'โบเว่น' แสบยิง+จ่าย!! หงส์ได้แค่นี้ค้อนตามเจ๊า 2-2 ปล่อยเค้าลุ้นแชมป์
ลิเวอร์พูล ยังย่ำแย่ต่อไปมาเสียประตูจากเตะมุมอีกครั้งด้วยลูกโหม่งของ จาร์ร็อด โบเว่น แล้วถึงแม้จะแซงกลับมานำได้แต่ก็ไม่วายโดน โบเว่น แอสซิสต์ให้ มิเคอิล อันโตนิโอ โหม่งตีเสมอเข้าไปทำให้ หงส์แดง ต้องเจ๊ากับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-2 เตรียมโดนหัวตารางทิ้งห่างต้องปล่อยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลุ้นแชมป์กับ อาร์เซน่อล ไป
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
Starting Formation: 4-2-3-1
28.
โทมัส ซูเช็ค
74'
6.5
ตัวสำรอง
7.
เจมส์ วอร์ด-พราวส์
74'
6.0
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม ลอนดอน สเตเดี้ยม
วันที่ 27 เมษายน 2567
กรรมการ แอนโธนี่ เทย์เลอร์
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
2
2
ลิเวอร์พูล
1-0 โบเว่น 43'
2-2 อันโตนิโอ 77'
1-1 โรเบิร์ตสัน 48'
1-2 อเรโอล่า 65'
เวสต์แฮม เปลี่ยนไลน์อัพจากตำแหน่งก่อนเพียงแค่คนเดียวโดย โบเว่น หายเจ็บกลับคืนสู่ไลน์อัพได้แล้วทำให้ พราวส์ โดนดร็อปไป
ส่วนทางด้าน ลิเวอร์พูล ก็เปลี่ยนเหมือนกันดร็อปทั้ง นูนเญซ, ซาล่าห์ และ โซบอซ์ไล โดยให้ เอลเลียตต์, กัคโป และ กราเฟ่นเบิร์ค ลงแทนส่วนแนวรุบ ควอนซาห์ ได้รับโอกาส
หงส์ลองก่อน เอลเลียตต์ ยิงเข้าข้างตาข่าย
โอกาสทักทายของ ลิเวอร์พูล มาแล้วด้วยการฝาก โรเบิร์ตสัน เติมมารอบบอลทางซ้ายแล้วเปิดเข้าเขตโทษ กัคโป พยายามโหม่งสะบัดบอลหลุดมาเสาไกล เอลเลียตต์ วิ่งมายิงเข้างข้างตาข่าย
ค้อนมาบ้าง โบเว่น ยิงไปโดนรับได้
มีช่วงที่ เวสต์แฮม กดดันได้ดีและก็หาโอกาสได้หลังเพรสซิ่งกันแล้ว ซูเช็ค ดักบอลได้ตรงกลางเด้งเข้าทาง โบเว่น จบด้วยการยิงหน้าเขตโทษไปโดนรับไว้
หงส์ได้ฟรีคิก เทรนท์ ปั่นข้ามคาน
กลับมาเป็น ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องทางซ้ายใกล้ๆหัวกะโหลก เทรนท์ เป็นผู้รับหน้าที่จัดการปั่นด้วยขวาแต่ยังส่งบอลข้ามคาน
หงส์ได้ลุ้นจุดโทษแต่ล้ำหน้าไปก่อน
ลิเวอร์พูล บุกมามีจังหวะที่ เอลเลียตต์ วางบอลเข้าเขตโทษให้ ดิอาซ ตามเก็บแล้วปาดมาตรงกลางให้ กัคโป จะยิงแต่โดน อ๊อกบอนน่า แหย่สกัดล้มบอลไปเข้าทาง ดิอาซ พยายามยิงอีกทีก็ไปติดแขนของ อ๊อกบอนน่า เป็นจุดโทษได้แต่สุดท้ายย้อนจับล้ำหน้า
เทรนท์ ลุยมายิงเองออกปัดไปก่อน
ยังเป็นจังหวะบุกของ หงส์แดง อยู่หลังจาก กัคโป โหม่งต่อบอลถึง เทรนท์ ทางขวาทางสะดวกเลี้ยงลุยเข้าเขตโทษไปซัดแต่โดนปัดออกมา
ค้อนลุ้นบ้าง! คูฟาล ยิงแฉลบยังโดนเซฟติดมือ
ขุนค้อน บุกกลับมาหาโอกาสจบกันบ้างเมื่อ อัลวาเรซ โยนขึ้นหน้าเข้าเขตโทษ ปาเกต้า สอดไปโหม่งตั้งกลับมา โบเว่น รอจังหวะบอลตกแต่โดนสกัดไปก่อนอดยิง บอลยังเข้าทาง คูฟาล ยิงไกลสวนเข้ามาติดแฉลบนิดแต่ อลิสซอน รับติดมือ
หงส์มาใหม่ กัคโป ยิงหลุดกรอบ
ท้ายครึ่งแรกเป็นโอกาสของ ลิเวอร์พูล อีกครั้งเมื่อจ่ายยาวขึ้นหน้าให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ สอดไปเก็บบอลในเขตโทษแล้วเปิดข้ามมาอีกเสา ดิอาซ ยังเกี่ยวได้ก่อนจ่ายย้อนให้ กัคโป วิ่งมายิงบอลหลุดกรอบ
ไม่นำ! ดิอาซ เลี้ยงตัดเข้าในยิงชนเสาแรก
เกือบเป็นประตูนำให้กับทีมเยือนเข้าแล้วเมื่อสวนกลับขึ้นมาทางซ้าย ดิอาซ เลี้ยงจี้เข้ามาในเขตโทษแล้วแตะเข้าในเปิดช่องก่อนจะยิงเรียดส่งบอลชนเสาแรกเต็มๆ
ค้อนนำเข้าให้! เตะมุมเล่นสั้นเปิดถึง โบเว่น โหม่งเข้า
แต่แล้วก่อนหมดครึ่งแรก เวสต์แฮม เป็นฝ่ายออกนำ เริ่มจาก ลิเวอร์พูล เล่นผิดพลาดหน้าเขตโทษเปิดโอกาสให้ โบเว่น ยิงไปติดเซฟและพอจังหวะเตะมุมเล่นสั้นแล้วเปิดเข้ามาตรงกลางก็เป็น โบเว่น คนเดิมโหม่งส่งบอลกระดอนเข้าเสาไกล เวสต์แฮม นำ 1-0
หงส์ลุยต่อ กราเฟนเบิร์ต ยิงออกหลัง
กลับมาครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ลุยทันทีจาก เทรนท์ ทางขวาเปิดข้ามไปฝั่งซ้ายให้ ดิอาซ มารับบอลแล้วดึงจังหวะรอในเขตโทษก่อนจ่ายเข้ากลาง กราเฟนเบิร์ค วิ่งมายิงพุ่งออกหลัง
หงส์ฟื้นแล้ว! โรเบิร์ตสัน เติมมาได้ยิงโดนปัดชนเสาเข้าตีเจ๊า
แล้วหลังจากนั้น ลิเวอร์พูล บุกมาอีกครั้งและตีเสมอสำเร็จ เป็นการขึ้นทางซ้ายฝาก ดิอาซ เลี้ยงตัดเข้าเขตโทษก่อนจ่ายให้ โรเบิร์ตสัน ตรงกลางจับก่อนจะยิงยิงแหวกกองหลังมาได้ อเรโอล่า ปัดไม่พ้นชนเสาเข้าประตู ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1
หงส์ได้โอกาสอีก กราเฟนเบิร์ค จะสะกิดแต่โดนบางๆ
เกือบจะมีประตูเพิ่มให้กับ ลิเวอร์พูล ในจังหวะ กัคโป ฉีกไปรับบอลทางซ้ายก่อนตัดเข้าในแล้วเปิดเข้าเขตโทษให้ กราเฟนเบิร์ค สอดไปหันหลังให้ประตูเลยพยายามดีดส้นสะกิดบอลแต่โดนบางๆบอลกระดอนออกเสาสอง
หงส์ได้จบอีก เทรนท์ ยิงไกลโดนปัดทิ้ง
ยังเป็นทาง ลิเวอร์พูล กดดันต่อแล้วหลังจากต่อบอลขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษก็มีโอกาสจบอีกเมื่อ โรเบิร์ตสัน จ่ายให้ เทรนท์ ลองยิงไกล 25 หลาแต่โดนปัดออกหลัง
ลูกนี้เฮง! กัคโป ยิงแฉลบสามเด้งเข้าประตูหงส์นำเลย
โอกาสของ ลิเวอร์พูล มาอีกแล้วและก็เปลี่ยนเป็นประตูนำสำเร็จ เริ่มด้วยจังหวะยิงไกลที่ กัคโป ซัดไปโดนปัดออกหลังก่อนเตะมุมจากทางซ้ายเปิดมาโดนโหม่งลอยตั้งมาหา กัคโป ที่เสาไกลยิงไม่ดีแต่ยังมีเฮงบอลโดน อ๊อกบอนน่าเปลี่ยนทางหาประตูแล้วแฉลบ ซูเช็ค ที่ยืนคุมเส้นก่อนเปลี่ยนทางโดน อเรโอล่า เข้าประตูไป ลิเวอร์พูล กลับมานำ 2-1
หงส์ยังมาเรื่อยๆแต่ไม่เจอตุงที่สาม
หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล หาโอกาสลุ้นนำเพิ่มได้อีกมีทั้งจังหวะแทงให้ ดิอาซ วิ่งแข่งกับกองหลังตามเข้าไปยิงในเขตโทษแต่ติดเซฟ ตามด้วยจังหวะที่ตักบอลเข้าเขตโทษแล้ว แม็ค อัลลิสเตอร์ วิ่งสอดกองหลังไปโหม่งแต่โดนบางเลยถูกรับ
เอแมร์ซอน ซัดหน้าเขตโทษเจอปัด
เกมขยับเข้าสู่ช่วงท้าย เวสต์แฮม ต้องพยายามบุกเพื่อประตูตีเสมอแล้วได้จังหวะ อลิสซอน ตัดลูกครอสไม่อยู่มือทำให้บุกต่อแล้วจบด้วย เอแมร์ซอน ยิงจากหน้าเขตโทษ อลิสซอน ยังปัดได้
ค้อนเอาคืน! โบเว่น เปิดให้ อันโตนิโอ โหม่งตีเสมอ
หลังจากนั้น ขุนค้อน บุกต่อแล้วหาประตูตีเสมอสำเร็จ ด้วยการฝาก โบเว่น ทางขวาค่อยๆเลี้ยงจี้มาตามองเพื่อนไปด้วยแล้วครอสให้ อันโตนิโอ ในเขตโทษ โหม่งเข้าไป เวสต์แฮม ตีเจ๊าบ้าง 2-2
หงส์ส่ง โม,หนูน ลงมาช่วยทำประตู
เหลือเวลาอีกไม่เยอะ ลิเวอร์พูล อยูเฉยไม่ได้เปลี่ยนเอา ซาล่าห์, นูนเญซ รวมถึง โกเมซ ลงมาช่วยทีมควานหาประตูเพิ่ม
ค้อนรอดไป คูฟาล สกัดได้ทันก่อน หนูน ล่อเป้า
เวสต์แฮม รอดไปได้หวุดหวิดกับจังหวะที่ ลิเวอร์พูล บุกมาแล้วทำชิ่งกันส่ง ซาล่าห์ สอดมาในเขตโทษทางขวาปาดไปหน้าประตู นูนเญซ รออยู่แต่มี คูฟาล ช่วยสกัดไว้ทัน
มีจังหวะงงๆอีก เทย์เลอร์ เป่าก่อน กัคโป ยิง
มีจังหวะแปลกๆให้เห็นอีกแล้วหลัง อเรโอล่า ลุกมาเล่นต่อจากจังหวะก่อนหน้าที่โดนชนล้มแล้วโยนบอลไว้ข้างหน้าตัวเองรอเล่น ซึ่งตอนนั้นไม่มีเสียงนกหวีดบอกว่าเกมหยุดทำให้ กัคโป วิ่งไปกะจะยิงแต่ เทย์เลอร์ ดันเป่านกหวีดขึ้นมาเลยพางง สุดท้ายเรียกแพทย์มาดูอาการ อเรโอล่า แล้วแข่งต่อ
ไม่นำ!! เอลเลียตต์ ส่องไกลชนคานอย่างจัง
จังหวะโต้กลับของ ลิเวอร์พูล เกือบกลายเป็นประตูนำให้กับ ลิเวอร์พูล อีกแล้วเมื่อ ซาล่าห์ ลุยขึ้นมาทางขวาก่อนจ่ายให้ นูนเญซ ตรงกลางแต่ย้อนหลังไปเลยส่งให้ เอลเลียตต์ จบด้วยการยิงไกลชนคานเต็มๆ
จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอกับ เวสต์แฮม 2-2 ทำให้ตอนนี้พวกเขาแข่งมากกว่า 2 ทีมหัวตารางและแต้มยังตามหลังอยู่ 1-2 คะแนนโดยที่จะเหลือเกมให้ลงสนามอีก 3 นัด
นอกจากนี้ฟอร์มช่วงหลังในลีกของพวกเขาไม่ดีจริงๆ 5 นัดชนะแค่เกมเดียวเท่านั้น
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
78.
จาเรลล์ ควอนซาห์
90+1'
5.5
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
79'
6.0
3.
วาตารุ เอ็นโด
79'
5.5
10.
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
6.0
7.
หลุยส์ ดิอาซ
79'
7.0
ตัวสำรอง
2.
โจ โกเมซ
79'
-
8.
โดมินิก โซบอสซ์ไล
90+1'
-
11.
โมฮาเหม็ด ซาล่าห์
79'
-
9.
ดาร์วิน นูนเญซ
79'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Sat Apr 27, 2024 23:22, ทั้งหมด 9 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ