ทำเหมือนรู้จักกันในชีวิตจริงเลยนะครับ

หัวใจสำคัญของเรื่องที่ท่านเล่ามา ผมมองว่าคือ "คนรู้จัก" ครับ
ผมว่าเหตุการณ์แค่ที่ท่านว่า มันน่าจะยังไม่สามารถตีความไปได้ 100% นะครับ ว่าคน ๆ นั้น เวลานั้นเค้า "อารมณ์ดีอยู่" ให้หลังจากการทักทาย หยอกล้อกับท่านแล้ว เขาอาจจะยังมีเรื่องราวในชีวิตมากมายรออยู่เบื้องหลังให้เครียดมากกว่าแค่เรื่องอากาศร้อนก็ได้ครับ

สมมติผมนะ ชีวิตวันนี้ ผมเฮงซวยแต่เช้าเลย ออกจากห้อง ขับรถไปทำงาน กาแฟแม่งก็หกใส่เสื้อ เข้าออฟฟิศเจอเจ้านายเรียกไปบ่นอีก ข้าวเที่ยงที่สั่งแม่งก็ได้ช้าแถมยังไม่อร่อยอีก เดินไปซื้อก็ต้องเจอแดดร้อนบรรลัย 40 องศา แต่ท้ายที่สุดระหว่างทางกลับเข้าออฟฟิศ ผมเดินสวนกับ "คนรู้จัก" ผมก็มั่นใจว่า ผมสามารถจัดระบบ ระเบียบ ให้ตัวเองไม่พ่นคำหยาบ ไม่บ่น ไม่พล่ามเรื่องร้ายที่เจอมาทั้งวันใส่ "คนรู้จัก" คนนั้นที่เดินสวนกันอย่างแน่นอนครับ เพราะเค้าไม่ใช่คนที่ต้องมาเป็นที่รองรับอารมณ์อะไรผมครับ

แต่ถ้าเห็นจากที่ท่านถามกลับคนอื่น ๆ ว่า แล้วคน ๆ นั้นเค้ามีวิธีการจัดการยังไงให้อารมณ์ดี ผมว่าเรื่องนี้มันก็คงลึกไปถึงเรื่องอื่น ๆ เข้ามาปะปนด้วยแล้วล่ะครับ แต่ก็ใช่ว่ามันจะปรับเปลี่ยนได้กับมนุษย์ทุกคนโดยง่ายดายครับฟ ทุกวันนี้โลกมันถึงต้องมีคอร์สเรียน คอร์สอบรม คอร์สเกี่ยวกับจิตวิทยาในการพูด คอร์สการจัดการอารมณ์ การปรับเปลี่ยน Mindset การจัดการวุฒิภาวะ อยู่เต็มไปหมด

เป็นผมผมต่อยแม่งเลยครับ โมโห

ขอบคุณมากๆ ครับสำหรับ คคห คุณภาพแบบนี้เดี๋ยวไปลองดูคอร์สพวกนี้ต่อ

อากาศร้อนใจอย่าร้อนตาม ถ้าเจอคราวหน้าค่อยจัดการย้อนหลังก็ได้วันนี้ปล่อยไปก่อน

ร้อนแล้วต้องอารมณ์ไม่ดี พาล ส่งพลังลบให้คนอื่นหรอ

เพราะคุณบอกว่า ทำไมถึงอารมณ์ดีได้ แล้วเขาก็แค่ยิ้มๆให้ คุณก็ถึงกับใช้คำว่า อะไรของมัน มันทำให้ผมคิดว่าคุณตัดสินว่า อากาศร้อนๆ มันต้องอารมณ์ไม่ดี คนอื่นก็ต้องอารมณ์ไม่ดีด้วย จะมาทักคนอื่นเล่นตลกหัวเราะคิกคักได้อย่างไร ถ้าสงสัยอยากรู้จริงๆก็ไม่น่าจะต้องใส่อารมณ์ขนาดนั้น

คงต้องหาคอร์สอมรบจริงๆ

เมื่อเช้าเขาได้ขึ้นเรือครับเลยอารมณ์ดี

111111

เอ๋าแล้วบอกอย่าเอาความคิดตัวเองคิดแทนคนอื่น

นี่คุณกำลังตัดสินผมอยู่นะครับเนี่ยยย

เค้าอาจจะซ้อมแดด ก็ได้ครับ

เชื่อละว่าร้อนจริง

เข้าใจละว่าร้อนจริง