สังคมปรับ"

อีกส่วนบอกว่า "เข้าใจว่าบางที บางสถานที่อาจจะเสียงดังไปจริง ๆ แนะนำให้รวมตัวกับผู้เดือดร้อน แจ้งทางการให้เป็นตัวแทนเข้าไปคุยกับทางมัสยิดดู"

คนนี้บอกว่า "ได้ยินมาตั้งแต่เกิดละ ถ้าหูไม่หาเรื่อง ก็ไม่น่าจะรู้สึกอะไรนะ"

อีกท่านเผยว่า "เวลาผมซื้อบ้าน ถ้าหมู่บ้านใกล้มัสยิด ผมจะไม่ซื้อเลยครับ เพราะรู้ดีว่าเค้าต้องละหมาด หรือทำพิธีทางศาสนาเค้าทุกวัน ไม่อยากเป็นปัญหาเองในอนาคต"

อีกคนมองว่า "คนมีอคติกับคนใจแคบมักเอาเรื่องแบบนี้มาเป็นประเด็นอยู่กับสังคมแต่ไม่เข้าใจสังคมอยุ่ยากเหมือนกันน่ะ"

ท่านนี้เสนอแนะได้อย่างน่าสนใจว่า "ถ้ามันดังก็ลดลงหน่อย พบกันครึ่งทาง เรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันครับ"

อีกคนหนึ่งเล่าประสบการณ์ว่า "ช่วงนึงพักอพาร์ทเม้นท์ใกล้มัสยิด ได้ยินเสียงดังฟังชัดก็เพราะดี ไม่เห็นน่ารำคาญเลย แต่สงสัยแค่ว่าทำไมถึงเปิดลำโพงคะ"

https://www.facebook.com/photo/?fbid=908169054445418&set=a.710601544202171

https://www.matichon.co.th/region/news_4555064

บ้านเราการบังคับกฏหมาย เรื่องสร้างความเดือดร้อนรำคาญนี่โคตรกาก

ขนาดพวกแว้น ขี้เมา เปิดเพลงเสียงดังแม่งยังแก้ไม่ได้

อันนี้เกี่ยวโยงกับศาสนาอีก ไม่มีจนท.อยากยุ่งหรอก ทำใจย้ายบ้านอย่างเดียวเลยครับ

อยู่มานานก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำ here อะไรก็ได้นิ่ครับ โลกเปลี่ยนไปก็ควรปรับตัวตาม ไม่ใช่ว่า กุทำแบบนี้มาก่อนแล้วจะต้องทำตลอดไป ไม่งั้นจะมีกฏหมายออกมาทำพระแสงไลท์เซเบอร์อะไรหล่ะฮะ

เคยเช่าบ้านอยู่ใกล้มัสยิดที่ต่างประเทศ ก็ไม่เห็นต้องกระจายเสียงออกลำโพงเลย สวดกันในนั้น ก็จบ

ส่วนตัวผมว่านะ ละหมาดก็ละหมาดไปอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง
เสียงดังแค่ในมัสยิดก็พอนะ
นี่แทบทุกที่เลย ติดลำโพงกระจายเสียง 8 ทิศทางรอดมัสยิด
แถมบางชุมชน มี2-3 มัสยิด แถมมีที่สอนศาสนาอีก
แล้วเริ่มมัสยิดไม่พร้อมกันอีก

บ้านผม 2 มัสยิดหน้าหลัง เสียงเหมือนมีเอคโค่เลย แต่ก็พออยู่ได้

บ้านเราการบังคับกฏหมาย เรื่องสร้างความเดือดร้อนรำคาญนี่โคตรกาก

ขนาดพวกแว้น ขี้เมา เปิดเพลงเสียงดังแม่งยังแก้ไม่ได้

อันนี้เกี่ยวโยงกับศาสนาอีก ไม่มีจนท.อยากยุ่งหรอก ทำใจย้ายบ้านอย่างเดียวเลยครับ

มีกฏหมายเกี่ยวกับเสียงมั้ย ถ้าดังเกินก็จัดการไป ถ้ายามวิกาลก็จัดการไป

ไม่เข้าใจว่าจะเปิดลำโพงทำไม ทำก็ทำในมัสยิดก็คงไม่มีใครว่า

จะอยู่มากี่ร้อยปี ถ้าผิดกฎหมายก็คือผิดแหละครับ

เคยไปดูหมู่บ้านจัดสรรในเครือของลุงนิด ทีแรกถูกใจพอสมควรละ

กลับมาส่องกูเกิ้ลดูสภาพโดยรอบ หลังหมู่บ้านข้ามคลองเล็กๆไปเป็นมัสยิด ผมกับแฟนล่มโครงการเลย

ไม่งั้นก็จะมีปัญหาเดียวกะในข่าวนี่แหละ

อยู่มานานก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำ here อะไรก็ได้นิ่ครับ โลกเปลี่ยนไปก็ควรปรับตัวตาม ไม่ใช่ว่า กุทำแบบนี้มาก่อนแล้วจะต้องทำตลอดไป ไม่งั้นจะมีกฏหมายออกมาทำพระแสงไลท์เซเบอร์อะไรหล่ะฮะ

เคยเช่าบ้านอยู่ใกล้มัสยิดที่ต่างประเทศ ก็ไม่เห็นต้องกระจายเสียงออกลำโพงเลย สวดกันในนั้น ก็จบ

สมัยโบราณไม่มีลำโพงก็ละหมาดได้นิ ทำไมต้องมีแล้วสร้างความรำคาญด้วยล่ะ ย้ายมัสยิดก็ดีนะถ้าลำบากคนอื่นขนาดนี้

ก็ไปหาคนแก่อายุซัก 70-80 แถวนั้น ให้ไปบอกอิหม่านว่า กุอยุ่มาก่อนพวกมึ- และกุรำคาญ

เมื่อก่อนแถวบ้านผมดังมาก ตั้งแต่ตีห้า ตอนนี้เงียบไปละ สงสัยเจออำนาจหมู่บ้านระดับหลังละ 20ล้าน Up ไม่ไหว

ปัญหานี้ไม่ซับซ้อนเลยอ่ะ เพราะพูดไม่ตรงกัน (แปลว่ามันมีซักคนที่โกหก)

- ฝั่งบ้านบอกว่าเคยเบาแล้วพอรับได้ แต่หลังๆเพิ่มลำโพงแล้วเสียงมันดังกว่าเดิม

(89 เดซิเบลนี่เยอะนะ ถ้าอยู่พรีเมียร์ได้แชมป์เดซิเบลคัพไปละ 555+)

- ฝั่งมัสยิดบอกไม่เคยเพิ่มความดัง ไม่เชื่อไปดูได้เลย..เอ้า งั้นเจ้าหน้าที่ก็ไปตรวจสอบเลย

เข้าไปวัดความดัง(ที่ฝั่งบ้าน) ตอนที่มัสยิดละหมาด ถ้ามันผ่านวันหลังลูกบ้านร้องเรียนเข้าไปวัดอีกรอบ

ถ้าวัดแล้วมันไม่เท่าเดิม ก็แปลว่า อิหม่ามตอแหล จบ..ถ้ามัวแต่ไปเข้าเรื่องดราม่า ใครมาก่อนมาหลัง ผมว่ามันไม่จบอ่ะ ไม่ตรงประเด็น..

คือประเด็นมันแค่เจ้าบ้านร้องเรียนว่ามรึงละหมาดดังกว่าเดิม ถ้าดังแค่เมื่อก่อนยังรับได้..งั้นหน่วยงานก็แค่ไปตรวจสอบว่าใครโกหก

ผมฟังทุกวัน ไม่ชินแค่สัปดาห์แรก หลังจากนั้นจะใส่เต็มแค่ไหนก็ทำอะไรผมไม่ได้

ย่านโครงการปิ่นเกล้า-วงแหวน ป่าวหว่าครับ

เคยนั่งอ่านพันทิพย์ เห็นมีแต่คนบ่นเรื่องนี้

edit อ่านอีกที บางกรวย-ไทรน้อย นิหว่า เริ่มแปลกใจละว่าพวกโครงการใหม่นี่ทำไมชอบไปอยู่แถวๆ มัสยิดกันจัง