ถ้ามองในมุมที่อัลลี่พูดมันก็จริงนะ สะท้อนให้เห็นเลยว่าจิตใจคุณแข็งพอแค่ไหน

เกมใหญ่ กดดันๆ ไม่เห็นแม่งมาแย่งกันขอยิง แทบจะถวายพานให้พาล์มเมอร์ออกไปรับหน้าที่

เช่นเดียวกัน ทุกคน11คนลงไปในสนามล้วนมีหน้าที่ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ แบบที่พาล์มเมอร์มันทำเนี่ย ก็เพราะหน้าที่ยิงจุดโทษเป็นสิ่งที่มันต้องรับผิดชอบไง มันเลยเต็มที่และไม่เคยพลาด

จนได้ขึ้นมาท้าชิงดาวซัลโว ทั้งที่ทีมตัวเองอยู่กลางตารางแบบตอนนี้

โอ้โห อ่านแต่ข่าว ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ต้องออกไม้ออกมือ ไม่มีใครยอมใครเลย สุดๆ

ภาษากายไอ 2 ตัวนี้แย่ชิบหาย

ออกแนวน่าเกลียดเลย ขนาดแฟนบอลยังโห่

แถวบ้านเรียกเห็นแก่ตัว ไม่ใช่ passion

ผมก็คิดงี้นะ จริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นที่ แฮททริคไปแล้วผมว่าจะให้เพื่อนยิงจากที่เห็นมาทั้งหมดนะยกเว้นจะลุ้นดาวซัลโวช่วงท้ายๆ อะไรแบบนี้ เพราะให้เพื่อนยิงเพื่อความมั่นใจแต่พาลเมอร์เองก็จะยิงเพราะเป็นมือ 1 เลยแย่งกันนัว

โครตเด็กน้อยเลยแจค

พูดตรงประเด็นมาก ไม่น่าเชื่อว่าเป็นอัลลี่

ตรงจิตตรงใจ หน้าที่มือ 1 มือ 2 โค้ชต้องรับคับ ไม่เช็คให้ชัว แย่งกันจัง ไม่เกี่ยวว่าใคร ยิงเยอะแล้วไรแล้ว พาลเมอร์มีสิทธิ์คิดได้ว่า ตูยิงเยอะทุกนัด แต่พวกเอ็งชอบปล่อยเสียทุกครั้ง งั้นตูต้องยิงอีกเพื่อให้ห่างอีกแบบนี้ก็ได้นะ


อีกมุมก็อ่ะ แย่งกันนักไม่ต้องยิงทั้งคู่

อ่าใช่คับ พาลเมอร์จะลุ้นดาวซัลโว ตอนนี้ยิงเท่าฮาแลนด์ละ ถ้าแกให้เพื่อนยิงเมื่อวาน แกจะยิงน้อยกว่าฮาแลนด์ลูกนึง

คนเรียกจุดโทษคือพาลเมอร์นะ
ไม่ใช่มาดูเอเก้ กรรมการเป่าย้อน
มาให้จังหวะที่พาลเมอร์โดนเปิดปุ่ม
เหยียบจากด้านหลัง เพราะจังหวะ
ของมาดูเอเก้ กองหลังเอฟปั๊มที่บอล
ไม่ใช่การฟาล์วจากจังหวะนั้น

ปกติที่เจอ เขาจะเดินเข้าไปขอ คนยิงประจำหลักก่อน แล้วค่อยเอาบอลมา

นี่มาดูเอเก้ กับ แจคสัน แม่งแย่งกัน ไม่ถามพาลเมอสักคน 5555

สมเพชชิพหาย เป็นภาพที่ออกมาน่าอายสุดๆ

แต่ก็ดีแล้วให้เป็นประเด็นใหญ่ๆให้พูดถึง เพื่อแก้ไขซักที

“ในเกมใหญ่ ๆ ตอนที่มีความกดดัน ผมไม่เห็นพวกเขาแย่งกันยิงจุดโทษ มันโอเคแหละตอนที่สกอร์เป็น 4-0 และคุณอยากจะมีชื่อทำประตู”

โอยยยยยยย จุกไปดิ