โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ยังไม่การันตีอนาคตของตัวเองว่าจะยังคุมทีม ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในฤดูกาลหน้าหรือไม่ ท่ามกลางข่าวลือได้รับความสนใจจาก ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค

เด แซร์บี้ เป็นเป็นกุนซือเนื้อหอมหลังจากพา ไบรท์ตัน ไปเล่นฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

เฮดโค้ชชาวอิตาเลียนจะพาลูกทีมไปเยือน ลิเวอร์พูล เพื่อทำศึกพรีเมียร์ลีกวันอาทิตย์นี้ โดยเขาเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่อาจแทนที่ เยอร์เก้น คล็อปป์

เมื่อถูกถามว่าเขาจะยังคุมถิ่น เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ในซีซั่นหน้าหรือไม่ เด แซร์บี้ กล่าวว่า "ผมยังไม่ได้ตัดสินอนาคตของตัวเอง"

เด แซร์บี้ ซึ่งมีข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่นกันจะยังไม่ตัดสินอนาคตของตัวเองจนกว่าจะได้พูดคุยกับ โทนี่ บลูม เจ้าของทีมไบรท์ตัน

เทรนเนอร์วัย 44 ปีกล่าวเสริมว่า "ผมอยากพูดคุยกับสโมสรของผม ผมยังมีสัญญา แต่ปัญหาไม่ใช่สัญญา ปัญหาคือการหาแผนเดียวกัน เป้าหมายเดียวกัน และมีวิสัยทัศน์เดียวกันสำหรับอนาคต"

"ผมอยากคุยกับ โทนี่ เพื่อทำความเข้าใจแผนของเขา แล้วเราจะตัดสินใจร่วมกันโดยไม่มีปัญหา ผมอยากทราบว่าโปรเจ็กต์คืออะไรเพราะถ้าไม่สบายใจผมก็คงอยู่ต่อไม่ได้"

"ความสัมพันธ์ของผมกับผู้เล่นและแฟน ๆ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับอนาคต สิ่งที่เราทำคือประวัติศาสตร์และไม่มีใครลืมมันได้"

งงป่ะ? อุตส่าห์ได้ไปเล่นยุโรป แทนที่จะเสริมทีมให้ดี ๆ ดันขายตัวหลักเอาเงิน แล้วเงินที่ได้มาแทนที่จะไปซื้อตัวดี ๆ ดันไปเน้นซื้อแต่ตัวถูก ๆ

ในแผนระยะยาว ไบรตัน ไม่ตกชั้น
อยู่ในลีกไปเรื่อยๆ เจ้าของเงินเขาก็พอใจแล้วแหละ

อันนี้มองตามสภาพจริงและ background ของทีมเลย

ไบรตันขายตัวแพงๆ ตัวดีๆที่พอมีชื่อจะซื้อกลับเข้ามา
ในเรตๆ 20-30m ก็พอมี 2-3ตัว

ทีมระดับนี้รับความเสี่ยงได้ในระดับนี้แหละครับ
ขืนซื้อตัวแพง ค่าเหนื่อยก็แพงตามด้วย

เป้าหมายเขาประมาณนี้ อันดับตอนนี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว

ผมว่าทีมไม่ได้หวังต่อยอดขึ้นมาเบียดพื้นที่ยุโรปหรืออะไรอยู่แล้วครับ แค่อยู่รอดได้ในพรีเมียร์ก็พอแล้ว นักเตะแพงๆมันเสี่ยงเกินไปครับสำหรับทีมไซส์นี้

ลาก่อนครับ นายเก่งแหละ
แต่รากฐานไบรตัน มาจาก โทนี่ บลูม คนสำคัญที่สุด
รองลงมาก็ พอตเตอร์ ที่วางระบบจนแน่น
พอนายเข้ามาปรุงมันก็กลมกล่อมมากขึ้นแค่นั้นเอง
ทุกคนต้องการความก้าวหน้า ไบรตัน ส่งนายได้แค่นี้
ขาดนายไป ไบรตัน ก็ไม่ตายแน่นอน
เพราะเรามี โทนี่ บลูม ค๊าบบบบ
ท้ายสุดขอให้โชคดีบนเส้นทางสายใหม่น๊า

ไม่มีไรมากหรอก
บุคลากรอยากไปทีีมใหญ่ เป็นเรื่องปกติ

ตกลงเรื่องสัญญากันได้ ก็ลงนาม
ไม่ว่าย้าย/อยู่ต่อ

บาเยินซะมั้งดูแล้ว

เหยด งั้นตี๋จัดทีมรอเลย โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ เป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล

ดาร์วิน

ดิอาซ - แม็ค อัลลิสเตอร์ - ซาลาห์

เอ็นโด - อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

โรเบิร์ตสัน - ฟาน ไดจ์ค - โคนาเต้ - แบรดลี่ย์

อลิสซง

พูดลักษณะนี้ อาจจะหมายถึง เรื่องที่ว่า ไบรท์ตัน จะทะเยอทะยานกว่านี้ไหม หรือจะเป็นทีมที่ ปั้นขายมากกว่าจะยกระดับเป็นทีมที่ใหญ่ขึ้น เริ่มสร้างเสถียรภาพในการเป็นทีมระดับลุ้นพื้นที่ยุโรปหลายปีต่อเนื่อง

คือปัจจุบัน มันเลี่ยงไม่ได้ ที่ไบรท์ตัน จะเสียตัวหลักทุกปี และสิ่งนี้ ขัดขวางพัฒนาการของทีม แผนงานของทีม หากจะยกระดับเป็นทีมที่ใหญ่ขึ้น ดึงดูดนักเตะได้มากขึ้น แถมปีนี้ชัดเจนว่า พอทีมมรโปรแกรมถี่ขึ้น หมุนเวียนนักเตะแล้วฟอร์มแกว่ง ยังแทนกันไม่ค่อยลงตัว ขนาดทีมต้องใหญ่ขึ้นรองรับ

ไม่งั้นก็ต้องปั้นให้ทันขาย ถ้าไม่ทันก็ซื้อบางตัวมาประคอง ถ้าพลาดก็จะเป็นแบบ อาแจ็กซ์ ปีที่แล้วเสียคู่กลางตัวเทพไป สองคน นี่ก็สาหัสแล้ว ยังประคองตัวได้ถึงตรงนี้ไม่ขี้เหร่ครับ

ผมเชื่อว่า มาถึงจุดที่ เดอ แซร์บี้ อยากก้าวไปอีกจุดแล้ว ทีนี้อยู่ที่ โทนี บลูม แล้วครับ จริง ๆ ถ้าลงทุนกับตัว ปสก ที่ผ่านเกมยุโรปมาอีก 4-5 ตัว ไบรท์ตัน จะยกระดับทีมได้เลย ปีนี้ตกรอบเพราะขาด ปสก. นี่แหละ

ยิ่งดู ยิ่งรู้สึกว่าฝีมือเฉยๆมากคนนี้

อยากย้าย สรุปง่ายๆ 555555

แผนคงแค่อยู่ในPLต่อไปได้เตะบอลถ้วยถือเป็นกำไร จะทุ่มหาตัวดีมีราคามาเสริมทัพการเงินก็ไม่เอื้อ
จะพัฒนาขึ้นอีกคงต้องไปหาฐานต่อไปที่ใหญ่กว่าเดิม

ขาย ไซเกโด้ กับแมค ได้150ล้าน+

ไปเซ็นตัวฟรีมา2-3ตัว
ตัวนึงแก่ มากอย่างมิลเนอร์
ตัวนึงเป็นจอมเจ็บอย่างดาฮูด

กับ กองหลังบราซิล มา14ล้าน
บาเรบา มา14ล้าน
เจาเปรโด25ล้าน

ไม่แปลกที่ ตัวเจ็บบาน

ให้สัมภาษณ์ทรงนี้ก็ 50 50 แล้วล่ะ