คิดแบบไม่เอาผลประโยชน์ของประเทศเลยนะ คิดว่าจะแบ่งเค้กแบ่งเก้าอี้ล้วนๆ ทำไมกระทรวงนี้ไม่แยกออกมาเป็น 1. ท่องเที่ยว 2. กีฬาซักทีครับ

การท่องเที่ยวคือรายได้อันดับ 1 ของประเทศ แต่กลับถูกพ่วงกับกีฬาไว้ซะงั้น ที่สองเรื่องนี้ไม่ถูกแยกกันเพราะอะไรหรอครับ

กีฬาลูกเมียน้อยคับ ส่วนท่องเที่ยวตัวแบกประเทศ แต่ต้องมาเจียดงบไปดูแลกีฬา ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำเพื่อ แต่ถ้าจะให้คิดแบบง่ายๆ น่าจะเอา ตัวทอปมาแบกลูกเมียน้อย แค่นั้นแหละ แนวคิด

รัฐธรรมนูญกำหนดให้จำนวนรัฐมนตรีมีได้ไม่เกิน 35 คน ครับ

บางคนไม่รู้จะเอาไปยัดลงกระทรวงไหน แต่อยากให้ได้เป็นรัฐมนตรี ก็เอาไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกครับ

ซึ่งข้อกำหนดมีแค่ ทุกกระทรวงต้องมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง

ส่วนรัฐมนตรีช่วย / สำนักนายก แล้วแต่จะไปจัดเลยครับ เอาแค่ Total ไม่เกิน 35 คนพอ

ความคิดแบบโบราณเต่าล้านปี กีฬาคือลูกเมียน้อย ส่วนท่องเที่ยวก็ทำๆ ไปตามที่ควร เอาคำพูดของอดีต รมต เมื่อครั้งนึงมะ


แต่โลกยุคปัจจุบัน กีฬานอกจากจะพัฒนาให้เต็มรูปแบบแล้ว มันยังต่อ-ยอดได้มหาศาล รวมได้กระทั่งพวกอีสปอร์ตหรืออื่นๆ หากมีสมองและความคิดสร้างสรรค์

ส่วนท่องเที่ยวนี่แทบไม่ต้องพูดถึง แทบควรจะต้องทำให้เป็นเรื่องอันดับท็อปของรัฐบาลเลย

ครม.สมัยก่อนมีได้30-40คนเลยมั้งครับเกิดไม่ทันแต่ไม่ได้นานมาก อาจจะเพิ่มในอนาคตก็ได้ ส่วนเรื่องแยกท่องเที่ยวกับกีฬา กีฬานี่เล็กมากครับส่วนเสริมอันกระจิดริดเลยครับ มีสำนักหรือหน่วยงานอื่นอีกเพียบที่พร้อมจะเป็นกระทรวงหรือไม่ก็รวมกันก็กลายร่างเป็นกระทรวงได้ครับ เคยเห็นข่าวอาจจะมีกระทรวงน้ำได้ยินตั้งแต่ คสช.ละ อาจจะเป็น กรมทรัพยากรน้ำ,น้ำบาดาล,สนทช. รวมร่างกันก็ได้ละมั้ง แต่กระทรวงทรัพฯเสียกรมไปสองจะยอมไหมก็ไม่รู้ แต่กรมเกี่ยวกับน้ำควรอยู่กับกระทรวงน้ำ ช่วยแย่งประปาไปจากมหาดไทยด้วยก็ได้

ยุบกรมหม่อนไหม ก่อตั้งกรมวัว ตั้งกระทรวงน้ำ แยกกระทรวงศึกษา ตั้งกระทรวงกีฬา

อยากให้แยกเหมือนกันครับ เดี๋ยวนี้กีฬามันเป็นอาชีพและเอนเตอร์เทนเม้นท์แบบหนึ่งไปแล้ว เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเยแยะมาก ถ้าทำดีๆ มันก็สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้ประเทศได้เหมือนเดิม