UPDATE: เริ่มงานได้ไม่นานก็ลาออกแล้ว! ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในบริษัทญี่ปุ่น ถึงขั้นพัฒนา AI เพื่อเข้ามาทลายความท้าทายนี้
.
ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีพนักงานใหม่จำนวนมากที่ลาออกจากงานในระยะเวลาอันสั้นหลังจากเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน

นอกจากนี้ตัวเลขจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ยังแสดงให้เห็นว่า อัตราการลาออกภายใน 3 ปีแรกของการทำงานของบัณฑิตจบใหม่ยังคงสูงกว่า 30% มาตลอดกว่า 10 ปี สะท้อนสถานการณ์ที่ 3 ใน 10 คนของผู้ที่เริ่มทำงานลาออกภายใน 3 ปี และ 24.5% ลาออกภายใน 2 ปี ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบ 10 ปี

โยนให้คนรุ่นเจนรุ่นต่อไป ผมก็โดนเทวดาที่ให้กำเนิดด่า

ไม่อดทนเป็นแรงงานบริษัทมืดเลย

เอาจริงๆ วัฒนธรรมองค์กรญี่ปุ่นมันเลวร้ายมาก

- เด็กที่จะจบมหาลัย ต้องหางานรอ 1 ปีก่อนจบ (แต่จะเรียนจบไหมไม่รู้) ถ้าหาไม่ได้ ก็ต้องหาตอนเรียนจบ แล้วว่างงานไป 1 ปี ไปทำงาน part time ร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหาร
- ญี่ปุ่นจะรับงานเป็นรอบๆ ช่วงต้นปี
- ทีนี้ประเด็นคือถ้าคุณเข้าทำงาน แล้วคุณไม่ชอบวัฒนธรรมองค์กร เช่น
1. ต้องเข้างานก่อนหัวหน้า ออกงานหลังหัวหน้า (แล้วหัวหน้าคือ babyboomer หรือ gen x ที่ส่วนใหญ่ก็บ้างาน ก็ต้องเข้างานก่อนเวลามากๆ หรือออกหลังเวลางานมากๆ)
2. โดนชวนไปดื่ม คุณไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ แล้วคุณจะเมาแค่ไหนก็แล้วแต่ แต่วันรุ่งขึ้น คุณต้องมาทำงานตรงเวลาได้
3. ที่ทำงานเงียบมาก ห้ามคุยกัน บางที่ที่ไม่ได้ใช้มือถือทำงาน เอามือถือขึ้นมาก็โดนมองว่าผิดแล้ว
4. คำสั่งหัวหน้าเป็นที่สุด ถ้าหัวหน้าด่า คุณต้องฟัง รับไม่ได้ คือคุณอ่อนแอ
5. เทคโนโลยีบางบริษัทล้าหลังอย่างน่าตกใจ บางที่ยังใช้ Fax หรือระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เก่าแก่ เพียงเพราะเจ้าของบริษัทคิดว่า "ก็ถ้ามันยังใช้ได้ แล้วจะเปลี่ยนทำไม"
คุณจะลาออกก็ได้แต่ย้อนกลับไปขีดบนสุด บริษัทรับสมัครงานกันแค่ช่วงต้นปี ซึ่งต่อให้คุณสมัครต้นปี คุณก็ได้เข้าทำงานปีหน้าอยู่ดี และมีเด็กจบใหม่มาแย่งงานคุณตลอด ในขณะที่คุณเป็น loser ที่ลาออกจากที่อื่นมา

ทั้งหมดทั้งมวล มันเลยกลายเป็นต้นตอบริษัทมืด (Black Company) ที่หัวหน้าหรือเจ้าของงานจะโขกสับยังไงก็ได้ เพราะคนก็ไม่อยากตกงาน

source: trust me bro แล้วกัน ผมเรียนที่ญี่ปุ่นมาเพื่อนๆคนญี่ปุ่นที่จบไปแล้วมาเล่าให้ฟังเยอะ

ไม่อดทนหรือว่า
วัฒนธรรมองค์กรไม่ตอบโจทย์
หน้าที่ความรับผิดชอบไม่ตรง
ไม่มีการอบรมพนักงานเข้าใหม่ที่มีประสิทธิภาพ
หัวหน้างานเพื่อนร่วมงานเป็นพิษ
ผลตอบแทนนไม่จูงใจพอ
ไม่เหมือนที่โฆษณาไว้

มองได้หลายมุมนะ

อยากจะขำบอกเอา AI มาทำงานแทน

เอาให้เริ่มใช้โปรแกรมแบบ Salesforce ให้เป็นก่อนจ้า

คนพัฒนา AI จะทนได้หรือเปล่าคือคำถามต่อไป

คนรุ่นเก่าหลายๆคนเค้ามองว่าคนรุ่นใหม่ความอดทนต่ำ ภูมิคุ้มกันต่ำ เอาตัวอย่างมีคนเล่าว่านักศึกษาพยาบาลที่ รพ.แห่งหนึ่ง
สมัยก่อนต้องขึ้นเวรตลอด ต้องอ่านหนังสือสอบเอง แนวข้อสอบก็หายาก
แต่ยุคนี้ พี่ๆพยายามจัดช่วงแรกให้เวรเยอะๆพอใกล้สอบเวรจะได้น้อยๆน้องๆจะได้มีเวลาอ่านหนังสือ รวมถึงมีรุ่นพี่ติวให้ มีคลังข้อสอบเก่า ถ้าให้พูดตรงๆคือสบายกว่ารุ่นเก่า

และคนรุ่นเก่ามองว่าคนรุ่นใหม่ฟุ่มเฟือย ชอบง่ายๆเร็วๆ

3 ปีนี่ก็นานละนะ
ผมว่าเด็กสมัยนี้เค้าอยากใช้โอกาส ใช้ความเสี่ยงของเค้าให้คุ้มค่านะ
ไม่ใช่แค่เรื่องความอดทนหรือวัฒนธรรมองค์กรอะไรหรอก
(ย้ายงานอัพเงิน ลองสายงานอื่น ฯ)
รุ่นผมก็เป็นแบบนี้ละ(40) ถ้าไม่มีภาวะจำเป็นอย่าง หนี้ ลูกเมีย ฯ ก็มองกันเรื่อยๆแหละ
จะเริ่มมีความคิดอยากย้ายงานครั้งสุดท้ายกันตอนก่อนจะ 40 นี่แหละ เริ่มอิ่มตัวกันละ แต่ก็ไม่ทุกคน


ถ้าบ่นก็อารมณ์ปีเดียวหรือหลักเดือนนี่ถึงบ่นกัน

ไม่อดทนเป็นแรงงานบริษัทมืดเลย

เอาจริงๆ วัฒนธรรมองค์กรญี่ปุ่นมันเลวร้ายมาก

- เด็กที่จะจบมหาลัย ต้องหางานรอ 1 ปีก่อนจบ (แต่จะเรียนจบไหมไม่รู้) ถ้าหาไม่ได้ ก็ต้องหาตอนเรียนจบ แล้วว่างงานไป 1 ปี ไปทำงาน part time ร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหาร
- ญี่ปุ่นจะรับงานเป็นรอบๆ ช่วงต้นปี
- ทีนี้ประเด็นคือถ้าคุณเข้าทำงาน แล้วคุณไม่ชอบวัฒนธรรมองค์กร เช่น
1. ต้องเข้างานก่อนหัวหน้า ออกงานหลังหัวหน้า (แล้วหัวหน้าคือ babyboomer หรือ gen x ที่ส่วนใหญ่ก็บ้างาน ก็ต้องเข้างานก่อนเวลามากๆ หรือออกหลังเวลางานมากๆ)
2. โดนชวนไปดื่ม คุณไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ แล้วคุณจะเมาแค่ไหนก็แล้วแต่ แต่วันรุ่งขึ้น คุณต้องมาทำงานตรงเวลาได้
3. ที่ทำงานเงียบมาก ห้ามคุยกัน บางที่ที่ไม่ได้ใช้มือถือทำงาน เอามือถือขึ้นมาก็โดนมองว่าผิดแล้ว
4. คำสั่งหัวหน้าเป็นที่สุด ถ้าหัวหน้าด่า คุณต้องฟัง รับไม่ได้ คือคุณอ่อนแอ
5. เทคโนโลยีบางบริษัทล้าหลังอย่างน่าตกใจ บางที่ยังใช้ Fax หรือระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เก่าแก่ เพียงเพราะเจ้าของบริษัทคิดว่า "ก็ถ้ามันยังใช้ได้ แล้วจะเปลี่ยนทำไม"
คุณจะลาออกก็ได้แต่ย้อนกลับไปขีดบนสุด บริษัทรับสมัครงานกันแค่ช่วงต้นปี ซึ่งต่อให้คุณสมัครต้นปี คุณก็ได้เข้าทำงานปีหน้าอยู่ดี และมีเด็กจบใหม่มาแย่งงานคุณตลอด ในขณะที่คุณเป็น loser ที่ลาออกจากที่อื่นมา

ทั้งหมดทั้งมวล มันเลยกลายเป็นต้นตอบริษัทมืด (Black Company) ที่หัวหน้าหรือเจ้าของงานจะโขกสับยังไงก็ได้ เพราะคนก็ไม่อยากตกงาน

source: trust me bro แล้วกัน ผมเรียนที่ญี่ปุ่นมาเพื่อนๆคนญี่ปุ่นที่จบไปแล้วมาเล่าให้ฟังเยอะ

AI ไม่ได้เข้ามาแทนคนแบบ 1:1

แต่ AI เข้ามาเป็นส่วนเสริมให้พนักงานเก่า

เช่น พนักงานชำนาญการ 1 คน + AI fine-tune ตาม demand ขององค์การ จะสามารถทำงานได้เทียบเท่าพนักงาน 3-5 คน นั่นคือ point ของข่าวนี้

ดีแล้วครับ ญี่ปุ่นตอนนี้ต้องการคนที่มีจิตวิญญาณในการทำงานแบบคนยุคบูมเมอร์ หรือ GENX
ไม่เหยาะแหยะแบบคนรุ่นใหม่บสงส่วน
เลือกไว้เฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีจิตวิญญาณแห่งการบ้างานเหมือนกันก็พอ พวกเหยาะแหยะให้ตกงานให้หมด

ผมมองว่ามันเข้าสู่ยุคเปลี่ยนถ่ายมากขึ้นนะ กฏระเบียบเมื่อก่อน ตอนนี้ก็อาจต้องปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ให้เหมาะสม อย่างสมัยก่อนทำงานหยุดแค่วันอาทิตย์วันเดียวเป็นเรื่องปกติ ตอนนี้ส่วนใหญ่หยุดเสาร์-อาทิตย์กันเยอะแล้ว คนสมัยใหม่แสวงหาความสุข มากกว่าจะทำงานเพื่อหวังความก้าวหน้า ร่ำรวยขนาดนั้น

ตอนหางาน บ.ยุ่นคือข้ามเลย กลัวไปเจอ culture แปลกๆ
รู้ตัวเองว่าอยู่ไม่ได้แน่นอน

เล่าสู่กันฟัง

เคยไปสัมภาษณ์ทีนึง เพราะพี่ที่เป็นGeneral Managerสนิทกัน และต้องการให้ไปช่วยงาน...แต่ห้ามบอกในห้องประชุมเด็ดขาดว่ารู้จักกัน นายญี่ปุ่นของเขาจะถือเรื่องนี้มาก

สรุปคะแนนจากนายชาวญี่ปุ่นของเขาคือ ผมตกตั้งแต่เดินผ่านประตูห้องสัมภาษณ์ ยังไม่เริ่มนั่งคุย เพราะผมไม่ผูกเน็คไท และขณะก้าวเข้าห้องสัมภาษณ์มือยังล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ โดยไม่ฟังเนื้อหาที่สัมภาษณ์ และนั่งเฉยๆแบบไม่ถามอะไรเลยจนจบ
แค่เผอิญว่าผู้ร่วมสัมภาษณ์(ไทย)ให้ความเห็นตรงกันทุกคน ว่าผมแก้ปัญหาทั้งหมดให้บริษัทเขาได้แน่ เขาถึงกลับมายอมพิจารณาและอนุมัติแค่เงินเดือนต่ำสุด(ในระนาบเดียวกัน)ให้ สรุปเลยไม่ได้ทำงานกัน

ปล. บริษัทนี้ติดเครื่องสแกนนิ้วทุกประตู แม้กระทั่งประตูเดินเข้าห้องน้ำ เพื่อตรวจสอบจำนวนครั้งและเวลาที่เข้าห้องน้ำในแต่ละวันของพนักงานทุกคนครับ

คนหมดใจจะทำละมั้ง 40กว่ายังได้แค่ระดับกลาง เด็กไม่ต้องพูดถึง เพราะคนอายุ70ไม่ยอมออกไปไหนสักที

แค่เรื่องเวลาทำงาน

มาตรงเวลา กลับตรงเวลา

แล้วยังมีปัญหา มันผิดที่ใคร ถามจริงเหอะ

ในขณะที่เรายกย่องประเทศญี่ปุ่นเจริญนักหนา

แต่กลับละเลยเรื่องพวกนี้ แทนที่จะไปเน้นเรื่องคุณภาพงานแทน

เข้าก่อนหัวหน้า ออกหลังหัวหน้า

ลับหลังโดนด่า ค. เป็นแถวอ่ะครับ

ผมละโครตเกลียดเลย เราไม่ได้เอาเปรียบอะไรบริษัท

แล้วบริษัททำไมต้องมาเอาเปรียบคนทำงานด้วย

อยู่ญี่ปุ่นตอนนี่ไม่เคยมีความคิดอยากทำงานบริษัทซักนิด ทำงานทั่วไปก็เก็บเงินได้